18 มี.ค. 2022 เวลา 11:11 • ไลฟ์สไตล์
“เรา ไม่เป็นอะไรเลย”
“ … ในวันนี้จะพูดเรื่องว่า โดยที่แท้ เราไม่เป็นอะไรเลย
ที่แท้เราไม่เป็นอะไรเลย
ในวันก่อน ๆ ก็ได้พูดว่าเราเป็นคนจนบ้าง เราเป็นคนรวยที่สุดบ้าง และเป็นอะไรอีกหลาย ๆ อย่าง โดยเฉพาะเป็นธรรมทูต
แต่เดี๋ยวนี้กำลังบอกว่า เราไม่เป็นอะไรเลยโดยที่แท้
มีคำว่า “ที่แท้” อยู่อย่างนี้
ย่อมเข้าใจได้เองทุกคนว่า โดยที่ ”ไม่แท้” นั้นเราเป็นอะไรมากมายทีเดียว แม้แต่เป็นธรรมทูต
เมื่อเป็นอย่างนี้ก็จะต้องเข้าใจต่อไปอีกในข้อที่ว่า
พูดอย่างไรเป็นพูดภาษาคน
พูดอย่างไรเป็นพูดภาษาธรรม
ที่พูดว่าเราเป็นอะไรอย่างนั้นอย่างนี้
นั่นมันเป็นการพูดตามภาษาคน
ส่วนที่ว่าเราไม่เป็นอะไรเลยนั้น
เป็นการพูดตามภาษาธรรม
ภาษาคนนั้น จริงอย่างสมมติ
หรือที่เรียกว่า Relative truth
ส่วนพูดอย่างภาษาธรรมนั้นมันจริงแท้
หรืออย่างที่เรียกว่า Ultimate truth
เมื่อเราเปรียบเทียบกันดูอย่างนี้
เราจะเห็นได้ว่าในภาษาพูดมีความจริงอยู่ ๒ อย่าง
จริงตามที่ตกลงกัน หรือพูดจากันอยู่ตามปกติของคนที่ไม่รู้ธรรมะนั้น เป็นความจริงที่ยืดหยุ่นได้ เปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับความรู้สึกหรือความเข้าใจของคนผู้พูด
ส่วนความจริงแท้นั้น ไม่ขึ้นอยู่กับใคร ขึ้นอยู่กับตัวมันเอง คือ ธรรมชาติ เพราะว่าสิ่งที่เรียกว่าความจริงนี้ ก็เป็นธรรมชาติอย่างหนึ่ง
ธรรมชาติที่แท้จริงก็อย่างหนึ่ง ธรรมชาติที่ไม่แท้จริงก็อย่างหนึ่ง แต่แล้วมันก็ยังคงเป็นธรรมชาติด้วยกันทั้งนั้น
ธรรมชาติที่ไม่แท้ ก็คือ ตามที่มันจะปรุงแต่ง เปลี่ยนแปลงไปตามความรู้สึก คิดนึก ถ้าเป็นคน ก็เป็นความรู้สึกคิดนึกของคน
ความรู้สึกคิดนึกที่ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยนี้เปลี่ยนได้ ดังนั้น จึงไม่แท้ เราเรียกว่า สมมติสัจ สัจจะที่สมมติ
ส่วนที่ไม่ขึ้นอยู่กับเหตุกับปัจจัยของคน ขึ้นอยู่กับตัวมันเองนั้น เป็นปรมัตถสัจ หรืออะไรก็แล้วแต่จะเรียก แต่ความหมายสำคัญอยู่ที่ว่า มันเด็ดขาด มันเที่ยงแท้ มันแน่นอน
ตามสมมติสัจ เราก็เป็นนั่นเป็นนี่ มากมายหลายอย่าง และเปลี่ยนแปลงเรื่อย
แต่ตามปรมัตถสัจ เราก็ไม่เป็นอะไรเลย
ดังนั้น ขอให้นึกถึงบทสวด ธาตุปัจจเวก ที่ว่า นิสสัตโต นิชชีโว สุญโญ … “
.
ธรรมบรรยาย
โดย พระธรรมโกศาจารย์ พุทธทาสภิกขุ
ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ :
ยะถาปัจจะยัง ปะวัตตะมานัง ธาตุมัตตะเมเวตัง,
สิ่งเหล่านี้นี่เป็นสักว่าธาตุตามธรรมชาติเท่านั้น
กําลังเป็นไปตามเหตุตามปัจจัยอยู่เนืองนิตย์
ยะทิทัง ปิณฑะปาโต ตะซุปะภุญชะโก จะ ปุคคะโล,
สิ่งเหล่านี้คือบิณฑบาต, และบุคคลผู้บริโภคบิณฑบาตนั้น
ธาตุมัตตะโก,
เป็นสักว่าธาตุตามธรรมชาติ
นิสสัตโต,
มิได้เป็นสัตวะอันยั่งยืน
นิชชีโว,
มิได้เป็นชีวะอันเป็นบุรุษบุคคล
สุญโญ,
ว่างเปล่าจากความหมายแห่งความเป็นตัวตน
สัพโพ ปะนายัง ปิณฑะปาโต อะชิคุจฉะนีโย,
ก็บิณฑบาตทั้งหมดนี้, ไม่เป็นของน่าเกลียดมาแต่เดิม
อิมัง ปูติกายัง ปัต๎วา,
ครั้นมาถูกเข้ากับกายอันเน่าอยู่เป็นนิจนี้แล้ว
อะติวิยะ ชิคุจฉะนีโย ชายะติ.
ย่อมกลายเป็นของน่าเกลียดอย่างยิ่งไปด้วยกัน.
Photo by : Unsplash

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา