Road to Crisis “Russia Ukraine” ตอนที่ 2
จากเนื้อความตอนที่แล้ว ภายหลังจากที่ EU ขู่จะดำเนินมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียหากรัสเซียบุกยูเครน มาดูสถานการณ์ลำดับจากนั้น ว่าเกิดอะไรตามมา
19 ธ.ค.64 สหราชอาณาจักรระบุมีความเป็นไปได้ที่จะไม่ส่งทหารเข้าไปยูเครน เนื่องจากยูเครนไม่ใช่สมาชิก NATO
26 ธ.ค.64 รัสเซียเคลื่อนกำลังทหารกว่า 10,000 คนกลับที่ตั้งหลังเสร็จสิ้นการฝึกใกล้ยูเครนกว่า 1 เดือน โดยยังคงมีทหารกว่า 90,000 คน ประจำอยู่ตามแนวชายแดนยูเครน
27 ธ.ค.64 รัสเซียจะพิจารณาดำเนินมาตรการทางทหารในระดับยุทธวิธี หากNATO อนุญาตให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิก ซึ่งขัดกับข้อเรียกร้องของรัสเซียเมื่อต้น ธ.ค.64
29 ธ.ค.64 สหรัฐฯ รัสเซีย เห็นพ้องกำหนดวันหารือด้านความมั่นคงระหว่างกัน ใน 10 ม.ค.65 ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ เพื่อหารือประเด็นสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน
30 ธ.ค.64 สหรัฐฯ หารือกับฝรั่งเศส เยอรมนี และสหราชอาณาจักร เพื่อติดตามความเคลื่นไหวของรัสเซียที่ดำเนินการอย่างแข็งกร้าวต่อยูเครน และข้อให้ร่วมกันกดดันรัสเซีย พร้อมสนับสนุนอธิไตยในยูเครน
31 ธ.ค.64 ปธน.สหรัฐฯ ขอให้ ปธน.รัสเซียลดการสร้างความตึงเครียดกับยูเครน โดยขอให้รัสเซียถอนหรือลดกำลังทหารออกจากชายแดนยูเครน และเตือนว่าสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรพร้อมตอบโต้หากรัสเซียบุกยูเครน
03 ม.ค.65 ปธน.สหรัฐฯ ให้คำมั่นต่อ ปธน.ยูเครน ว่าจะใช้มาตรการตอบโต้อย่างเด็ดขาดหากรัสเซียบุกยูเครน
13 ม.ค.65 NATO หารือกับ รมช.กต.ของรัสเซีย ที่กรุงบลัสเซล เบลเยี่ยม ในประเด็นควบคุมอาวุธ การพัฒนาขีปนาวุธ เพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน และเน้นย้ำไม่ยินยอมให้รัสเซียคัดค้านหากยูเครนต้องการเข้าเป็นสมาชิก NATO รวมทั้งการใช้กำลังทหารขมขู่ยูเครน โดย NATO พร้อมช่วยเหลือยูเครน
16 ม.ค.65 กห.สหรัฐฯ เตือนว่ารัสเซียพยายามสร้างความชอบธรรมในการรุกรานยูเครน โดยบั่นทอนความมั่นคงและก่อวินาศกรรมในยูเครน และการปฏิบัติการข่าวสารในสื่อสังคมออนไลน์เพื่อโน้มน้าวให้เห็นว่ารัสเซียจำเป็นต้องเข้าแทรกแซงยูเครน
20 ม.ค.65 สหรัฐฯ เตือนหากรัสเซียบุกยูเครนจะถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง และระบุว่ามีความเป็นไปได้น้อยมากที่ยูเครนจะเข้าเป็นสมาชิก NATO ในเร็วๆ นี้
21 ม.ค.65 รัสเซีย อิหร่าน และจีน ฝึกผสมทางทะเล Marine Security Belt เป็นครั้งที่ 3 นับตั้งแต่ปี 62 ในวันเดียวกันนี้ สหรัฐฯ ก็ได้จัดส่งอาวุธยุทธภัณฑ์ชุดแรกเพื่อสนับสนุนกองทัพยูเครน
22 ม.ค.65 สหรัฐฯ และ NATO จัดการฝึกผสมทางทะเล Neptune Strike ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน 24 ม.ค.- 4 ก.พ.65 เพื่อนแสดงแสนยานุภาพของ NATO ในการปฏิบัติการทางทะเลร่วมกันเพื่อปกป้องชาติพันธมิตร และความมั่นคงในยุโรป
23 ม.ค.65 ผบ.ทร.เยอรมนีลาออกหลังแสดงความเห็นประเด็นรัสเซีย-ยูเครน โดยกล่าวว่าการบุกยึดยูเครนของรัสเซียเป็นเรื่องไร้สาระ และไครเมียตกเป็นของรัสเซียแล้วไม่มีทางได้คืน ขณะเดียวกัน จีนปฏิเสธข่าวลือที่ระบุว่าจีนขอให้รัสเซียไม่บุกยูเครน โดยยืนยันว่าจีนจะให้การเจรจากรอบข้อตกลง Minsk ในการแก้ปัญหาความขัดแย้งในยูเครน
24 ม.ค.65 สหรัฐฯ จะเริ่มอพยพนักการทูตและครอบครัวรวมทั้งพลเรือนสหรัฐฯ ออกจากยูเครนจากสถานการณ์ความตีงเครียดที่เพิ่มขี้นและอาจนำไปสู่การปะทะกันระหว่างรัสเซียกับยูเครน ขณะที่ ฝั่งเวเนซุเอลาประกาศว่าพร้อมจะอำนวยความสะดวกทางทหารแก่รัสเซียหากความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซียตกต่ำลง (เวเนซุเอลากับรัสเซียมีข้อตกลงความร่วมมือทางทหารตั้งแต่ปี 44)
25 ม.ค.65 NATO เห็นพ้องให้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียหากโจมตียูเครน เช่น จะสนับสนุนอาวุธต่อต้านยานเกราะแก่ยูเครน โดยยังให้ความสำคัญกับการเจรจาทางการทูตเพื่อให้รัสเซียผ่อนปรนท่าทีแข็งกร้าวต่อยูเครน ขณะเดียวกัน สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น ประกาศเตือนให้พลเรีอนของตนออกจากยูเครน จากมีรายงานข่าวว่ารัสเซียมีความพยายามโค่นล้มรัฐบาลชุดปัจจุบันของยูเครน และเตรียมตั้งรัฐบาลตัวแทน
25 ม.ค.65 สหรัฐฯ เตรียมกำลังพล 8,500 คนสำหรับประจำการในยุโรป เมื่อสถานการณ์ในยูเครนพัฒนาไปในทิศทางที่ต้องการกำลังพลไปประจำการในยุโรป เพื่อเป็นหลักประกันแก่พันธมิตร NATO และยืนยันไม่มีแผนส่งกำลังพลไปประจำในยูเครน โดยสหรัฐฯ คาดการณ์ว่า รัสเซียวางกำลังทหารกว่า 127,000 คนประจำการตามแนวชายแดนยูเครน และเริ่มเคลื่อนย้ายอาวุธยุทโธปกรณ์และ กกล.ทหารเข้าไปในเบลารุส โดยเฉพาะอุปกรณ์สนับสนุนระบบป้องกันภัยทางอากาศระยะไกล S-400 ซึ่งมีแนวโน้มจะใช้การบุกจากทางเหนือของยูเครน ขณะที่รัสเซียแถลงว่าการเคลื่อนย้ายกำลังและยุทโธปกรณ์ไปในเบลารุสเพื่อเตรียมการฝึกในเดือน ก.พ.65
27 ม.ค.65 โฆษก ปธน.รัสเซียแถลงว่า การคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ต่อ ปธน.รัสเซียไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อรัสเซีย แต่อาจส่งผลกระทบทางการทูต เช่นการตัดความสัมพันธ์ทางการทูต ขณะที่ สหรัฐฯ ตอบโต้รัสเซียด้วยการส่งเอกสารไปยัง กต.รัสเซียผ่าน ออท.สหรัฐฯ/กรุงมอสโก เพื่อสกัดกั้นการรุกรานยูเครนของรัสเซีย โดยเอกสารดังกล่าวระบุถึงประเด็นที่รัสเซียห่วงกังวล และพัฒนาการของรัสเซีย ที่สหรัฐฯ เห็นว่าดี เช่น การควบคุมอาวุธ และยังระบุข้อห่วงกังวลของสหรัฐฯ และพันธมิตร ต่อการกระทำของรัสเซียที่บ่อนทำลายความมั่นคงในภูมิภาค
28 ม.ค.65 รัสเซียระบุสหรัฐฯ ไม่มีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาความกังวลของรัสเซีย ที่ยูเครนจะเข้าร่วมเป็นสมาชิกของ NATO และการถอนกำลังทหาร ยุทโธปกรณ์ ออกจากประเทศยุโรปตะวันออก ขณะเดียวกันนี้ ฝั่งสหรัฐฯ เตือน ปธน.ยูเครนว่ามีความเป็นไปได้สูงที่รัสเซียจะใช้กำลังบุกยูเครนใน ก.พ.65
30 ม.ค.65 สหราชอาณาจักรกำลังพิจารณาเสนอเพิ่มกำลังทหารเป็นสองเท่าในยุโรปตะวันออก เนื่องจากต้องการส่งสัญญาณถึงรัสเซีย และจะไม่อดกลั้นต่อการบ่อนทำลายเสถียรภาพของรัสเซีย พร้อมจะยืนหยัดเคียงข้าง NATO
31 ม.ค.65 ผู้แทนรัสเซียยืนยันในที่ประชุม UNSC ซึ่งจัดขึ้นตามที่สหรัฐฯ ร้องขอ เมื่อ 31 ม.ค.65 ว่ารัสเซียไม่มีแผนในการใช้กำลังทหารต่อยูเครน พร้อมกล่าวหาสหรัฐฯ ที่ปลุกปั่นและสร้างแรงกดดัน ชี้นำประชาคมโลกไปในทางที่ผิด และแทรกแซงกิจการภายในของรัสเซีย ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดความตีงเครียดในภูมิภาค ขณะที่สหรัฐฯและสหราชอาณาจักรระบุจะตอบโต้อย่างเด็ดขาดหากรัสเซียบุกยูเครน
จากลำดับสถานการณ์นับตั้งแต่กลาง ธ.ค.64 จนถึงสิ้นสุด ม.ค.65 จะเห็นได้ทั้งฝ่ายรัสเซีย กับสหรัฐฯ และพันธมิตรสำคัญในยุโรปและ NATO ต่างฝ่ายต่างใช้ Soft Power ในการตอบโต้และข่มขู่อีกฝ่าย จนสถานการณ์มุ่งไปสู่ความตึงเครียดเพิ่มขึ้นเรื่อย อีกข้อสังเกตุหนึ่งจะเห็นได้ว่า สหรัฐฯ ได้มีการแจ้งเตือนยูเครนบ่อยครั้งว่า รัสเซียจะทำการบุกเข้าประเทศยูเครนใน ก.พ.65 คาดว่าเป็นการประเมินสถานการณ์จากประชาคมข่าวกรองของสหรัฐฯ
ทั้งนี้ หากท่านใดอยากกลับไปอ่านตอนที่ 1 สามารถเข้า่านลิงค์ด้านล่างได้โดยตรง
และติดตามผ่านซีรีย์ Road to Crisis “Russia Ukraine” ได้
- 5
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
