Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
รู้เรื่องสัตว์ๆ
•
ติดตาม
14 มี.ค. 2022 เวลา 01:08 • สิ่งแวดล้อม
รู้เรื่องสัตว์ ๆ ตอนที่ 22 | ภาวะโลกรวน🌡🌏 เมื่อสัตว์หายไป พืชก็หายตาม
ในขณะที่สัตว์หลายชนิดกำลังดิ้นรนเพื่อปรับตัวต่อ climate change พืชเองถึงก็อยากจะอยู่รอดจากภาวะโลกรวนไม่แพ้กัน
แต่พืชไม่สามารถเคลื่อนที่เพื่ออพยพเองได้และจำเป็นต้องอาศัยความช่วยเหลือจากเหล่าสัตว์ที่ทำหน้าที่เป็นนักกระจายเมล็ดพันธุ์ (seed disperser) แต่หากสัตว์เหล่านั้นลดจำนวนลงหรือสูญพันธุ์ไป...พืชเองก็คงไม่รอด
ช้างตัวผู้ในเคนย่ากำลังกินลูกไม้ ซึ่งต่อไปเมล็ดในลูกไม้เหล่านี้ก็จะเดินทางไกลไปพร้อมกับช้างตัวนี้ ก่อนจะออกมาพบกับสภาพแวดล้อมใหม่ที่อยู่ไกลออกไปหลายสิบกิโลเมตรพร้อมกับมูลช้าง © JONATHAN & ANGELA SCOTT/AWL IMAGES LTD/AURORA PHOTOS Via. https://www.science.org/content/article/amazing-african-elephants-may-transport-seeds-farther-any-other-land-animal
จากตอนที่แล้วที่พูดถึงการปรับตัวของสัตว์ต่อ climate change ไม่ว่าจะเป็นการปรับตัวทางสรีรวิทยาและพฤติกรรมในการย้ายถิ่นที่อยู่อาศัยเพื่อหากินและผสมพันธุ์ ซึ่งก็มีทั้งที่ปรับตัวได้สำเร็จและล้มเหลว...
และไม่ใช่แค่สัตว์เท่านั้นที่ต้องการปรับตัวพืชเองก็เช่นกัน และแม้พืชจะไม่มีขาที่จะเคลื่อนที่ไปตามใจได้
แต่พืชก็มีวิธีการของตัวเองในการกระจายเมล็ดพันธุ์โดยอาศัยความช่วยเหลือจากสิ่งแวดล้อมไม่ว่าจะเป็น ลม น้ำ แรงโน้มถ่วง การดีดตัว (ออกจากเปลือก)
และหนึ่งในวิธีการกระจายเมล็ดที่ดีที่สุดก็คืออาศัยสัตว์ให้ช่วยเป็นพาหนะเพื่อนำเมล็ดพันธุ์เดินทางไปสู่สภาพแวดล้อมใหม่ ๆ ที่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโต🐘🐂🦏🦌🦜
โดยพืชมีผลไม้สุก ๆ 🍒เป็นตัวดึงดูดให้เหล่าสัตว์ที่เป็น fruit-lover หรือ frugivore มากิน มีเนื้อผลอร่อย ๆ แทนค่าตอบแทนในการขนส่งเหล่าเมล็ดพันธุ์พืช
แม้จะไม่ใช่พาหนะที่หรูหราเพราะเป็นการเดินทางผ่านทางเดินอาหารของสัตว์ และจะถึงที่หมายเมื่อสัตว์ถ่ายมูลที่มีเมล็ดพันธุ์ติดอยู่ออกมา💩
และหนึ่งในนักกระจายเมล็ดที่ยอดเยี่ยมที่สุดก็คือช้าง🐘เพราะช้างเป็นพาหนะขนาดใหญ่ที่นำเมล็ดพันธุ์เดินทางไปยังที่หมายใหม่ซึ่งอาจอยู่ไกลออกไปกว่า 65 กิโลเมตร
และยังมีของแถมเป็นปุ๋ยชั้นดีจากมูลช้างที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุและสารอาหารซึ่งจะช่วยให้เมล็ดพันธุ์สามารถงอกและเจริญเติบโตได้อย่างดีอีกด้วย
ต้นอ่อนพืชที่งอกจากมูลช้าง © Elephant Listening Project Via. https://medium.com/elp-rumbles/gardeners-of-the-forest-4a48d1d68991
สัตว์ก็เอาตัวไม่ค่อยรอด พืชเองก็ลำบาก...☠️
ป่าในทุกวันนี้เงียบกว่าเมื่อหลายศตวรรษก่อนมาก โดยเฉพาะในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา ที่เสียงนกร้องหาคู่ค่อย ๆหายไป เสียงลิงที่ห้อยโหนตามกิ่งไม้น้อยลง แม้แต่กบที่ออกมามองหาแมลงเป็นอาหารก็พบได้ยากขึ้น
นั่นก็เพราะประชากรสัตว์มีกระดูกสันหลังทั้งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม นก สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก สัตว์เลื้อยคลาน และปลา ลดลงโดยเฉลี่ยประมาณ 68% ตามรายงานของกองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF)
จากการศึกษา “ผลกระทบจากการลดลงของสัตว์ที่มีต่อความสามารถของพืชในการติดตาม climate change” พบว่าการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพของนกและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจาก climate change (ที่มีสาเหตุจากมนุษย์) ส่งผลให้การกระจายเมล็ดพันธุ์พืชโดยอาศัยสัตว์ลดน้อยลง
ในสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง พืชต้องพบกับคลื่นความร้อนที่รุนแรงขึ้น🥵หรือปริมาณน้ำฝนที่มากเกินไป⛈️ ดังนั้นเพื่อความอยู่รอดพืชจึงต้องหาทางแพร่กระจายไปยังพื้นที่ใหม่ที่มีสภาพอากาศเหมาะสมต่อการเจริญเติบโต
และมีการวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่าประชากรพืชบางส่วนมีการเคลื่อนที่ย้ายถิ่นออกไปไกลหลายกิโลเมตรในแต่ละปีเพื่อจะตั้งรกรากในพื้นที่ซึ่งมีสภาวะใกล้เคียงกับที่ ๆ พืชเคยมีวิวัฒนาการมา ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "climate tracking' หรือ "การย้ายถิ่นตามสภาพอากาศ"
แต่การย้ายถิ่นของพืชไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะพืชจำเป็นต้องใช้สัตว์เป็นยานพาหนะในการขนส่งเมล็ดและเมื่อสัตว์ป่าทั่วโลกกำลังหายไป พืชหลายชนิดก็ไม่สามารถแพร่กระจายพันธุ์ได้และต้องติดแหง็กอยู่ในพื้นที่ที่มีสภาวะไม่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตอีกต่อไป
โดยจากการศึกษาทีมนักวิจัยได้ใช้ระบบ machine learning ร่วมกับข้อมูลการศึกษาภาคสนามหลายพันข้อมูลในการสร้างแผนที่ระบบการกระจายเมล็ดพันธุ์ที่เกิดขึ้นจากนกและสัตว์ต่าง ๆ ซึ่งพบเครือข่ายกว่า 400 เครือข่ายทั่วโลก
และเมื่อเปรียบเทียบกับการแพร่กระจายในอดีตพบการเปลี่ยนแปลงในเครือข่ายของนกและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเนื่องจากการลดลงของประชากรสัตว์กลุ่มนี้อันเนื่องมาจาก climate change
ซึ่งการลดลงของนกและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมส่งผลต่อความสามารถของพืชในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศลดลงมากถึง 60% เพราะครึ่งหนึ่งของพืชต้องอาศัยสัตว์กลุ่มนี้ในการกระจายเมล็ด ไม่ว่าจากการถ่ายมูลหรือติดไปตามปีกหรือขนสัตว์
ส่งผลให้เครือข่ายการกระจายเมล็ดบางเครือข่ายหายไปหรือมีการเกิดเครือข่ายในรูปแบบใหม่ขึ้นเพื่อชดเชยความหลากหลายทางชีวภาพที่สูญเสียไป จึงอาจนับเป็นการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของพืชรูปแบบหนึ่ง
เราสูญเสียสัตว์และยิ่งกว่านั้นเรายังสูญเสียสิ่งที่สัตว์ทำให้กับระบบนิเวศอีกด้วย และเมื่อเราสูญเสียนักกระจายเมล็ดพันธุ์เหล่านี้เราก็สูญเสียความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างพืชและสัตว์ซึ่งช่วยสนับสนุนหน้าที่ของระบบนิเวศด้วย
Evan Fricke หัวหน้าทีมวิจัย
ทั้งนี้ ภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบอย่างมากคือพื้นที่ในเขตอบอุ่น (temperate) ของอเมริกาเหนือ ยุโรป อเมริกาใต้ และออสเตรเลีย
ส่วนในพื้นที่เขตร้อน (tropical) อย่าง อเมริกาใต้ แอฟริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็มีโอกาสที่ได้รับผลกระทบมากขึ้นในกรณีที่กลุ่มสัตว์หายากหรือสัตว์ที่จัดอยู่ในสถานภาพสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ (endangered species) สูญพันธุ์ไป
เพราะสัตว์หากยากหลายชนิดสามารถกระจายเมล็ดพันธุ์ได้ในระยะทางไกล เช่น กระซู่🦏ซึ่งเป็นนักกระจายเมล็ดพันธุ์ที่สำคัญ และปัจจุบันมีประชากรเหลืออยู่เพียง 80 ตัวในอินโดนีเซียเท่านั้น
และแม้ในสิ่งแวดล้อมเดียวกันจะมีสัตว์ชนิดอื่นที่สามารถช่วยกระจายเมล็ดพันธุ์ได้ เช่น ช้าง แต่ก็ไม่สามารถทดแทนการหายไปของกระซู่ได้เพราะกระซู่กินผลไม้เยอะกว่าช้างหลายเท่านัก ดังนั้น การสูญเสียสัตว์หากยากเหล่านี้จะกระทบกับพืชในเขตร้อนอย่างมากเช่นกัน
การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอากาศกำลังนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ต่อถิ่นที่อยู่อาศัยของพืชและนั่นหมายความว่าพืชต้องการเคลื่อนย้ายถิ่นที่อยู่อาศัยได้มากขึ้นและไกลขึ้นกว่านี้เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้น
ไม่เช่นนั้นแล้วหากสัตว์ไม่รอด พืชก็ไม่รอด และต่อจากนั้นก็จะนำมาซึ่งการพังทลายของระบบนิเวศซึ่งเป็นความสัมพันธ์ที่เป็นพื้นฐานของระบบนิเวศที่สมบูรณ์ที่มีการวิวัฒนาการมาหลายล้านปี...
อ้างอิง
■
Benji Jones. 2022. Earth is running low on wildlife. Plants will be next. From
https://www.vox.com/down-to-earth/22877262/seeds-plants-animals-climate-migration
Downloaded on 13/03/2022
■
KATIE AVIS-RIORDAN. 2020. How plants hitchhike on animal poo. From
https://www.kew.org/read-and-watch/plant-seed-dispersal-animal-poo
Downloaded on 13/03/2022
■
Melanie Nagy and Christy Somos. 2022. Climate change is making it harder for plants to spread seeds via animals. From
https://www.ctvnews.ca/climate-and-environment/climate-change-is-making-it-harder-for-plants-to-spread-seeds-via-animals-1.5751433
Downloaded on 13/03/2022
■
https://ngthai.com/animals/26149/lastsumatranrhinoinmalaydied/
■
https://www.science.org/doi/10.1126/science.abk3510
■
https://www.worldwildlife.org/press-releases/68-average-decline-in-species-population-sizes-since-1970-says-new-wwf-report
การศึกษา
สิ่งแวดล้ม
วิทยาศาสตร์
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
Zoology นอกห้องเรียน
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย