27 ม.ค. 2022 เวลา 02:20 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
รีวิว House of Gucci ภาพยนตร์ดัดแปลงมาจากเรื่องจริงของตระกูล Gucci
ภากจากเพจละเลงหนัง
ข้อมูลเบื้องต้นของ House of Gucci
ละเลงหนัง
ป้ายโฆษณาของภาพยนตร์ House of Gucci
ก่อนอื่นขอบอกก่อนเลยว่า ผมประทับใจมากๆ ด้วยความที่ส่วนตัวชอบดูหนังแนวนี้อยู่แล้ว ซึ่งผมขอเตือนก่อนว่าใครที่คิดอยากจะเข้าไปดู หนังแฟชั่น ผมขอให้หยุดความคิดไว้ก่อน เพราะนี่ไม่ใช่หนังที่จะเจาะลึกเรื่องแฟชั่น แต่คือหนังดราม่าเข้มข้น ที่โฟกัสอยู่กับความสัมพันธ์ของครอบครัวGUCCI ที่มีธุรกิจระดับโลก ทำให้ครอบครัวนี้ต่างจากครอบครัวทั่วไป เพราะมันมีเงินจำนวนมากเป็นเดิมพัน ทำให้ทั้งคนในตระกูลเอง หรือคนนอกที่ไม่ใช่คนในตระกูล ที่หวังรอโอกาสเหมาะๆจะเข้ามาหุบเงินของครอบครัวนี้ นี่แหละความสนุกของหนังเรื่องนี้
จากที่เล่าๆมาบางคนอาจจะคิดว่า นี่มันละครหลังข่าวปะเนี่ย พล็อตแบบนี้ แต่มันไม่ใช่แบบนั้น เพราะเรื่องนี้สร้างมาจากเรื่องจริง ของคนที่เคยมีชีวิตอยู่จริงๆ ตัวละครมันจึงมีมิติ และมีเหตุผลของตัวเอง เรียกได้ว่าไม่มีใครร้าย และก็ไม่มีใครดี มันคือเสน่ห์ของหนังเรื่องนี้จริงๆ
*รีวิวHouse of Gucci มีสปอยใครยังไม่ดูอย่าอ่าน*
ละเลงหนัง
โปสเตอร์ House of Gucci
เอาละมาเริ่มรีวิวกัน โดยภาพรวมแล้วหนังทำออกมาได้ดีพอสมควร อาจจะไม่ถึงกับสมบูรณ์ แต่ผมก็เอ็นจอยไปกับมันได้จนจบ ดีในทุกๆส่วน ทั้งกาแคสต์นักแสดงแต่ละคน ที่มีฝีมือ และทุกคนก็ทำออกมาได้ดี การเล่าเรื่องแบบกระชับ ไม่ช้าไปหรือเร็วไป แถมงานโปรดักชั่นที่ดีใช้ได้ เสื้อผ้าหน้าผมของตัวละครก็ทำได้ดี สวย เท่ เนี๊ยบทุกชุดเลยจริงๆ บทก็อยู่ในมาตรฐาน แต่ที่โดดเด่นอีกอย่างเลยคืองานภาพที่ถ่ายออกมาได้สวยและได้เห็นการแสดงของนักแสดงในทุกมุมมอง ดีมากจริงๆ หลังจากนี้ผมจะรีวิวเป็นส่วนๆนะครับ
ภาพจากหนัง House of Gucci
การดำเนินเรื่อง
  • จะมีแค่ช่วงกลางๆเรื่อง ที่ผมรู้สึกว่ามันเอื่อยๆช้าๆ เกือบหลับ แต่มันก็แค่แปปเดียวจริงๆ ไม่ถึง 10 นาทีเลยมั้ง ซึ่งถือว่าทำได้ดีนะ เพราะหนังยาว 2 ชั่วโมง 38 นาที แต่มีช่วงเอื่อยแค่ไม่ถึง 10 นาที นอกนั้นทำได้ดีน่าติดตามหมด
ภาพจากหนัง House of Gucci
การแสดง
  • แค่รายชื่อนักแสดงผมคงไม่ต้องโฆษณาอะไรเยอะ ทุกคนเล่นได้ดีสมบทบาทที่ตัวเองได้รับ Adam Driver , Al Pacino และ Jeremy Irons ทั้ง 3 คนนี้ทำได้ตามมาตรฐานของตัวเอง ซึ่งมาตรฐานของพวกเขาแม้งคือโคตรเทพ แต่ไม่ได้แปลว่าที่เหลือไม่ดีนะ มาต่อกันที่ Jared Leto ที่เรื่องนี้มาในลุคคนอ้วนหัวล้าน แถมดัดเสียง คือถ้าไม่รู้รายชื่อนักแสดงมาก่อนผมว่าจำไม่ได้แน่ๆ แสดงโคตรดีมากๆ เพราะตัวละครที่เขาเล่นมันเป็นคนประเภททำตัวน่าหมันใส้ แต่ในใจมีปม ซึ่งจาเล็ทเล่นจนทำให้ผมรู้สึกทั้งหมันใส้ และก็สงสารตัวละครนี้ในเวลาเดียวกัน
  • ปิดท้ายด้วย Lady Gaga คนนี้มาเหนือและเกินคาดมากๆ ผมไม่ได้คาดหวังกับเธอเลย ก่อนเดินเข้าโรง แต่พอได้ดูแล้วแบบ บอกเลย แสดงโคตรเทพ สีหน้า ท่าทาง การเข้าถึงอารมณ์ เธอเก็บครบทุกเม็ด ผมยกให้ว่าเรื่องนี้การแสดงของ Lady Gaga โดดเด่นที่สุดแล้ว ผมบอกเลยว่า อนาคตต้องได้เห็นหน้าเธอในหนังอีกหลายเรื่องแน่ๆ เพราะเรื่องนี้เธอได้ปล่อยของจริง
ภาพจากหนัง House of Gucci
เนื้อเรื่องและบท
  • ส่วนนี้ผมก็ชอบมาก เกลี่ยบทได้ดีมาก ทุกตัวละครมีบทบาท และมีส่วนสำคัญกับเหตุการณ์ต่างๆ แต่สิ่งที่ชอบที่สุดคือการทำบทแบบไม่ตัดสิน ให้เราคิดเอาเอง ทุกตัวละครมีความเป็นมนุษย์ มีเหตุผลของตัวเอง ไม่มีตัวละครไหนดำสนิท ทุกคนอยู่ในหมวดคนเทาๆ ทำเรื่องบัดซบบ้าง แต่ลึกๆก็มีความเป็นคนดี เป็นสิ่งที่ดีมากๆ ภาพยนตร์ทุกเรื่องควรเอาอย่างนี้ นับถือตัวผู้กำกับ Ridley Scott ในการทำหนังประวัติศาสตร์ ตั้งแต่ The Last Duel แล้ว เหมือนเขารู้ว่าเขามีหน้าที่แค่ตีแผ่เรื่องราว ส่วนใครถูก ใครผิด ให้คนดูตัดสินกันเอง เขามอบให้เราเพียงข้อมูล
ภาพจากหนัง House of Gucci
สิ่งที่ประทับใจ
  • ก็คงเป็นเรื่องที่ให้คนดูคิดต่อเองเนี่ยแหละ อย่างเช่นตัวละครของ Lady Gaga ที่มองได้หลายทาง ว่าเธอรักสามีจริงหรือไม่ บางคนอาจจะมองว่าจริง เพราะเธอยังไปตามง้อสามี ไม่เคยคิดจะทิ้งสามี แถมตอนช่วงแรกๆ ยังมีฉากที่เธอมาบอกกับลุงอัลโด(Al Pacino) เรื่องกระเป๋าปลอม และอยากจะปราบ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ถูกต้อง และดีต่อแบรนด์ GUCCI แต่บางคนก็มองว่าเธอไม่ดี เพราะ การที่เธอไปง้อสามี หรือการที่เธอไม่ทิ้งสามีไปไหน คอยช่วยเหลือตลอด มันอาจเป็นเพราะเธอเชื่อหมอดู เพราะสุดท้ายทุกสิ่งที่ทำ เธอแค่อยากจะได้ทรัพย์สมบัติ อยากร่ำรวยก็เท่านั้น นั่นก็อยู่ที่คนจะตัดสิน แถมทุกตัวละครในเรื่อง มันจะเป็นประมาณนี้หมด ทุกคนทำทั้งเรื่องบัดซบ และก็เรื่องดีๆ มันเลยต้องมาช่างน้ำหนักกันเอาเอง
สรุปการรีวิว House of Gucci
ละเลงหนัง
ภาพจากหนัง House of Gucci
สำหรับผม ทุกคนมีส่วนผิดกันหมด แต่ที่ผิดที่สุดคือความสัมพันธ์ของตระกูล GUCCI ที่มันมีเส้นกั้น การแบ่งลำดับชั้นกันพอสมควร อย่างว่าแหละ ได้อย่างเสียอย่างเป็นลูกคนรวยก็สบาย แต่ตามมาด้วยความกดดัน และความสัมพันธ์กับพ่อแม่ ที่จะลดน้อยตาม เพราะเงินไม่ได้เสกได้ รวยได้แสดงว่าพ่อแม่ทำงานหนัก ไม่มีเวลาอยู่กับลูก ลูกสบายก็จริง แต่ก็จะมีปัญหาเรื่องความอบอุ่นตามมา แต่ไม่ใช่ทุกครอบครัวจะเป็นแบบนี้
อย่างในเรื่องคือพ่อของเมาริซิโอ เขาแทบไม่รู้จักลูกตัวเองเลย เพราะมัวแต่ทำงานอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งต่างกับพี่ชายของเขา หรือ ลุงอัลโด ที่มีลูกชายคือเปาโล แม้ว่าลุงอัลโดจะทำงานหนัก แต่เขามีความยืดหยุ่น และไม่ตึงเครียดเท่าน้องชาย เขากับลูกเลยมีความสัมพันธ์ที่ดีมากๆ แต่ก็มีข้อเสียอยู่ดีตรงรักลูกเกินไป สปอยลูกเกิน จนลูกทำอะไรไม่เป็น สรุปแล้วมนุษย์ทุกครอบครัว มีปัญหาเสมอ อยู่แค่ว่าปัญหานั้นจะใหญ่หรือเล็ก ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็แค่ตีแผ่ครอบครัวที่มีปัญหาใหญ่ๆ และคาราคาซัง ก็เท่านั้น
สุดท้ายนี้ถ้าผิดประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ เพราะผมรีวิวตามความรู้สึก ถ้าใครอ่านมาถึงตรงนี้แล้วชอบ ฝากกดไลค์ กดแชร์ และกดติดตามด้วยนะครับ
★ Facebook Fanpage ละเลงหนัง : https://www.facebook.com/Lalengnung
★ True ID In Trend ละเลงหนัง (สำหรับเขียนบทความ) : https://creators.trueid.net/@155949

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา