23 มี.ค. 2022 เวลา 11:16 • ไลฟ์สไตล์
“สิ่งที่เรียกว่าธรรม คือ สิ่งที่เป็นไปเพื่อ … ”
“ … สังเกตใจของเราสิ ว่าใจเราน่ะมันหนักไหม มันรุ่มร้อนไหมนะ
ถ้าทำสิ่งใดแล้ว ใจมันคลาย มันวาง มันว่าง มันสบาย ก็เรียกว่าเป็นเรื่องของการวางลงนั่นเองนะ ถ้าเราแบกไว้มันก็จะรู้สึกหนัก รู้สึกรุ่มร้อน ก็พิจารณาตรงนี้
ที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า สิ่งที่เรียกว่าธรรม ก็คือ
เป็นไปเพื่อความเบื่อหน่าย
เพื่อความคลายจากความกำหนัด
เพื่อความสงบระงับ
เพื่อการรู้พร้อม
เพื่อพระนิพพาน
สิ่งนั้นเรียกว่า ธรรม
โดยเฉพาะสิ่งที่ผู้คนแบกไว้มาก ก็คือ เรื่องราวที่ผ่านมาแล้วนั่นเอง
ในแต่ละวันเรื่องราวที่ผ่านมาในชีวิตของเราน่ะ แล้วมันไปเก็บไว้ในใจของเรา เนี่ยของหนักนะ
สังเกตเวลาเราปฏิบัติ เราจะพบว่า มันจะมีเรื่องราวที่ผุดขึ้นมาเยอะมาก นั่นแหละคือที่เราแบกไว้ในใจนั่นเอง ที่แบกกันมาก ก็คือ เรื่องราวที่ผ่านมาแล้วในชีวิต
ก็ต้องค่อย ๆ ฝึกวางลง ของหนักทั้งหลายทั้งปวง เพราะสิ่งเหล่านี้มันจะเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ให้ไฟเวลามันลุกไหม้แล้วมันดับไม่ลง เพราะเชื้อมันเยอะนั่นเอง
มันก็ต้องค่อย ๆ วางลง ของหนักของร้อนทั้งหลายทั้งปวง
สิ่งนี้เรารู้ได้ด้วยใจ เราสัมผัสอะไรแล้วมันร้อนรุ่ม มันรู้สึกหนักนะ รู้สึกไม่สบาย รู้สึกแค่ความคิดเนี่ยก็เป็นของหนักถูกมั้ย
แต่ถ้าเราวางเชื้อลงเนี่ย มันเบาบางลงไป มันก็โล่งเบาสบายนั่นเอง
เพราะฉะนั้นก็พิจารณาสิ่งนี้นะ สิ่งที่เรียกว่าธรรม
ก็จะเป็นไปเพื่อความเบื่อหน่าย
เพื่อคลายกำหนัด
เพื่อความสงบระงับ
เพื่อการตรัสรู้
เพื่อพระนิพพาน
เราใช้สัมผัสโทรศัพท์ เพราะยุคนี้ธรรมะสามารถส่งตรงถึงบ้านได้
ก็พิจารณาดูว่า เออ …​ เราสัมผัสสิ่งเหล่านี้แล้วรู้สึกใจเรามันวางลงไหม มันคลายลงไหม มันมีความสบาย มีความสงบ ถ้าใช่ ก็เป็นวิถีของธรรมะ
แต่ถ้าเราไปเสพสิ่งต่าง ๆ แล้วรู้สึกมันหนัก มันรุ่มร้อน
เราก็ต้องวางสิ่งเหล่านั้นลงนั่นเองนะ … “
.
ธรรมบรรยาย
โดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร
Photo by : Unsplash

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา