4 ก.พ. 2022 เวลา 05:02 • ปรัชญา
ในเมื่อเรารู้จักว่าคนเค้ามีอีโก้สูงทะเยอทะยาน เห็นตัวเองดีเก่งเสมอ เขื่อมั่นอยู่อย่างนั้น เต็มไปด้วยทิฐิอัตตา ถือตัวถือตนอย่างนั้น คนย่อมเขื่อมั่นในกรรมที่ปรุงแต่งทิฐิให้ความคิดเห็นอยู่อย่างนั้น หูของเค้าย่อมเปิดฟังแต่เสียงสรรเสริญเยินยอ ชื่นชมยกยอปอปั้น พวกขุนพลอยพยัก ทำนองดีครับท่าน ดีครับนาย เพื่อให้ดูว่าตัวตนข้านั้นมันสูงกว่าผู้อื่น เราเป็นจิตน้อยๆ เราก็เดินตามทางของเรา เค้าเดินไปตามทางของเค้า ในสิ่งที่เกิดในตัวตนของเค้า นำพาไป ส่วนตัวเรา ก็หาวิธีผ่อนคลาย อารมณ์ที่แผดเผาตัวเรา ให้กายนี้ มันร่มเย็น เราก็มีความสุขอยู่กับกายน้อยๆ ที่กายมันเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ
เราก็สะสมสิ่งที่ดีให้กับจิตของเรา ที่จะต้องเดินทางออกจากสังขารนี้ เมื่อถึงเวลา ถึงเวลานั้น ทุกสิ่งทุกอย่างก็ต้องวางไว้ในโลก สิ่งที่เราจะนำไปได้ ก็จิตของเรานั้นแหละ ที่เบาปล่อยเรื่องราวความยึดถือทั้งสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิต ที่เรามาเพียงแค่อาศัยชั่วขณะหนึ่ง ถ้าเราไปยึดมันก็หนัก เราปล่อยวางสละออกไป ปัจจัยที่เราหามาได้ ให้เป็นทานเป็นบุญ ก็เหมือนเราสละความยึดถือในความโลภโกรธหลงออกไป กรรมที่เราขนเข้ามา ไปยึดถือคนนั้นคนนี้ อยากให้เค้าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ มันเป็นไปไม่ได้ เค้าก็มีกรรมของเค้า เค้าก็ต้องชดใช้กรรมของเค้าไป เดินไปตามกรรมเท่านั้นเอง
โฆษณา