BKK DESIGN WEEK เริ่มแล้วค่ะ! แล้วเธอล่ะ เริ่มรึยังงง?! วันนี้เราขอพาทุกคนมาเที่ยวงาน เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ หรือที่คุ้นหูกันในชื่อ BANGKOK DESIGN WEEK ซึ่งก็เน้นเอาการออกแบบสร้างสรรค์มาสะท้อนความเป็นกรุงเทพฯ รวมถึงขับเคลื่อนความอยู่ดี กินดี และผลักดันธุรกิจสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้น
ในปีนี้ก็มีการสร้างสรรค์ผลงานหลายชิ้นที่คำนึงถึงด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้น มีการนำขยะเหลือชิ้นมาต่อยอดเป็นผลงานศิลปะหรือสินค้าจำหน่ายที่ใช้ได้จริงด้วย นอกจากนี้ก็ยังได้มาสัมผัสกลิ่นอายความเป็นย่านเจริญกรุง-ตลาดน้อยที่มีวัฒนธรรมในพื้นที่หลากหลายและยาวนาน งานนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-13 กุมภาพันธ์นี้นะ ไปค่ะ ไปเดิน ไปกิน ไปเที่ยว ไปถ่าย(รูป) ไปเสพย์ศิลปะกันให้ฉ่ำตา! ชอบอันไหนก็มาแชร์กันได้น้า หรือใครอยากจะให้แอดไปรีวิวย่านไหนก็ปักพิกัดมาโลดด
ติดตามรายละเอียดงานเพิ่มเติมกันได้ที่ https://www.facebook.com/BangkokDesignWeek
มาเริ่มกันที่ “อาคารชัยพัฒนสิน” สถาปัตยกรรมเก่าแก่ในย่านตลาดน้อยที่มีอายุกว่า 111 ปี ในงานนี้ตัวตึกได้เปิดพื้นที่ชั้นบนสุดเพื่อจัดนิทรรศการให้เราได้ชมกันนน หลากหลายมากกก ไฮไลต์ก็อยู่ที่นิทรรศการ #มือบอน ที่เป็นพื้นที่โชว์ตัวของเหล่าบอนสีที่กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง โดยมีโจทย์สำคัญว่าการเกษตรไทยนั้นสามารถต่อยอดได้ด้วยดีไซน์ที่จะเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ ในฐานะนักออกแบบจึงนำโจทย์ตรงนี้มาสร้างสรรค์บอนสีให้เข้ากับบริบทสังคมในปัจจุบันมากขึ้น
รวมถึงโปรเจควัตถุ+ดิบ ที่นำลวดลายเหล็กดัด หรือองค์ประกอบของความเป็นเจริญกรุงและตลาดน้อยออกมาเป็นผลงานศิลปะ ซึ่งเดี้ยนก็ชอบมากก ชวนให้เราตั้งคำถามถึงความเป็นย่านนี้ว่าเมื่อเรานึกว่าเจริญกรุง-ตลาดน้อยแล้วเรานึกถึงอะไรกันนะ?
ส่วนสายสเก็ตบอร์ดก็เรียนเชิญญ เพราะเขามีลานด้านบนทีชื่อว่า 'Jump Master Skate Haus' ให้เราได้ไปไถกันด้วยนะจ๊ะ บอกเลยว่ามาตึกนี้ครบรสแน่นอนน จะสายสเก็ต สายต้นไม้ สายถ่ายรูปก็ห้ามพลาด!
สายกินเชิญทางนนนนี้!! ไม่สามารถปักพิกัดให้ได้เพราะร้านอร่อยกระจายตัวอยู่ทั่วชุมชนตลาดน้อยเลยค่ะเธอ ฮือๆๆ เตรียมท้องเผื่อไปกินของอร่อยกันด้วยนะ! ร้านหนึ่งที่ขอแนะนำเลยคือ ขนมปังปิ้งเตาถ่าน หน้าปากซอยเจริญกรุง 22 ราคาเป็นมิตรและอิ่มท้องมากค่ะ กินทีไรก็ให้ความรู้สึกกับไปเป็นเด็กอีกครั้งทุกที
นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการภาพถ่ายตลอดเส้นทางเดินเข้ามาในซอยศาลเจ้าโรงเกือก ที่เป็นนิทรรศการภาพถ่ายผู้คนในย่านเจริญกรุง-ตลาดน้อย รวมถึงสิ่งรอบตัวที่สะท้อนวิถีชีวิตและความเป็นไปของย่านนี้ได้อย่างดีเยี่ยม
เดี๋ยวนี้ไปไหนก็ต้องเช็คอินด้วยภาพถ่ายตู้สติกเกอร์กันซะหน่อย! ในงานปีนี้ก็มีตู้ให้เราได้มาเก็บภาพที่ระลึกกัน โดยโปรเจค Sx.automat X Phannapast นี้ถูกออกแบบมาให้เข้ากับบรรยากาศศาลเจ้าโรงเกือกที่ตั้งรวมถึงสะท้อนบรรยากาศความเป็นวัฒนธรรมจีนออกมาผ่านตัวตู้และภาพถ่ายที่ออกมาในเวอร์ชั่นของใบเซียมซี! น่ารักมากเธอออ ต้องมาตำกันค่ะ สนนราคาอยู่ที่ 120 บาทเท่านั้นนนน
Warehouse 30 คอมมูนิตี้ในร่างโกดังย่านเจริญกรุงที่มีพื้นที่ให้เหล่าศิลปินได้มาโชว์ของกันมากมาย! นิทรรศการหนึ่งที่เราสะดุดตาสะดุดใจมากคือ PRINCIPLE In LOVE ภายใน ATTA Gallery ของคุณสมพงษ์ พานิช ที่นำสิ่งของต่าง ๆ มาสร้างสรรค์เป็นงานศิลปะ หลายสิ่งอย่างนั้นก็เป็นของรอบตัวรวมถึงของที่ถูกใช้แล้วอย่างกระป๋อง ขวดน้ำ ขวดแก้ว ก็คือจำพวกขยะรีไซเคิลแหละ แต่ด้วยความเป็นนักสะสม ความเป็นนักสร้างสรรค์ที่ต่อยอดสิ่งต่าง ๆ รอบตัวเสมอจึงทำให้เขานำของเหล่านี้มาออกแบบเป็นงานศิลปะที่ให้ความรู้สึกต่างออกไป
ที่สุดในดวงใจค่ะร้านนี้! คาเฟ่สุดชิลริมน้ำที่ซ่อนตัวอยู่ในย่านตลาดน้อย เป็นที่พักผ่อนเอนตัวชั้นดีริมเจ้าพระยานอนดูพระอาทิตย์กันไปเล้ยย ปีนี้ทางร้านก็เข้าร่วมกับงาน Bangkok Design Week อีกเช่นเคย ที่น่าสนใจคือโปรเจค REBORN ที่แปลงโฉมส่วนนึงของร้านให้เป็นโชว์รูมเฟอร์นิเจอร์ที่นำสิ่งของใช้แล้วมาออกแบบใหม่ตามคอนเซปต์เกิดใหม่นั่นเอง! ซึ่งสิ่งของที่นำมานั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของย่านชุมชนตลาดน้อยทั้งนั้น ชวนชมค่ะ น่ารักมากกกก เหมือนย่อส่วนย่านนี้เข้ามาไว้ในโซนนี้เลยแหละ สายถ่ายรูปก็เรียนเชิญ ได้มุมสวย ๆ กลับไปกันแน่นอน
สายช็อปเชิ๊ญญญ! แน่นอนว่าพื้นที่หน้าตึกไปรษณีย์กลางก็ยังเป็นพื้นที่ไฮไลต์ที่มีร้านค้าและของกินมาออกบูธเหมือนเดิม จับจ่ายใช้สอยกันได้เลอ ที่สำคัญคือร้านค้าส่วนมากนั้นเป็นสินค้าคราฟต์ และเป็นแบรนด์ของคนรุ่นใหม่ที่สร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยยย แอดก็ทรัพย์จางไปแล้วค่ะฮือออ
ใครที่มาช่วงค่ำ ๆ ก็จะได้เจอกับการแสดงดนตรีสดด้วยนาจา แวะไปนั่งฟังชิล ๆ ได้ เข้าคอนเซปต์ Creative City เลยแหละ เพราะถือเป็นการได้เปิดพื้นที่ให้ศิลปะอิสระได้มาสร้างสรรค์แสดงฝีมือกันน
ขออวยยศร้านนี้เลยค่ะทู้กท่าน ไปตำกันนน แบรนด์ Maddy Hopper ก็มาออกบูธในครั้งนี้ด้วยยยย ซึ่ง! ก็มีรุ่นพิเศษมาจำหน่ายด้วยนะ ทางแบรนด์เขาได้ร่วมมือกับ Reviv สร้างสรรค์ผลงานศิลปะบนผ้าใบรองเท้าที่แปลกใหม่ออกไป โดยนำเศษผ้าเหลือใช้มาทำลวดลายผ่านการปักมือจากชาวม้ง ซึ่งถือเป็นการสร้างงานให้กับกลุ่มชาติพันธุ์อีกด้วย ลายน่ารักม้ากก มีให้เลือกหลายลายเลย แถมยังมีดีเทลน่ารักเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นชื่อของรองเท้าแต่ละรุ่นก็มีชื่อที่สอดคล้องกับธรรมชาติทั้งนั้น
ส่วนตัวรองเท้าก็ถูกออกแบบมาเพื่อลดขยะในปัจจุบันอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นรองเท้าผ้าใบ canvas ที่ทำจากขวดพลาสติกรีไซเคิล 100% และพื้นรองเท้าก็ทำมาจากเศษยางพารารีไซเคิล หรือผลิตภัณฑ์ถุงเท้า Bambi ตัวน้อยก้ทำมาจากเส้นใยไผ่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและนุ่มต่อเท้าของเราม้ากกก นุ่มแบบอยากจะบอกให้โลกได้รับรู้! มีให้เลือกถึง 6 สีแหนะ แล้วแต่ละสีก็ได้แรงบันดาลใจมาจากวัสดุธรรมชาติด้วยนะ
มาถึงจุดไฮไลต์สำหรับชาวนักออกแบบกันแล้วว เช็คอินที่ตึก TCDC กันค่า ปีนี้เขาก็มีจัดนิทรรศการตั้งแต่ชั้น 1 จนถึงชั้น 5 เลยนะ ข้างล่างสุดจะเป็นนิทรรศการของ Pinkoi แพลตฟอร์มตลาดงานดีไซน์ทั่วเอเชียที่นำเสนอเรื่องราวของวัฒนธรรมการให้ของขวัญในแต่ละประเทศที่แตกต่างกัน รวมถึงมีที่เสี่ยงเซียมซีด้วย! ส่วนแอดก็ได้เบอร์นี้มาใจความว่า “เมื่อเขากลับไปดีกัน เราก็หมา..” เอ้า! เอาเรื่องจริงมาพูดทำม๊ายยย พอค่า เก็บเลขไปซื้อลอตเตอรีดีกว่า ฮ่าๆๆๆ
ด้านบนชั้น 4 เป็นพื้นที่แสดงงานสร้างสรรค์ที่มีโจทย์ในการนำขยะหรือของเสียมาต่อยอดให้เป็นผลงานและเกิดมูลค่าสูงสุดได้ ผลงานนึงที่แอดชอบมาก ๆ ก็คือ การนำขยะเศษอาหาร เช่น เปลือกไข่ กากกาแฟ แคร์รอต มาผสมรวมกับดินและเคลือบจนเกิดเป็นผิวสัมผัสและสีสันใหม่ ๆ ที่สร้างความแตกต่างได้
Photo & Writer : Mook
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
