15 ก.พ. 2022 เวลา 01:12 • ไลฟ์สไตล์
“เราสะสมทรัพย์ หรือสะสมมลทินกันแน่ ?”
“ …​ ชาวโลกเรา ก็จะสะสมทรัพย์ เป็นเครื่องปลื้มใจต่าง ๆ หาเงินหาทอง สะสมทรัพย์สมบัติต่าง ๆ บ้าน รถ ที่ดินต่าง ๆ ยิ่งมีมาก ก็รู้สึกว่ามันปลื้มใจมากเลย มันสะสมๆ เข้าตัว
แต่เราไม่รู้ว่า อีกสิ่งหนึ่งที่สะสมเข้ามาจากผลของการกระทำของเรา มันก็คือสิ่งที่เรียกว่า มลทิน คือ ความตระหนี่ นั่นเอง
1
มันจะเกิดความตระหนี่ เกิดความหวงแหน เกิดความโลภ อยากได้ไม่มีที่สิ้นสุด
พอไม่ได้ดั่งใจ ก็เกิดความโกรธ เกิดความหลงขึ้นมา
1
ก็เรียกว่า ยิ่งเราสะสม แทนที่เราจะได้ทรัพย์เป็นเครื่องปลื้มใจ เรากลับเพิ่มความหนักให้แก่ตัวเอง ก็คือ มลทิน เครื่องเศร้าหมองต่าง ๆ นั่นเอง สิ่งเหล่านี้มันจะดึงเราให้เป็นวิถีของความตกต่ำ จมสู่อบายภูมินั่นเอง
ผู้ที่มีความตระหนี่ จะไม่สามารถลอยขึ้นไปเกิดในสุคติภูมิได้เลย
1
ธรรมดาหมู่สัตว์ที่ยังไม่เกิดดวงตาเห็นธรรม ก็จะหลงอยู่กับโลก ของสมมติมายาในวัฏสงสาร เหมือนพวกเราที่เกิดขึ้นมา ก็หลงกับการใช้ชีวิตในโลกไปวัน ๆ
2
รักสนุก รักสบาย ทุกคนก็ชอบความสุข ความสบาย แต่ถ้าสิ่งเหล่านั้นมันได้มาด้วยการเบียดเบียน โทษก็ตามมามาก หลังจากเราต้องตายจากชาตินี้ ก็ต้องตกต่ำจมสู่อบายภูมิ เสวยความโหดร้ายอย่างยาวนาน
1
สิ่งใด ๆ ในโลกเนี่ย มันไร้ค่าเลย
ต่อให้เรามีเงินมากเท่าไหร่
เมื่อเราต้องตายจากโลกนี้ไป
บาทเดียว เราก็เอาติดตัวไปไม่ได้
ร่างกายที่เราหวงแหน ก็ยังต้องทิ้งไว้ที่เชิงตะกอน
2
พระโสดาบัน เป็นผู้ที่เกิดดวงตาเห็นธรรม
ตื่นขึ้นมาแล้ว เห็นตามความเป็นจริงแล้ว
จึงไม่ได้ยึดถือสิ่งที่มันเป็นสิ่งมายาของโลกใบนี้
เงินมีก็ใช้ไปตามสมมติของโลก แต่ว่าไม่ได้หลงยึด
แต่เป็นผู้ที่เข้าถึง สิ่งที่มันเป็น อารยธรรม
ธรรมที่พ้นออกจากโลก
เข้าใจวิถีที่จะพ้นออกมาจากโลกของสมมติมายาได้
เพราะฉะนั้นพระอริยบุคคลที่ตื่นแล้วเนี่ย
ท่านเห็นแล้ว ท่านรู้แล้ว วิถีที่ถูกต้อง
ท่านจึงไม่ได้ยินดีในการสะสมเข้าตัว
แต่ท่านกลับยินดีในการสละออก
คือ การให้ทาน การสละออกนั่นเอง
เพราะว่าเวลาที่เราสละออกไป
มันเหมือนสิ่งของ หรือสิ่งต่าง ๆ เราสละออกไป
แต่สิ่งที่มันออกไปจริง ๆ ก็คือ มลทินของเรานั่นเอง
ความตระหนี่ ความโลภ ความโกรธ
ความหลงต่าง ๆ มันเป็นการสละออกไปนั่นเอง
เมื่อสิ่งเหล่านี้ มลทินต่าง ๆ มันหลุดออกไป
กิเลสในใจเราเบาบางลง
มันจะเป็นวิถีที่ลอยขึ้นสูง โดยธรรมชาติเลย
ตัวเบา จนสามารถพ้นออกไปจากสังสารวัฏได้
1
คำว่า อริยะ ก็คือ ผู้ที่ห่างไกลจากกิเลส
ห่างไกลจาก ความโลภ
ห่างไกลจาก ความโกรธ
ห่างไกลจาก ความหลง
อริยบุคคลทุกท่าน
ล้วนเป็นผู้ที่มือ … ชุ่มด้วยการให้
คือ ยินดีในการให้ การสละออกทั้งสิ้นทีเดียว … “
.
ธรรมบรรยาย
โดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร
Photo by : Unsplash

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา