21 ก.พ. 2022 เวลา 18:41 • ประวัติศาสตร์
ภูมิหลังความขัดแย้งในยูเครน #ตอนที่ 1#
2
ชาวสลาฟตะวันออก (บางเอกสารระบุว่าเป็นชาวไวกิ้ง) เป็นกลุ่มคนในยุคแรกที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานบริเวณแม่น้ำ Dnieper เพราะมีความอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเพาะปลูกเสมือนอู่ข่าวอู่น้ำของยุโรปในอดีต
ค.ศ.880 สถาปนา Kiev เป็นเมืองหลวงของอาณาจักร Kievan Rus ต่อมาก็ถูกปกครองโดย Mongkol, Byzantine, Ottoman และ Poland
คศ.1480 ได้มีการสถาปนา Russia (ชาวสลาฟตะวันออก ซึ่งมีภาษาและวัฒนธรรมที่ต่างออกไป) โดยมีกรุง Moscow เป็นเมืองหลวง
ค.ศ.1654 ผู้ปกครองยูเครนเข้าสวามิภักดิ์ต่อ Tsar แห่ง Russia แล้วถูกกลืนชาติและกดวัฒนธรรมโดยให้ใช้ภาษา Russia ห้ามใช้ภาษาของ Ukraine จนกระทั่งเกิดการปฏิวัติราชวงศ์ Romanov ใน คศ.1917 ทำให้กลุ่มชาตินิยมยูเครน ทำสงครามประกาศอิสรภาพในได้สำเร็จใน ค.ศ.1918 ท่ามกลางลัทธิความเชื่อทั้งทางการเมืองและการปกครองที่แตกต่างกัน แต่เพียง 3 ปีให้หลัง ยูเครนก็ถูกแบ่งแยกโดยพื้นที่ 1 ใน 3 ตกเป็นของ Poland ส่วนที่เหลือถูกผนวกรวมเข้าเป็น สหภาพสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียต ด้วยแนวคิดแบบ Communism ที่ Joseph Stalin ใช้การรวมศูนย์เพื่อควบคุมเกษตรกรรมจนทำให้ยูเครนเกิดภาวะอดอยาก (Famine) ผู้คนล้มตายถึง 7 ล้านคน
1
ใน ค.ศ.1937 มีการสังหารหมู่และเนรเทศชาวยูเครนที่ไม่ยอมรับระบบของ Stalin ความเลวร้ายยังไม่จบสิ้นเพราะใน ค.ศ.1941 (สงครามโลกครั้งที่ 2) กองทัพ Nazi สังหารชาวยูเครนที่ต่อต้านการไปมากกว่า 5 ล้านคน และฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวไปประมาณ 1.5 ล้านคน ค.ศ.1944 ชาว Tartar ที่อาศัยอยู่ใน Crimea แหลมทางใต้ของยูเครนก็ถูก Stalin เนรเทศออกไป 200,000 คน ให้ไปอยู่ในแถบ Siberia และ Central Asia โทษฐานให้ความร่วมมือกับ Nazi แล้วยก Crimea ให้ Ukraine
2
เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง ยูเครนจึงกลายเป็น “กำแพงเบอร์ลินแห่งโซเวียต” ที่คั่น Poland, Czechoslovakia, Romania และ Hungary ซึ่งเป็นยุโรปตะวันออกที่ปกครองแบบประชาธิปไตย (ทั้งแบบเต็มใบ ครึ่งใบ และกึ่งเผด็จการ) และด้วยความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ เช่น แร่เหล็ก แมงกานีส ไทเทเนียม ทำให้ ยูเครนกลายเป็นแหล่งอุตสาหกรรมหนักในการผลิตอาวุธ สร้างเครื่องบิน ต่อเรือให้โซเวียต
2
กระทั่ง ค.ศ.1991 เมื่อโซเวียตถึงคราวล่มสลาย ชาวยูเครนลงประชามติ 90% ให้ประกาศเอกราชแยกตัวออกจาก "รัสเซีย" ทำให้ชาว Tartar ที่ถูกเนรเทศไป Siberia และ Central Asia กลับมาอาศัยยังแหลม Crimea โดยมีผู้อพยพกลับมาประมาณ 250,000 คน และกลายเป็นระเบิดเวลาชิ้นสำคัญของรัสเซียในเวลาต่อมา
References
หนังสือเรื่อง จักรวรรดิรัสเซียก่อนล่มสลายสู่คอมมิวนิสต์. นริศรา พลายมาศ. สำนักพิมพ์ก้าวแรก.

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา