3 ก.พ. 2022 เวลา 08:14 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
กาลเวลาสุดท้ายคือคุณ (Because of Love) น้ำเน่าก็สนุกได้
ไม่รู้ใช้คำถูกหรือไม่ หลังจากดูไปสองสามตอนแรก ก็รู้สึกว่ามันเป็นละครน้ำเน่าแบบจีน
พระเอกนางเอกเป็นดารารุ่นใหญ่ หน้าตาก็ไม่จิ้มลิ้มหล่อเหลาเหมือนไอดอลสมัยนี้ ไม่มีฉากจูบพร่ำเพรื่อ แถมอารมณ์ซีรีส์ออกแนวเนือย ๆ เอื่อย ๆ ไม่ค่อยพูดอะไรกัน ได้แต่มองหน้ากันไปมา
แต่มันสนุก อยากรู้ ขอดูก่อน จนต้องสมัคร VIP
เรื่องเปิดด้วยการที่พระเอกนางเอกกลับมาเจอกัน หลังจากเลิกกันไป 7 ปี และพบว่านางเอกมีลูกแล้ว แถมเป็นโรคหัวใจต้องผ่าตัด ส่วนพระเอกเป็นหมอหัวใจที่จะผ่าตัดให้ลูกนางเอก ในขณะที่พระเอกแสดงชัดเจนว่ายังรักนางเอกมากมาย
นั่นสิ แล้วเลิกกันเพราะอะไร
หลังจากดูไปไม่กี่ตอน ก็เริ่มเดาได้ถึงความน้ำเน่านั่นคือ พ่อพระเอกกีดกันไม่ให้นางเอกกับพระเอกคบกัน นางเอกบอกเลิก โดยทำให้พระเอกเข้าใจว่าเลิกกันเพราะนางเอกรับเงินห้าล้านจากพ่อพระเอกเป็นค่าจ้างเลิก แต่ความจริงไม่ได้เป็นแบบนั้น อันนี้ก็เป็นไปตามสูตร
ส่วนความจริงนั้น ก็พอเดาได้อีกว่า เด็กเป็นลูกชายพระเอกที่ติดท้องนางเอกไปนั่นแหละ ส่วนทำไมนางเอกยอมรับเงิน เพราะพ่อนางเอกตาย ซึ่งเกี่ยวพันกับบริษัทพ่อพระเอก นางเอกเข้าใจว่าพ่อพระเอกคือสาเหตุที่ทำให้พ่อตัวเองตาย ซึ่งมันก็คบกันไม่ได้อยู่แล้ว
1
ช่วงแรกๆ ซีรีส์ทำได้ตามสูตรละครดราม่าตับพังเลย คือ ถานจิ้ง(นางเอก)ชีวิตโคตรรันทด เงินก็ไม่ค่อยจะมี ค่ารักษาลูกก็สูงมาก หยิบยืมเพื่อนฝูงญาติพี่น้องไปทั่ว ถูกแกล้งสารพัด จนต้องออกจากงาน เมื่อกลับมาเจอกับ หมอเนี่ย(พระเอก) ก็ถูกกรีดเรื่องในอดีต เรื่องเห็นแก่เงินไปอีก
ปกติตัวละครจีนมักคุยกันขำ ๆ ว่า ชาติที่แล้วต้องกู้ชาติมาแน่เลย ชาตินี้ถึงได้มีแฟนหล่อ รวย พร้อมเปย์ เอาใจทุกอย่าง แต่เรื่องนี้คงต้องบอกว่าชาติที่แล้วนางเอกขายชาติหรือไง ชาตินี้ชีวิตถึงได้รันทดขนาดนี้
1
ถึงรันทด ดราม่าน้ำตาท่วมในช่วงแรก ๆ แต่เมื่อความจริงหลายเรื่องค่อย ๆ ปรากฏว่า โทนเรื่องก็ค่อย ๆ แทนที่ด้วยความอบอุ่น ความมีเหตุผลแทนความเกลียดชัง
เป็นเรื่องที่ทุกคนรู้ความลับของเรื่องที่เกิดขึ้นง่ายมาก แถมยอมรับได้แทบจะในทันที
1
พ่อนี่เรียกว่าเดาได้โดยไม่ต้องมีใครบอกว่าเป็นลูกของตัวเองแน่ ๆ
ปู่ก็เดาได้ในทันทีว่าเป็นหลานตัวเอง พอตรวจดีเอ็นเอแล้วคอนเฟิร์ม อันนี้ก็ทุ่มสุดตัวไปเลย
หนูน้อยผิงผิง ก็รู้โดยไม่ต้องบอก(เหมือนกัน) ว่าใครเป็นพ่อจริง ๆ แต่ก็ยอมรับได้ว่าตัวเองมีพ่อสองคน และรักพ่อทั้งสองคนอย่างไม่มีข้อสงสัยใด ๆ
เรื่องที่ไม่ค่อยเห็นในซีรีส์จีนนักคือ นางเอกแข็งแกร่งกว่าพระเอกมาก นอกจากต้องดูแลลูกชายที่ป่วยเป็นโรคหัวใจ คอยตามแก้ปัญหาคนที่เป็นพ่อของลูกตามนิตินัยที่สร้างเรื่องเดือดร้อนให้ตลอดเวลา ในช่วงท้ายยังต้องมาช่วยดูแลแก้ปมให้อดีตสามีที่ป่วยด้วยอาการทางจิตอีก
แถมตำแหน่งแม่พระให้อีกตำแหน่ง เพราะแบกความคับแค้นใจมาตั้งหลายปี แต่บทจะปล่อยวาง ก็วางเสียง่าย ๆ อย่างนั้น
ส่วนคาแรกเตอร์หมอเนี่ยนี่ ถ้าเป็นในชีวิตจริง เลิกแล้วเลิกเลย ถ้าจะกลับมาคุยกันก็ขอเงินให้ลูกเท่านั้น 55555 ไม่ว่าจะรักมั่นคงแค่ไหน ถ้าอ่อนแอ จนไม่สามารถปกป้องคนรักได้ มันก็ไม่ไหวนะ แทนที่จะเข็มแข็ง ยืนหยัด หาความจริง และปกป้องถานจิ้งไปให้สุด ๆ ตั้งแต่แรก กลับปล่อยให้ตัวเองจมปลักกับความเศร้าที่เกือบจะทำลายชีวิตของตัวเอง
เรื่องนี้มีคู่รองอีกคู่ ที่เกี่ยวพันกับคู่พระเอกนางเอก แต่ความที่มันเป็นซีรีส์โทนสุขนิยม มันก็เลยเรียบ ๆ เรื่อย ๆ แม้มีเรื่องการแย่งชิงบริษัทอยู่บ้าง แต่ก็เดาได้ว่าพระเอกยอมยกให้แน่ ๆ จึงไม่มีอะไรให้พูดถึงมากนัก
ความโดดเด่นของเรื่องนี้ที่เห็นได้ชัดเจนคือ นักแสดงนำ จงฮั่นเหลียง (หมอเนี่ย) และ หลี่เสี่ยวหรั่น (ถานจิ้ง) ที่กลับมาเล่นซีรีส์ด้วยกันอีกในรอบ 12 ปี ฝีมือจัดจ้านกันทั้งคู่
หลี่เสี่ยวหรั่น หลาย ๆ ฉากที่น้ำตาค่อย ๆ ฟอร์มตัวนี่ คนดูน้ำตาร่วงล่วงหน้าไปก่อนแล้ว
จงฮั่นเหลียง ตอนแรกก็แปลก ๆ ที่หมอเนี่ยดูคาแรกเตอร์เนิบๆ ช้า ๆ ไม่ค่อยเหมือนตอนเป็นวัยรุ่น ตอนหลังค่อยเข้าใจว่า ถ้าเศร้ามากจนต้องไปพบจิตแพทย์ 40 กว่าครั้งนี่ กลับมาเป็นหมอได้ก็เรียกว่าเก่งแล้ว
ฉากพีคสุด เก่งสุดของจงฮั่นเหลียง ก็คือ ตอนที่รู้ความจริงว่านางเอกต้องเจออะไรมาบ้างจากปากของคนที่เป็นพ่อของผิงผิงมา 6 ปี แล้วไปหานางเอกเพื่อต่อว่าว่าทำไมไม่บอก แต่กลายเป็นตัวเองที่พังทลาย แตกเป็นเสี่ยง ๆ อยู่ตรงนั้น
จะว่าไป ตอนจบของเรื่องนี้ ก็พอจะเดาได้อยู่ว่า ต้องจบดีแน่ ๆ และต้องมีคนร้ายตัวจริงที่ไม่ใช่ปู่ด้วย เพราะตามนโยบายจีน ต้องการส่งเสริมสถานภาพครอบครัว ให้รักใคร่กลมเกลียวกัน ไม่มีทางปล่อยให้มีบทประเภทคนในครอบครัวตั้งใจทำร้ายกันออกมาฉายแน่ ๆ
แถมคนร้ายในซีรีส์จีน อย่าหวังว่าจะหนีรอดลอยนวลตำรวจไปได้ ตามจับมาลงโทษได้ทุกคน ทุกเรื่อง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา