26 ม.ค. 2022 เวลา 05:50 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
Spider Man - No way Home 🕷
ดูในโรงภาพยนต์
ขอมอบให้ 9/10 คะแนน
และเนื้อหาด้านล่างคือการชวนคุยสำหรับคนที่ดูแล้ว
และสำหรับคนที่อยากรู้เนื้อหาในเรื่อง
🚨🚨🚨SPOIL 100%🚨🚨🚨
โรงหนังที่สวิสดีตรงที่หนังอยู่นานมาก นานแบบที่ไม่ต้องรีบเข้าไปดูในอาทิตย์แรกที่ฉายก็ได้ พวกหนังใหญ่ ๆ จะอยู่คาโรงไปอีกเป็นเดือนนั่นแหละ
ตอนแรกคิดว่าจะรอให้เข้าใน Streaming แต่ตามอ่านข่าวแล้วเห็นว่าน่าจะอีกนาน เกี่ยวเนื่องกับสัญญาของบริษัท SONY อะไรนี่แหละ เมื่อมีโอกาสเข้าเมืองและว่างพอจะเข้าโรงหนังได้ จึงเลือกดู Spider Man แทน Matrix และ 007
และนี่คือ 10 Short Notes หลังดูจบ
1. เรื่องราวในภาคนี้ต่อเนื่องจากภาคที่แล้วนิดหน่อย ใครไม่ได้ดูภาคที่แล้วก็ดูต่อเนื่องได้ไม่มีปัญหา เรื่องมีอยู่ว่าเจ้าตัวร้ายภาคที่แล้ว ส่งคลิปเปิดเผยหน้าตาของ Spider Man ว่าคือ Peter Parker เด็กหนุ่มวัยรุ่นคนหนึ่งเท่านั้น
ซึ่งส่งผลกระทบกับชีวิตของเค้าต่อเนื่องมาเป็นลูกโซ่ มีทั้งคนที่คลั่งไคล้ และมีทั้งคนที่ต่อต้าน สิ่งที่ทำให้ Peter รู้สึกแย่ที่สุดก็คือ ตัวเขาและเพื่อน ๆ ถูกมหาลัย MIT ปฏิเสธที่จะรับเข้าเรียนต่อ ด้วยเหตุผลว่าเค้าคือ Spider Man และเพื่อนพ้องคนสนิท
2. Peter Parker รู้สึกอับจนหนทางจึงมุ่งหน้าเข้าไปหา หมอแปลก-Dr. Strange นักเวทย์ทีม Avengers เพื่อให้ช่วยร่ายเวทย์มนต์ให้ผู้คนลืมว่า Peter Parker คือ Spider Man ระหว่างหมอแปลกกำลังร่ายเวทย์ ​อี Peter เกิดมีข้อแม้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เวทย์ที่กำลังร่ายต้องเพิ่มขึ้นทีล่ะข้อ จนในที่สุดก็ไม่สามารถร่ายเวทย์ได้สำเร็จ
และจบลงตรงที่ หมอแปลกเพิ่งมาถามว่า ที่จะมาขอให้ทุกคนลืมเนี่ยเพราะเพื่อนเข้า MIT ไม่ได้ใช่มั้ย แล้วได้โทรไปคุยกับเค้ารึยัง - อี Peter Parker หน้ามึนถามกลับว่า เอ้า โทรไปคุยก็ได้ด้วยเหรอ??
3. Spider Man ภาคนี้ที่จริงก็สนุกที่สุดในบรรดาสามภาคทั้งหมด ใจจริงอยากจะให้คะแนน 10/10 ไปเลย ติดที่ว่าบทมันเขียนให้หมอแปลกเป็นตัวตลกที่ไร้เหตุผลไปเสียหน่อย
ซึ่งภาพจำของฉันที่มีต่อหมอแปลกนั้นไม่ใช่แบบนี้ - นี่อะไร เด็กมาขอให้ร่ายเวทย์เพื่อให้คนลืม แกก็พาลงไปทำให้ง่าย ๆ ไม่พูดไม่คุยกันให้ชัดเจน ทั้ง ๆ ที่แกเป็นหมอมาก่อน มันควรต้องอธิบายถึงผลดีผลเสีย หรือประเมินเชิงจิตวิทยากันก่อนมั้ยอ่ะ อี Peter Parker นี่เพิ่งอายุ 17 เองนะ
4. เอาล่ะเรื่องมาพีคตรงที่ว่า ถึงแม้หมอแปลกจะร่ายเวทย์ไม่สำเร็จ แต่ช่วงที่ทำการร่ายเวทย์นั้นมันได้ไปเปิดเส้นทาง Multiverse เข้าให้เสียแล้ว ทำให้ตัวร้ายจากโลกอื่นที่รู้ว่า Peter Parker คือ Spider Man โผล่เข้ามาในโลกนี้ด้วย
5. เรารู้สึก Surprise กับคนเขียนบทมากว่า - เอ้า มึงเขียนบทแบบนี้ก็ได้เหรอคะ? คือ Spider Man เนี่ยถูกสร้างเป็นภาพยนต์ขึ้นมาสามครั้งรวมครั้งนี้ด้วย ซึ่งใช้คนแสดงต่างกัน แล้วก็มีตัวร้ายต่างกัน เนื้อเรื่องอาจจะใกล้เคียงกันแต่ก็ไม่เหมือนกันซะทีเดียว
การเปิด Multiverse ก็คือเอาตัวร้ายที่มีทั้งหมดทั้งมวลในโลก Spider Man ออกมา พอตัวร้ายค่อย ๆ โผล่ทีละตัว ฉันซึ่งได้ดูไม่ครบทุกภาคทุกตอนของ Spider Man ทั้งหมด ก็ต้องเค้นสมองนิดนึงว่า ตัวร้ายตัวนี้มาจาก Version ไหน? และมี Background ยังไง?
ซึ่งนั่นเป็นข้อด้อยอีกข้อนึงของหนังภาคนี้ เพราะมันทำให้สนุกได้ไม่เต็ม 100% นักถ้าดูมาไม่ครบทุกภาคทุก version
6. หนังพาให้เราพีคไปกับตัวร้ายมากมายจากโลกอื่นของ Spider Man ไปสักพัก จากนั้นก็ตบเราอีกทีด้วยการให้ Spider Man อีกสองตัวโผล่มาด้วย ซึ่งถือเป็น Surprise ที่ทำให้แฟน Spider Man ยิ้มแก้มแตกได้เลย
ก็ยังยืนยันเหมือนข้อข้างต้นว่า มันคือข้อด้อยนิดหน่อย เพราะถ้าคนไม่เคยดู Version เก่า ๆ ที่นำแสดงโดยตัวแสดงอื่น ก็อาจจะไม่อินเต็มที่เท่ากับแฟนตัวยง (เช่นฉาก Spider-Andrew ไปช่วย MJ ตอนตกตึกไว้ได้ แฟนพันธ์แท้จะตื้นตันใจมากเพราะรู้ปูมหลัง)
แต่ถ้ามองในแง่แฟนพันธุ์แท้ Spider Man ก็ขอบอกว่ามันทำให้เราอิ่มเอมใจมาก ๆ ที่ได้เห็น Spider Man ทั้ง 3 Version โลดแล่นอยู่ด้วยกันในเรื่องนี้
7. ฉากบู๊ในภาคนี้ นอกจากการต่อสู้ของ Spider Man ทั้ง 3 กับตัวร้ายต่าง ๆ ที่สนุกมากแล้วนั้น ฉันก็ชอบที่ให้ Spider Man ได้ต่อสู้กับหมอแปลก-Dr.Strange ด้วย มันรู้สึกเหมือนได้ดูหนังสองเรื่องของ Marvel พร้อม ๆ กัน
8. มุกตลกสไตล์ Marvel ยังคงเส้นคงวาเช่นเดิม ซึ่งนั่นคือเสน่ห์ที่ทำให้หนังของ Marvel เป็นที่รัก
9. Spider Man - No way home ภาคนี้เน้นย้ำประโยคทองของเรื่องที่ว่า “with great power, comes great responsibility” - พลังที่ยิ่งใหญ่มาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง
Peter Parker ได้เรียนรู้มันอย่างลึกซึ้งและเติบโตขึ้นจนแทบจะกลายเป็นอีกคน - ไม่มีอีกแล้ว Peter Parker เจ้าเด็กหนุ่มเนิร์ดที่แสนซนคนนั้น - ต่อไปนี้คือชีวิตจริง
10. สิ่งที่ไม่ชอบนิด ๆ ก็คือพาร์ทดราม่าที่ Over ไปหน่อย การใส่เพลงและ Close up สายตาซึ้ง ๆ ของ Spider-Tobey ที่ดูจงใจเกิ๊นนนน ดูแล้วจั๊กจี้เหมือนละครเวที แต่ก็ให้อภัยได้ เพราะการได้เห็น Spider-Tobey อีกครั้งในชุด Spider Man ก็คือเรื่องดีงามกลบทุกอย่างไปหมดแล้ว
ส่วน Spider-Andrew ขอสารภาพตามตรงว่า เป็น Spider Man ที่ฉันปลื้มน้อยที่สุด แต่หลังจากดูเรื่องนี้จบ จะไปตามหามาดูอีกรอบก็แล้วกัน รักในความหน้าใส น่ารักน่าเอ็นดูของนาง
สรุป - จากที่คิดว่าภาค 2 Spider Man - Far From Home สนุกที่สุดแล้ว ปรากฎว่าภาคสาม No way Home ทำได้ดีกว่าเดิมอีก ไม่ให้ฉันรัก Marvel แล้วจะให้ฉันไปรักใคร

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา