18 มี.ค. 2022 เวลา 08:58 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
ความรู้สึกแรกหลังออกจากโรงคือ มันสนุกแต่ไม่ใช่สำหรับทุกคน มันยาวมากจนบางคนอาจยอมแพ้ และพยายามหาเส้นทางใหม่ในการเล่าเรื่องราวของฮีโร่รายนี้ แล้วทำได้ไหม หนังทำได้ แต่อาจไม่ถูกจริตทุกคน
หนังเล่าเรื่องราวในช่วงปีที่2 ของการเป็นแบทแมน เขายังไม่เป็นที่ยอมรับของผู้คนและตำรวจ แต่กับวายร้ายเขาเป็นเหมือนผู้พิพากษา เป็นปีศาจที่อาจคอยออกมาจัดการพวกมัน เขาใช้พลังจากความแค้นเป็นแรงผลักดันให้กับตัวเอง จนกระทั่งฆาตกรเลือดเย็นนาม “เดอะริดเลอร์”ได่ก่อคดีฆาตกรรมที่สั่นสะท้านคนทั้งเมือง ริดเลอร์เชื่อว่าการกระทำของเขาจะเปิดโปงความฟอนเฟะ เน่าหนอนและโสมม ของเมืองที่กำลังผุพัง และมันก็เกี่ยวข้องกับอดีตของแบทแมน
ความน่าสนใจแรกคือตัวผกก. Matt Reeves ที่ได้ผสานเรื่องราวของฮีโร่เป็นหนังแนวสืบสวนสอบสวนแบบ Se7en และ Zodiac ของ David Fincher ที่มีทั้งปริศนา การสันนิษฐาน ขนาดที่ว่าเกือบครึ่งนึงของหนังคือการสืบสวนสวบสวนล้วนๆ
และส่วนเรื่องราว Coming of age ทั้งในตัว แบทแมน / กอร์ดอน แม้แต่ แคทวูแมน พวกเขาต้องใช้เวลาเดิบโต จากกลุ่มคนนอกคอกของเมืองที่ชื่อว่าอันตรายที่สุดในโลกอย่าง ก็อธแธม
กอร์ดอน เขาต้องพยายามอย่างยิ่งที่จะทำให้ผู้คนเชื่อในตำรวจของเมืองนี้ ว่าไม่ใช่ทุกคนที่โกงกิน
แคทวูแมน ต้องเรียนรู้ที่จะเชื่อใจใครสักคน ต้องปล่อยวางอดีตอันบอบช้ำ และก้าวต่อไป
และ บรูซ เวย์น/แบทแมน นั้นยังเยาว์ ขาดประสบการณ์ เห็นได้จากเวลาสอบสวน เขาคาดคะเนถูกบ้างผิดบ้าง เวลาต่อสู้ก็เน้นใช้gadget และกำลังเข้าว่า เราจึงได้เห็น แบทแมนที่เป็นทั้งนักสืบ ใช้Gadgetได้คุ้มค่า และยังได้เห็น ชายที่เปราะบางทางอารมณ์อย่างที่สุด ซึ่ง Robert Pattinson ได้สร้างบุคลิกตัวตนที่เป็นเอกลักษณ์ได้สำเร็จ ตั้งแต่ภายนอก ที่ดูไม่ได้นอน(ฮาา) แปลกแยก พูดน้อยต่อยหนัก บางทีก็พูดไม่คิด หวังว่าถ้ามีภาคต่อ เราจะได้เห็นพัฒนาการของตัวละครตัวนี้ จากเด็กอีโม เป็นชายผู้สุขุม รอบคอบ
ด้านตัวละครสมทบ เดอะริดเลอร์ ที่แสดงโดย Paul Dano เข้าข่าย น้อยแต่มาก การแสดงทางสีหน้าของเขาแทบจะถูกปิดทับเกือบ 100% ตลอดทั้งเรื่อง ส่วนที่ทำให้เขาเป็นที่จดจำและดีเด่นคือน้ำเสียง ที่แสดงถึงความโรคจิต และความมุ่งมั่นที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงให้กับเมืองที่ฟอนเฟะแห่งนี้
ด้าน Colin Farrell คนนี้ให้คะแนนจอมขโมยซีนแบบไม่ต้องสงสัย ทุกฉากที่ออกมามักแฝงความตลกร้ายแถมพิลึกพิลั่นบอกไม่ถูก เป็นทั้งตัวฮาและตัวโหดในคราวเดียวกัน
อีกตัวละครที่แม้ไม่มีบทพูดแต่ก็อยู่กับเราตลอดทั้งเรื่อง ก็คือเมืองGotham ที่ในครั้งนี้มีส่วนผสมของเมืองใหญ่ผสมความโกธิคแบบยุคกลาง เพิ่มเติมไปด้วย ความเสื่อมโทรม มองแล้วคุ้นๆเหมือนแถวนี้ ขยะกองตามท้องถนน ฝนตกตลอดทั้งเรื่องให้ความรู้สึกเปรอะเปื้อน สกปรก ไม่สบายใจ และดูหดหู่สิ้นหวัง สมใจผกก.เขาเลยแหล่ะ
ในช่วงฉากแอ๊คชั่น มาน้อยแต่เสียงดัง(เสียงหมัดนี่ชัดเจนมาก) ที่น่าสังเกตคือการวางกล้องที่ไม่เน้นตัดสลับแต่วางกล้องยาวๆ ให้ความรู้สึกอึดอัดและตื่นเต้น โชว์ทักษะการต่อสู้แบบที่ได้ยากในปัจจุบัน แตกต่างจากหนังเรื่องอื่นที่มีการตัดฉากไปมา
ส่วนฉากไล่ล่าที่หลายๆคนชมๆกันนั้น ข้อนี้ขอเห็นต่างว่า จริงมันสนุก สมจริง(เพราะถ่ายกันในถนนปิด) แต่ด้วยความที่มันมืด ฝนตก รายละเอียดต่างๆเลยไม่ชัดเท่าไหร่ ยังยกให้ฉากไล่ล่าใน THE DARK Knight คือ ที้ัสุดในตระกูลแบทแมน
ส่วนของดนตรีประกอบได้ Michael Giacchino มาทำดนตรีประกอบซึ่งติดหูเหลือเกิน ยิ่งเพลงประจำตัวชองแบทแมนยิ่งติดหูเล่นมาทุกช่วงไม่ติดก็แปลกแล้ว
ทุกช่วงเวลา ดนตรีประกอบทำหน่าที่ได้อย่างดี ไม่มากไปไม่น้อยไป(ไม่นับที่กล่าวก่อนหน้าอ่ะนะ)
ไม่แปลกใจเลยถ้าจะมีคนไม่ชอบหนังเรื่องนี้ ด้วยความยาวขนาด 3ชม. ฉากตื่นเต้นน้อยเน้นการเล่าเรื่องด้วยคำพูดแต่บางฉากที่ใส่เข้ามาก็ไม่ต้องยาวขนาดนั้นก็ได้ และยิ่งมีฉบับโนแลนที่ต้องมีคนมาเปรียบเทียบแน่ๆ การก้าวผ่านจึงเป็นเรื่องยาก แต่ ผกก. สามารถทำได้ อาจมีรอยแผลบ้าง แต่ก็ถือว่าทำได้ ส่วนตัวแล้ว แนะนำว่าตอนไปดูอยากให้คิดว่าเราไปดูหนังสืบสวน ไม่ใช่หนังฮีโร่ แต่ถ้าพยายามแล้วตัวหนังไม่ใช่ทาง ก็ไม่ผิดอะไร ถือว่าได้ลองรสชาติแปลกใหม่
#CatontheCrossroad
#TheBatman #เดอะแบทแมน #sanookjungrai #สนุกจังไร

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา