27 ม.ค. 2022 เวลา 05:13 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
After Life ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️
จะมีชีวิตอยู่เพื่ออะไรในเมื่อหัวใจมันแตกสลาย
Netflix Series จาก UK
คะแนน 10/10
Drama Dark-Comedy เสียดสี และให้กำลังใจ
นี่เป็นซีรีย์ครบรสที่ได้ดูในช่วงเริ่มต้นปี 2022 และขอยกให้เป็นซีรีย์ในดวงใจอันดับหนึ่งของปีไปก่อน รอดูว่าทั้งปีจะมีเรื่องใดมาแทนที่ได้บ้าง
และนี่คือ 10 Short Notes หลังดูจบทั้ง 3 Season (ไม่สปอยล์หรอกน่า)
1. After Life ชีวิตหลังความตาย ซึ่งไม่ใช่ความตายของพระเอก แต่เป็นความตายของเมียพระเอก
พี่ Tony พระเอกหุ่นหมีวัยห้าสิบกว่า ที่เพิ่งสูญเสียเมียที่รักยิ่งไปด้วยโรคมะเร็ง ความสูญเสียนี้ยิ่งใหญ่และมีผลต่อเขามากจนไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป แต่สิ่งที่รั้งไว้ก็คือหมา เขารู้สึกว่ายังต้องรับผิดชอบชีวิตหมาก่อนที่จะจากไป
1
2. เมื่อไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้ว เขาจึงคิดว่าเขาจะทำอะไรก็ได้ จะระบายอารมณ์โกรธกับผู้คน พูดจาแย่ ๆ แสดงออกชั่ว ๆ ทั้งกับคนที่ไม่รู้จักและคนใกล้ชิด ทำร้ายกันทั้งทางร่างกายและวาจาอย่างไรก็ได้ เพราะชีวิตไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว
ทั้ง 3 Season จะพาเราไปพบกับบทสรุปที่ว่า อะไรที่ทำให้ชายคนหนึ่งที่โกรธและโมโหโลก อีกทั้งจิตใจแหลกสลายไม่มีชิ้นดี จะกลับกลายมาเป็นผู้เป็นคนอีกครั้ง
3. Comedy เสียดสี ประชดประชัน 👉 นี่เป็นหนังที่ฉันแพ้ทางมาก ๆ การได้นั่งดูพระเอกพูดส่อเสียดผู้คน คือความบันเทิงขั้นสุด และความตลกมันก็อยู่ตรงนั้น
อีกทั้งบทมันเขียนมาแบบมีชั้นเชิงมาก ปูถึงที่มาที่ไปของความป่วง ความป่วน เหตุผลแห่งการเป็นคนปากหมา มันมาจากความโกรธลึก ๆ ในใจ โกรธที่โลกมาพรากเมียอันเป็นที่รักไป โกรธที่ตัวเองต้องถูกทิ้งอยู่ลำพังกับประสบการณ์ชีวิตคู่ที่แสนดีที่เสียดแทงใจทุกครั้งที่นึกถึง โกรธที่ไม่มีใครเข้าใจความสูญเสียจริง ๆ ของเขาเลย
4. Drama 👉 นี่เป็นหนังตลกที่ทำพาร์ท Drama ได้โคตรดีและไม่ประดักประเดิดฟูมฟาย
พี่ Tony พระเอกแสดงได้อย่างธรรมชาติ ดูเป็นคนธรรมดาที่จับต้องได้ เราเหมือนได้นั่งมองเพื่อนที่เศร้าสะเทือนใจ น้ำตาคลอเมื่อพูดถึงเมีย ร้องไห้โฮเมื่อนั่งดูคลิปเก่า ๆ ในวันวานของทั้งคู่ และมันก็ทำให้เราน้ำตาแตกตามได้ง่าย ๆ เช่นกัน
ฉากที่ตัดสินใจจะฆ่าตัวตายทำได้บีบคั้นมาก เราคนดูก็อินไปกับมันมากแบบเข้าใจจริง ๆ เป็นกูก็คงไม่อยากอยู่ อะไรประมาณนั้น
5. Hope ความหวังและกำลังใจ 👉 Part พวกนี้มาทั้งแบบคำสอนแบบโต้ง ๆ คือจับคำพูดยัดใส่ปากตัวละครมานั่งสอนสั่งผู้คนซึ่งพระเอกก็จะหัวเราะกับมันในตอนได้ฟัง
และมาในรูปแบบเรื่องราวอ้อม ๆ ให้พระเอกและคนดูได้ฉุกคิดเอง ซึ่งมันมีชั้นเชิงมาก ต้องชมคนเขียนบทที่ค่อย ๆ ตะล่อมแล้วตบจนหัวทิ่มให้น้ำตาร่วงหลายครั้ง
6. ตัวละครอื่น ๆ ในเรื่องคือการรวมตัวของ Loser อย่างครบถ้วน ซึ่งคาแรกเตอร์ของแต่ละคนชัดเจนมาก และจะทำให้เราหลงรักได้ทุกตัวละครจริง ๆ
ทั้งยังทำให้เราเห็นว่า ให้เวลากับการทำความรู้จักผู้คนเสียหน่อย แล้วคุณจะไม่ผิดหวังกับมนุษย์ด้วยกันนักหรอก
7. แต่ละตอนจะเปิดเรื่องด้วยคลิปของลิซ่า-เมียพระเอกที่แอบทำไว้เพื่อให้กำลังใจผัวหลังจากที่ตัวเองตายไปแล้ว นางห่วงผัวนางนั่นแหละกลัวว่าจะมีชีวิตต่อไปได้ยาก หรือบางตอนก็จะเปิดเรื่องด้วยคลิปที่พระเอกถ่ายเมียไว้ในช่วงเวลาต่าง ๆ บางตอนก็จะเป็นคลิปของทั้งคู่ที่ได้ใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกัน
มันทำให้เราได้เห็นช่วงเวลาที่พี่ Tony แม่งมีความสุขจริง ๆ แล้วเมียนางก็โคตรจะเป็นความสดใสเป็นดอกไม้ที่เบ่งบานในชีวิตคู่
ชอบที่เลือกตัวแสดงลิซ่า ให้เป็นผู้หญิงธรรมดา ไม่ได้สวยเด้งแบบฉบับนางเอกหนังอะไร แต่เน้นไปที่การกระทำและเสียงหัวเราะ ทำให้สิ่งที่เราได้ดูคือชีวิตคนธรรมดาที่เห็นได้ทั่วไป ไม่เหมือนกำลังดูหนังดูละคร เหมือนเห็นชีวิตจริงของคนคู่หนึ่ง
8. อดีตที่มีความสุขมีราคาที่ต้องจ่ายคืนในอนาคต - นั่นคือสิ่งที่ฉันคิดระหว่างดูซีรี่ย์เรื่องนี้
1
9. ท้ายที่สุด เรามีชีวิตอยู่เพื่อคนอื่นหรือเพื่อตัวเอง - นี่คือสิ่งที่หนังพยายามบอกพี่ Tony และคนดู
10. เพลงในแต่ละตอนเพราะมาก เข้ากับเนื้อเรื่องอย่างกลมกล่อมจนบางครั้งแค่ Melody ขึ้นฉันก็น้ำตารื้น
สรุป - นี่เป็นการพักดูหนังสืบสวนสอบสวนที่ชอบ หันมาดู Drama Dark-Comedy ได้อย่างคุ้มค่าเวลาที่สุด แต่ละตอนไม่ยาวประมาณ 25-30 นาที สารภาพว่าตอนที่ดูอยากให้ยาวกว่านี้ อยากจะค่อยละเลียดมุกตลก อยากจะทำความรู้จักตัวละครทุกตัวไปเรื่อย ๆ อยากเป็นเพื่อนกับพวกเขาเหล่านั้น และไม่อยากให้จบเลย (แต่มันจบที่ season 3 แล้วอ่ะ)
สรุปอีกครั้ง - ถ้าชอบหนังเสียดสี และมุกแบบ Dark-Comedy ไม่ควรพลาด / ถ้าอยากหากำลังใจและความหมายในชีวิต ซีรี่ย์เรื่องนี้อาจจะมีคำตอบรออยู่ ❤️

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา