📣 ยา..ที่ทำให้อุจจาระเปลี่ยนสี‼
สีที่ปกติของอุจจาระ 💩🚽 เกิดจากสีของ "น้ำดี" ซึ่งเป็นน้ำย่อยจากตับอ่อนและถุงน้ำดี นอกจากนั้นยังขึ้นกับสิ่งที่เรารับประทานเข้าไป ซึ่งหมายรวมถึงยา💊 ดังนั้นจึงมียาบางชนิดที่สามารถทำให้อุจจาระเปลี่ยนสีได้นั่นเอง
.
ตัวอย่าง :: ยาที่ทำให้อุจจาระเปลี่ยนสี
🖤 เปลี่ยนเป็นสีดำ เช่น ธาตุเหล็ก, อะลูมิเนียมไฮดรอกไซด์, บิสมัท, ผงถ่าน (Activated charcoal), ยาขยายหลอดลม (Aminophylline)
💙 เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน เช่น เมทิลีนบลู (methylene blue) ซึ่งเป็นสารสีน้ำเงินเติมในยาล้างไต
🧡 เปลี่ยนเป็นสีแดงส้ม เช่น ยารักษาวัณโรคไรแฟมพิน (rifampin)
🤍 เปลี่ยนเป็นสีขาว เช่น ยาลดกรดอะลูมิเนียมไฮดรอกไซด์ (Aluminium Hydroxide) เป็นต้น
.
นอกจากสาเหตุดังกล่าว อุจจาระสีเปลี่ยนอาจจะบ่งบอกถึงภาวะผิดปกติที่เกิดจากโรคได้ด้วย เช่น
❤️ อุจจาระเป็นเลือดสด พบบ่อย จาก โรคริดสีดวงทวาร
🤎 อุจจาระสีซีด ออกสีเทา เกิดจากภาวะไม่มีน้ำดีในอุจจาระ เช่น ตับอักเสบ ไวรัสตับอักเสบ และโรคเกี่ยวกับถุงน้ำดี
🖤 อุจจาระสีดำ ลักษณะเปียกเหนียวและมีกลิ่นเหม็นรุนแรงผิดปกติ จะเกิดจากมีเลือดออกในทางเดินอาหารตอนบน (หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร และลำไส้เล็กตอนบน) อาการอื่นที่พบร่วมด้วย คือ ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียนและเบื่ออาหาร
โดยการรับประทานยาบางชนิดอาจจะทำให้มีผลข้างเคียงมีแผล, เลือดออกในทางเดินอาหารได้ เช่น
🩸 กลุ่มยาสเตียรอยด์
🩸 กลุ่มยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) : ไอบูโพรเฟน, ไดโคลฟีแนค
🩸 ยาต้านการแข็งตัวของเลือด : วาร์ฟาริน (Warfarin)
.
ทั้งนี้หากพบสีและลักษณะอุจจาระผิดปกติ แล้วไม่แน่ใจว่าเกิดขึ้นจากยา แนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
.
.
ขอบคุณข้อมูลจาก : อุจจาระเปลี่ยนสีที่เกิดจากยา. กองพัฒนาศักยภาพผู้บริโภค สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา. https://bit.ly/3vqNkGJ.
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
