21 มี.ค. 2022 เวลา 03:13 • นิยาย เรื่องสั้น
ตอนที่ 2 : ชาวแก๊ง(2)
หลาม ในกระบอกไม้ไฝ่
หลังจากนั้นเพียงชั่วอึดใจ ยนต์ กอ และแร่ ก็ได้กลับเข้ามาในห้องเรียนชั้น ม.4/1 ห้องน้องใหม่ชั้น ม.ปลายที่เรียนมาถึงสองเทอมแล้ว
พวกเขาถือว่าเป็นแก๊งเด็กเรียนในระดับหนึ่งเลยทีเดียว ไม่ค่อยสนใจเรื่องอบายมุข ไม่ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเสพติด ชอบเล่นกีฬากลางแจ้ง โดยเฉพาะตะกร้อ บาสเกตบอล ซึ่งมักจะรวมตัวกันช่วงหลังเลิกเรียนอยู่เป็นประจำ และอีกอย่างที่ชื่นชอบก็คือ พวกเขามักจะชวนกันเข้าป่า หาล่าสัตว์ในช่วงวันหยุดอยู่บ่อยๆ
หลังจากสามเกลอ มาถึงห้องเรียน ชาวแก๊งก็นั่งรอกันอยู่แล้ว
เอขึ้นไปนั่งบนโต๊ะริมหน้าต่าง ร้องทักมาแต่ไกล เมื่อเห็นเพื่อนทั้งสามคนเดินมา
“ไอ้เขียวไม่มา" เสียงคนพูดเหมือนจะรู้อยู่แล้ว แต่น้ำสียงไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก
"กูว่าไปส่งสาวอีกแล้วสิท่า มันกลัวน้องเขาจะกลับบ้านไม่ถูกหรือไงว่ะ”
เอพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจ เมื่อเห็นว่าเพื่อนคนสำคัญอีกคนไม่ได้มาด้วย
“เออ ช่างหัวมันก่อนเถอะ เดี๋ยววันนี้กลับไปถึงบ้านตอนเย็น เราจะไปบอกมันเอง มันคงไม่ติดอะไรหรอก”
เสียงยนต์พูดตัดบท ก่อนที่เพื่อนคนอื่นๆ จะพากันหงุดหงิดตามไปด้วย
“เออ พวกมึงว่าไง วันเสาร์นี้กูว่าจะเข้าป่า หายิงนก ยิงกระแตกันสักหน่อย ไม่ได้กินหลาม* ในป่านานมากแล้ว กูอยากซดน้ำหลามร้อนๆ ว่ะ”
ภพพูดเข้าเรื่องเพื่อไม่ให้เสียเวลา
( * หลาม คือการปรุงอาหารโดยใช้ไม้ไฝ่ทั้งปล้อง แทนหม้อแกง เพื่อทำให้อาหารสุก ด้วยการสุมไฟ เป็นการทำอาหารเมื่อยามเข้าป่า โดยไม่ต้องพกหม้อแกงติดตัวไปด้วย)
“อยากไปเหมือนกันว่ะ”
กอตอบทันที เพราะว่าใจก็อยากไปอยู่แล้ว ทุกคนชื่นชอบการเดินป่าเป็นที่สุด
“แล้วพวกเราจะไปเขาฟากไหนดีล่ะ กูแล้วแต่พวกมึงเลย” เอถามต่อขึ้นมากลางวงสนธนา
ทุกคนเงียบ ไม่มีเสียงตอบ ต่างก็รอให้คนที่ชำนาญเส้นทางที่สุด เป็นคนตัดสินใจ
“เอ่อ เสาร์นี้กูไม่ว่างว่ะเพื่อน" แร่รีบปฏิเสธด้วยน้ำเสียงอ่อยในลำคอ เพราะเกรงใจเพื่อนที่อุตส่าเอ่ยปากชวน
"พอดีว่านัดกับพี่ที่บ้านว่าจะไปต่อไก่บนเขากัน คงไปกับพวกจารย์ไม่ได้ว่ะ”
“เออ ไม่เป็นไรหรอก เด่วพวกกูไปกันแค่นี้ก็ได้" เอพูดแทรกขึ้น เมื่อเห็นว่าเพื่อนเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดี
"อีกอย่าง บ้านจายร์แร่ก็อยู่ไกล ไปมาลำบาก” เอพูดต่อ ทำให้แร่รู้สึกดีขึ้นที่เพื่อนไม่โกรธ
“เออๆ ต้องขอโทษทีว่ะ กูนัดกับพี่เขาไว้หลายวันแล้ว”
ทุกคนครุ่นคิดอยู่สักพัก แต่ว่าไม่มีใครกล้าเสนอความเห็น เพราะรู้ดีว่า ตัวเองไม่ค่อยชำนาญเส้นทางเดินป่ามากนัก
“เราว่า ไปเขาฟากน้ำดีกว่า เพราะเราชำนาญเส้นทางที่สุดล่ะ จะได้ไม่หลง เราไม่ต้องไปไกลมากก็ได้ เลาะแถวห้วยหินซ้อน ก็คงพอได้กินกันอยู่หรอก”
ยนต์ ผู้ชำนาญเรื่องการเข้าป่าที่สุดตัดสินใจให้เหล่าเพื่อนๆ เพื่อจะได้ไม่ต้องคุยกันยืดยาว เพราะเห็นว่าต้องทำอะไรอีกหลายอย่าง
“โอเค สรุปว่าพรุ่งนี้เช้า เจอกันที่บ้านไอ้ยนต์นะ เตรียมของให้พร้อม เราจะออกเดินทางกันตอนสายๆ หน่อย”
ภพรีบสรุป ในฐานะเจ้าของความคิด
“ไอ้ยนต์ อย่าลืมไปชวนได้เขียวด้วยนะ เพราะมันเป็นมือขุดกระแต ถ้าไม่มีมัน กูว่าเราอาจจะไม่ได้กินหลามอย่างที่ตั้งใจเอานะ”
ภพกล่าวสำทับกับยนต์อีกครั้ง เพราะกลัวเพื่อนจะลืม
“เออ กูไม่ลืมหรอกน่า เด่วถึงบ้านแล้วกูไปหามันเลย ว่าแต่มันจะกลับมากี่โมงก็ไม่รู้” ยนต์กล่าวรับคำ แต่ก็ไม่วายแขวะเพื่อนอีกหน
“แต่วันนี้เวรกูทำความสะอาด พวกมึงช่วยกูด้วยเลย ไม่งั้นกูกลับบ้านค่ำแน่”
กอยิ้มๆ พูดขอร้องแกมบังคับให้เพื่อนช่วย
“เออได้ๆ พวกกูไม่ปล่อยมึงทำเวรคนเดียวหรอกน่ะ” เอพูดขึ้น
“ป่ะพวกเรา ช่วยจารย์กอทำเวรกันหน่อย แล้วเราค่อยเดินกลับบ้านพร้อมกัน”
หลังจากที่ต่างคน ต่างช่วยกัน แบ่งหน้าที่กันทำ เพื่อให้งานเสร็จเร็วขึ้น
เอ กับ ภพ ยกเก้าอี้ขึ้นวางบนโต๊ะ เพราะทั้งสองดูจะตัวโต และแข็งแรงกว่าเพื่อนคนอื่น
กอ กับ ยนต์ หยิบไม้กวาดที่เสียบอยู่หลังห้อง มากวาดพื้นอย่างขมีขมัน หลังจากนั้นก็หิ้วถังขยะหลังห้องออกไปทิ้งที่กองขยะหลังโรงอาหาร
แร่ ทำหน้าที่ลบกระดานดำ และกวาดขี้ช็อกในร่องกระดานดำไปทิ้ง
หลังจากนั้นก็เอาแปลงลบกระดานไปเคาะที่ริมหน้าต่าง ควันโขมง ยังกับอยู่ในงานเวียนเทียนรอบโบสถ์ในวันเข้าพรรษาเลยทีเดียว
ไม่นาน ทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย
นี่เป็นกิจวัตรประจำวันของเด็กนักเรียนบ้านนอก ที่ต้องรับผิดชอบ ดูแลห้องเรียนของพวกเราให้สะอาดอยู่เสมอ เพราะหากวันไหนไม่ได้ทำ เช้าวันต่อมาหัวหน้าห้องมาตรวจเจอ คงโดนจดชื่อส่งครูประจำชั้น หักคะแนนจิตพิสัยกันยกทีมแน่ๆ
 
เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะแยกย้ายกัน ภพก็ร้องตะโกนบอกขึ้นมา
“เฮ้ย อย่าลืมปิดหน้าต่างสิว่ะ เดี๋ยวก็ซวยกันหมดหรอก”
เมื่อพูดจบ ทุกคนต่างกุลีกุจอช่วยกันปิดหน้าต่างที่อยู่ใกล้กับตัวเอง จนห้องเกือบมืดสนิท
“ป่ะ เสร็จแล้ว แยกย้ายกันกลับบ้านได้”
พูดจบ ภพและเพื่อนๆ ก็สะพายกระเป๋าของแต่ละคนเตรียมกลับบ้านกัน
“งั้นกูขอตัวก่อนนะพวกมึง เดี๋ยววันจันทร์เจอกันนะเพื่อน”
แร่เอ่ยปากลาเพื่อนๆ เพราะว่าหมู่บ้านของเขาอยู่คนละทางกับเพื่อคนอื่นๆ จึงต้องเดินทางกลับคนเดียว
“เออๆ แล้วเจอกันจารย์แร่”
ทุกคนเอ่ยขึ้นมาพร้อมกัน ก่อนแยกย้ายกันกลับ
โรงเรียนมัธยมแห่งนี้ เป็นเพียงโรงเรียนมัธยมแห่งเดียวเท่านั้นที่เปิดสอนจนถึง ม.6 ครอบคลุมพื้นที่ 2 ตำบล ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่โอบล้อมไปด้วยป่าเขา สองข้างขนาบไปด้วยแนวสันเขา ที่ทอดตัวยาวจากทิศเหนือไปยังทิศใต้ เป็นส่วนหนึ่งของแนวเทือกเขาเพชรบูรณ์ซึ่งเป็นเทือกเขาที่ทอดยอดมาจากดินแดนประเทศลาว มุ่งสู่ภาคกลางของประเทศ กินพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง ตั้งแต่จังหวัดเลย จนถึงจังหวัดลพบุรี และสระบุรีเลยทีเดียว
ยอดเขาและสันเขาที่สำคัญ ได้แก่ ภูสอยดาว ภูเมี่ยง ภูขัด และภูหินร่องกล้า เขาปู่ เขาย่า เขาค้อ เขาผ้าขาว และเขารัง ทางด้านทิศตะวันออกมี ภูหลวง ในจังหวัดเลย และภูเขียว ในจังหวัดชัยภูมิ กินพื้นที่อยู่ในภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ข้อมูลจากเว็บไซต์ เขาค้อ.คอม)
เนินเขาทั้งสองด้าน อุดมไปด้วยไม้ป่านานาพันธุ์ บริเวณชายเขาทั้งสองด้านถูกชาวบ้านในพื้นที่ แผ้วถางจับจองเป็นที่ทำกินมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษมานานมากแล้ว พื้นที่นี้ถูกประกาศให้เป็นพื้นที่ สปก. ซึ่งทางการอนุญาตให้ใช้เป็นที่ทำกินเท่านั้น รู้จักกันในนาม “ร่องเขาแห่งนครซุ่ม”
ร่องเขาแห่งนครซุ่มนี้มีลักษณะเหมือนแอ่งเขารูปก้นกระทะ บริเวณชายเขาทั้งสองด้านมีความลาดชัน ส่วนบริเวณตรงกลางนั้น มีความราบเรียบสลับกับเนินเขาที่ผุดขึ้นเป็นเนินน้อยใหญ่สลับกันไป เมื่อมองจากมุมสูงจากยอดเขา จะเหมือนกำลังมองทะเลบนพื้นดิน เนินป่าเหล่านั้นเปรียบเหมือนระลอกคลื่นที่กำลังกระเพื่อมสูงต่ำ มองดูแล้วช่างมีสเน่ห์น่าหลงไหลยิ่งนัก
บริเวณที่ราบ ถูกชาวบ้านตัดแบ่งใช้เป็นที่นา ซึ่งยังคงมีความสูงต่ำสลับกันไป คล้ายๆ นาขั้นบันได เพราะง่ายต่อการกักเก็บน้ำเอาไว้ทำนา น้ำในที่ดอนจะไหลมารวมกันตกค้างในบิ้งนา ที่ถูกแบ่งเป็นส่วนๆ ด้วยคันนาน้อยใหญ่ ส่วนที่ไหลล้นคันนาก็จะลงสู่แม่น้ำแควน้อย และไหลลงสู่พื้นที่ต่ำด้านล่างต่อไป
 
จึงไม่แปลกเลยที่ชาวบ้านในสองตำบลนี้จะประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำไร่ ทำนา ทำสวนเป็นหลัก มีวิถีชีวิตที่พึ่งพาธรรมชาติ พึ่งพาป่าเขามาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายายแล้ว ภูมิปัญญาหลายอย่าง ถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น จนมาถึงรุ่นของภพและผองเพื่อน ที่เป็นเด็กยุค 80 และเริ่มเป็นวัยรุ่นในยุค 90 นี้เอง ดังนั้น วิถีความเป็นอยู่ และการดำเนินชีวิตของพวกเขาจึงได้รับการถ่ายทอดมาจากรุ่นพ่อแม่เช่นกัน

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา