15 มี.ค. 2022 เวลา 05:12 • นิยาย เรื่องสั้น
นิยาย : บันทึกบทที่ 3 แรกพบสบตา ดั่งต้องมนตรา
"วันนั้น วินาทีที่สบสายตา มือที่เผลอไปสัมผัสกันโดยบังเอิญ เหมือนมีกระแสไฟฟ้าวิ่งขึ้นมาตามแขน ตามลำตัว ปักตรงไปที่หัวใจ โลกหยุดหมุน กาลเวลาหยุดนิ่ง ทุกอย่างเงียบสงัด มีเพียงฉันกับคุณ และสร้อยหินสีม่วงอเมทิสต์ (Amethyst) เส้นนั้น
คุณเสียสละสร้อยเส้นนั้นให้ฉัน ซึ่งมันทำให้เราได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น ฉันตอบคุณไปด้วยความเขินอายว่า ไม่เป็นไร ฉันเป็นคนขาย นี่ร้านขายเครื่องประดับของฉันเอง
"คุณชอบสร้อยหินเส้นนี้หรือคะ"
"ครับ ๆ เห็นแล้วสะดุดตาน่าสนใจดีครับ"
'สร้อยหินเส้นนี้ทำมาจาก
หินควอทซ์อเมทิสต์แท้ค่ะ"
"มีหินแท้หินปลอมด้วยเหรอครับ"
"ถ้าซื้อจากร้านนี้ รับรองของแท้ค่ะ"
"แล้วสร้อยอเมทิสต์เส้นนี้มีความหมายยังไงบ้างครับ"
"อเมทิสต์ช่วยให้เรามีสติ มีสมาธิ ช่วยให้จิตใจสงบ ช่วยให้มีความคิดสร้างสรรค์ มีเหตุผล การตัดสินใจแน่วแน่ จิตใจผ่อนคลาย หลับง่ายขึ้น ปรับสมดุลอารมณ์ เพิ่มพลังงานบวก"
ฉันอธิบายอะไรไปบ้างก็ไม่รู้ตั้งยึดยาว และคุณก็ได้เป็นเจ้าของสร้อยเส้นนั้นไป รวมทั้งกำไล และจี้หิน เข้าชุดกัน
ฉันอ่านบันทึกบทที่ 3 จบแล้วก็ปิดสมุดไดอารี่ลง วางมือบนสมุดเล่มนั้นอย่างเบามือ และกล่าวเบา ๆ "ขอบคุณค่ะ"
ความรู้สึกของฉันที่ยังอินกับเรื่องราวที่เพิ่งได้อ่านมานั้นยังอบอวล อิ่มเอมในหัวใจ จนเผลอทำท่าฝันหวาน ยกมือทั้งสองมาวางที่สองข้างแก้มตัวเอง พลันความคิดก็พาฉันไปถึงเหตุการณ์ในตอนนั้น
โรแมนติกจังเลย นี่สินะ ครั้งแรกที่คุณยายเจอกัน ก็มีเหตุการณ์แปลก ๆ ที่ทำให้ประทับใจเกิดขึ้นทันที เป็นรักแรกพบเหมือนในหนังเลย มีสโลว์โมชั่นในความรู้สึกด้วย โอ้ย โรแมนติกที่สุด แต่ว่าจังหวะไฟฟ้าช็อตนั้น เหมือนเป็นการเชื่อมต่อทางพลังงาน
สร้อยหินเส้นนั้นอาจเป็นสื่อนำหรือเป็นเพียงแค่… เพื่อให้สองดวงจิตได้มาเจอกัน
อยากเห็นร้านขายเครื่องประดับของคุณยายจัง ในยุคสมัยนั้นเขาจัดร้านกันยังไงนะ
อ่ะ แฟ้มเอกสารที่คุณยายให้มาด้วยไง อาจมีรูปถ่ายหลงเหลือบ้าง หนูขอดูหน่อยนะคะคุณยาย
เฟอร์รีบลุกไปค้นหาแฟ้มที่คุณยายให้มา แล้วเปิดหารูปถ่ายที่ร้านขายเครื่องประดับ
"ขอบคุณพระเจ้า เป็นเหมือนที่ฉันคิดไว้เลย คุณยายนี่สุดยอดจริง ๆ แถมตอนเป็นสาวคุณยายก็ดูสวย สง่า สดใสมากด้วย"
ฉันมองดูรูปถ่ายของคุณยายในวัยสาว ที่ตอนนี้ส่งยิ้มให้ฉัน ด้วยดวงตาที่สดใส และฉันก็ยิ้มตอบกลับไปให้คุณยายในรูปถ่ายใบนั้นด้วยเช่นกัน พร้อมกับลูบมือเบา ๆ เพื่อเช็ดคราบฝุ่นออกจากภาพ
เป็นรูปที่คุณยายยืนถ่ายหน้าร้านขายเครื่องประดับ คุณยายใส่ชุดไทย เหมือนเป็นชุดเสื้อผ้าแบบทางภาคเหนือของประเทศไทยนะ นุ่งผ้าถุงยาว เกล้าผม ปักปิ่นทอง มีสร้อยหินห้อยระย้า ยิ่งส่งให้คุณยายดูสวยงาม อ่อนหวาน
ด้านหลังมีฉากไม้แกะสลักฉลุลายไทยกั้นไว้
ด้านข้างมีกระถางหินใบไม่ใหญ่มากนัก แต่รูปทรงสูง มีขนนกยูงใส่ประดับไว้ในกระถาง ลวดลายแบบโบราณ แปลก แต่ดึงดูดสายตา เหมือนนางฟ้ากำลังฟ้อนรำ น่าจะเป็นศิลปะทางขอม หรือกัมพูชา ฉันก็ไม่แน่ใจ แต่เคยเห็นภาพแกะสลักแบบนี้ตามวัดไทยแน่นอน
ที่หน้าร้านตรงที่คุณยายยืนอยู่มีโต๊ะยาว ปูด้วยผ้าขน มิงค์สีขาวสะอาด มีก้อนหินสีสันสวยงามแปลกตา หลากหลายขนาด ก้อนหินสีม่วงอมชมพูนั่นสินะ คือหินอเมทิสต์ สร้อยหิน กำไล แหวน ต่างหู และจี้ที่ทำมาจากหินควอทซ์วางเรียงเป็นระเบียบ
และในตู้โชว์ อีกสองตู้ ที่น่าจะเป็นงานที่ลูกค้าสั่งทำขึ้นมาเป็นพิเศษหรือเปล่า อ้อ แต่ฉันเคยได้ยินมาว่า หินเหล่านี้มีพลังงาน และไม่ควรให้คนอื่นมาจับเล่น
ถ้ามีคนมาจับ จะทำให้ความเข้มข้นของพลังงานผิดเพี้ยนไป
ส่วนงานที่วางโชว์นอกตู้ เจ้าของร้านก็ต้องเช็ดล้าง ทำความสะอาด เพื่อลบล้างพลังงานที่ตกค้างจากการสัมผัสของลูกค้า ที่บางครั้งแค่แวะมาดู มาถาม ลองสวม แต่ยังไม่ตัดสินใจซื้อ ส่วนคนที่ชอบจริง ๆ ส่วนมากมักจะสั่งทำเป็นพิเศษทั้งนั้น
ฉันไม่แน่ใจว่าตอนนี้ที่บ้านคุณยายยังมีหินสีสันสวยงามเหล่านี้เหลืออยู่บ้างไหมนะ
ครั้งต่อไป ที่ไปเยี่ยมคุณยายฉันจะลองถามเรื่องหินพวกนี้เพิ่มก็แล้วกัน
ตอนนี้ฉันง่วงนอนมากแล้ว พรุ่งนี้ค่อยกลับมาอ่านเรื่องราวบันทึกรักของคุณยายใหม่ดีกว่า หวังว่าคืนนี้ฉันคงไม่หลับฝันถึงเจ้าหินสีม่วงพวกนี้หรอกนะ ยิ่งดูยิ่งเหมือนโดนมนต์สะกด แม้ภาพจะเก่าแล้ว แต่หินยังคงสะท้อนแสงเปล่งประกายระยิบระยับ ข้างในหินพวกนั้น เหมือนมีอะไรบางอย่าง
ฉันง่วงจริง ๆ นะ
เฟอร์นันด้า หยุดนิ้วมือจากการพิมพ์ พร้อมกับยกมือขึ้นปิดปากหาว หยิบรูปของคุณยายขึ้นมาดูอีกครั้ง
แล้วพูดกับรูปนั้นด้วยเสียงอู้อี้ เพราะง่วงนอนเต็มที "Good night ค่ะคุณยาย"
ในฝัน
"เธอชอบอเมทิสต์ไหมเฟอร์นันด้า"
"ไม่แน่ใจค่ะ รู้แต่ว่าน่าสนใจดี"
"เธออยากรู้จักอเมทิสต์ให้มากกว่านี้ไหม"
" Oh Wow ฉันกำลังคิดว่าจะถามคุณยายเรื่องหินพวกนี้เพิ่มเติมอยู่พอดีเลยค่ะ คุณรู้จักหินพวกนี้ด้วยเหรอคะ"
"ก็พอรู้จักอยู่บ้าง"
"ถ้าอย่างนั้น ฉันคงต้องรบกวนให้คุณเล่าให้ฉันฟังบ้างแล้วค่ะ"
"มีเรื่องเล่าขานเป็นตำนานไว้ว่า
เทพเจ้าไดโอนิซุส (Dionysus) เทพเจ้าแบกคัส (Bacchus) ในตำนานของโรมัน ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งไวน์และการเฉลิมฉลอง และเทพธิดาแห่งการล่าอาร์ทิมิส (Artemis) เทพธิดาไดอาน่า (Diana)
ไดโอนิซุส อยู่ในอารมณ์ไม่ดีเพราะถูกมนุษย์ดูถูก เขาจึงต้องการแก้แค้น เมื่อลงมาสู่โลกมนุษย์เขาสาบานว่า เขาจะฆ่ามนุษย์ทุกคนที่มาเจอกับเขา
จากนั้นเขาก็วางกับดักชนิดหนึ่งโดยใช้เสือของเขาเพื่อทำงานนี้ ดังนั้นแน่นอนว่า หากมนุษย์ผู้ใดผ่านมาเส้นทางนี้จะพบกับดักของเขา ปรากฏว่า มนุษย์ที่ผ่านเส้นทางนี้คือหญิงสาวที่งดงามคนหนึ่งชื่อว่า อเมทิตอุส (Amethytos) ซึ่งกำลังเดินผ่านมา เพื่อที่จะส่งเครื่องบูชาต่อเทพธิดาอาร์เทมิส
อาร์เทมิสไม่มีเวลามากพอที่จะช่วยชีวิตของหญิงสาว ดังนั้นท่านจึงร่ายมนต์เปลี่ยนให้หญิงสาวกลายเป็นรูปผลึกบริสุทธิ์ (ผลึกของควอทซ์) ทีละส่วนของร่างกายที่ถูกเสือทำร้าย ซึ่งจะช่วยปกป้องเธอจากการโจมตีของเสือ น่าเสียดายที่ตอนนี้เธอได้กลายเป็นหินไปเสียแล้ว
เมื่อไดโอนิซุสได้เข้าไปดูที่ร่างของหญิงสาวและนึกถึงสิ่งที่เขาทำ จึงเริ่มสำนึกถึงสิ่งโหดร้ายที่ตัวเองทำลงไป จึงเทน้ำองุ่นของเขาบนก้อนหินเพื่อถวายเป็นเครื่องบูชาให้เทพอาร์เทมิส
น้ำที่ราดรดลงไปบนผลึกควอทซ์นั้น คือน้ำตาของไดโอนิซุสที่เสียใจจากกระทำของเขาเอง และน้ำตาของเขาเป็นน้ำตาแห่งไวน์ เขาร้องไห้จนน้ำตาของเขาไหลอาบไปทั่วรูปปั้นควอทซ์ของหญิงสาว จึงเปลี่ยนรูปปั้นให้กลายเป็นสีม่วง"
"Wow สุดยอดไปเลยค่ะ"
"เธอเริ่มชอบอเมทิสต์ขึ้นมาแล้วใช่ไหม"
"ชอบค่ะ ถ้ามีโอกาส ฉันจะลองออกแบบเครื่องประดับที่ทำจากอเมทิสต์ให้ตัวเองบ้าง"
"ถ้าอย่างนั้นจะช้าอยู่ทำไม เราไปดูต้นกำเนิดของอเมทิสต์กันเถอะ"
"ได้เหรอคะ"
"เธอพร้อมหรือยังละ"
"พร้อมค่ะ"
อเมทิสต์ (Amethyst)
เป็นอัญมณีชนิดสีม่วงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกของหินในตระกูล quartz ถูกใช้ในเครื่องประดับมานานกว่าสองพันปี
ผู้แต่ง : SMLX
สำนักพิมพ์ : Laksamontra
อ่านทุกตอน ก่อนใครที่ 👇🙏💓🫂

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา