24 มี.ค. 2022 เวลา 01:38 • หุ้น & เศรษฐกิจ
✅Morning Update 24.03.2022
🇺🇸🇪🇺ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนี Dow Jones และ S&P 500 ค่อยๆ ปรับตัวลดลงตั้งแต่เปิดตลาด ขณะที่ Nasdaq 100 เปิดร่วงก่อนผันผวนระหว่างวันและปิดลบสูงสุดเมื่อเทียบกันใน 3 ดัชนีหลัก
เงินเฟ้ออังกฤษเพิ่มขึ้นเกินกว่า 6% / ตลาดหุ้นยุโรปมีแรงเทขายทำกำไรหลังฟื้นตัวต่อเนื่องกว่า 2 สัปดาห์ / ประธานาธิบดียูเครนโชว์ความสามารถนักแสดงเก่าอัดวีดีโอส่งถึงเหล่าประเทศมหาอำนาจเพื่อขอความช่วยเหลือ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ คืนวันพุธที่ 23.03.2022 ดัชนี Dow Jones -448.96 จุด -1.29% S&P 500 -55.37 จุด -1.23% และ Nasdaq 100 -206.79 จุด -1.41% โดยมีรายละเอียดต่าง ๆ ดังนี้
1. สหราชอาณาจักรได้ประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคที่เป็นภาพสะท้อนของเงินเฟ้อหรือ UK CPI ประจำเดือนกุมภาพันธ์ ขยายตัวสูงที่ 6.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) สูงกว่าที่คาดไว้ที่ 5.9%
ชี้ให้เห็นว่าปัญหาเงินเฟ้อที่กระทบไปทั่วยังคงดำเนินต่อเนื่อง สอดคล้องกับความเห็นของผู้เชี่ยวชาญจากทางธนาคาร Commerzbank ในวันก่อนหน้า
2. ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลงครั้งแรก หลังฟื้นตัวติดต่อกันในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา (ปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเวลา 8 วันทำการ)
โดยนอกเหนือจากประเด็นความกังวลเรื่องเงินเฟ้อในอังกฤษและยุโรปที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คือประเด็นการประชุมฉุกเฉินของสุดยอดผู้นำในกลุ่มนาโต้ ถึงการหารือแนวทางการคว่ำบาตรรัสเซียที่เพิ่มขึ้น ว่าจะรุนแรงหรือกระทบตลาดอย่างไร
ด้านฝั่งยุโรปปรับตัวลดลงตั้งแต่เปิดตลาดและผันผวนเล็กน้อยในช่วงบ่าย โดย Stoxx 600 ปิด -1.01%
3. ทางด้านสหรัฐฯ มีรายงานตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจ ได้แก่ ตัวเลขยอดขายบ้านใหม่หรือ New Home Sales ประจำเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงที่ 772,000 หน่วย ต่ำกว่าคาดที่ 810,000 หน่วย และน้อยกว่าเดือนมกราคมเล็กน้อยที่ 788,000 หน่วย โดยเป็นการชะลอตัวต่อเนื่องติดกันแล้วกว่า 3 เดือน
4. ประธานาธิบดียูเครน นาย โวโลดีมีร์ เซเลนสกี (Volodymyr Zelenskiy) ได้บันทึกวีดีโอส่งถึงเหล่าประเทศพันธมิตรเพื่อขอความช่วยเหลือ โดยมีเนื้อหาที่เชื่อมโยงถึงประวัติศาสตร์ด้านสงครามที่สำคัญของแต่ละประเทศ เช่น
ญี่ปุ่น: หากรัสเซียยิงอาวุธนิวเคลียร์ใส่ยูเครน ญี่ปุ่นคงรับรู้ได้ถึงความน่ากลัวของภัยพิบัตินิวเคลียร์ที่เกิดขึ้นที่เมืองฟุกุชิมะ ในปี 2011
ฝรั่งเศส: ยูเครนปรารถนาเพียง "เสรีภาพ ความเสมอภาค และภราดรภาพ" เช่นเดียวกับสุภาษิตประจำชาติฝรั่งเศส
เยอรมันนี: หากเยอรมันนีไม่ยุติผลประโยชน์ทางธุรกิจเหนือชีวิตชาวยูเครน วันหนึ่งชาวเยอรมันจะมีตราบาปในใจ ดังเช่น สมัยอดีตที่เยอรมันเป็นผู้เริ่มสงครามโลกครั้งที่ 2
อิสราเอล: ขณะนี้ชาวยูเครนก็เพิ่งถูกรัสเซียถล่มทิ้งระเบิด ชาวอิสราเอลคงจำได้ถึงเหตุการณ์ที่กองทหารนาซีเยอรมันสังหารชาวยิวเกือบ 34,000 คน ว่าโหดร้ายเพียงใด
สหรัฐอเมริกา: เพิร์ลฮาร์เบอร์และการโจมตีของผู้ก่อการร้ายในเหตุการณ์ 9/11
สหราชอาณาจักร: ปี 1940 อังกฤษถูกทิ้งให้ต่อสู้เพียงลำพังเพื่อแย่งชิงน่านฟ้าอังกฤษกลับคืนมา
การส่งข้อความเหล่านี้เพื่อต้องการให้ฝ่ายชาติมหาอำนาจตะวันตกส่งความช่วยเหลือทางการทหารให้แก่ยูเครนมากกว่านี้
5. หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นโดดเด่น +1.74% สวนทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลุ่มผู้ให้บริการสาธารณูปโภคทรงตัวที่ +0.17% และกลุ่มวัสดุอุตสาหกรรมปรับตัวลดลงเล็กน้อยที่ -0.39%
ราคาน้ำมันดิบดีดกลับจากปัจจัยที่ คลังน้ำมันของคาซัคสถาน ซึ่งจัดส่งผ่านท่าเรือ Novorossiysk ของรัสเซีย ถูกระงับหลังจากเกิดปัญหาทางสภาพอากาศ สร้างความกลัวว่าจะขาดแคลนอุปทานระยะสั้น
Exxon Mobil +1.58% Chevron +1.08% Conoco Phillips +2.55% Occidental +0.34%
6. หุ้นที่ underperform ตลาด 3 อันดับสูงสุดได้แก่ หุ้นกลุ่มสถาบันการเงิน -1.84% กลุ่มเฮลท์แคร์ -1.77% และกลุ่มเทคโนโลยี -1.50%
แม้ว่าช่วงก่อนหน้าตลาดคาดการขึ้นดอกเบี้ยจะให้ประโยชน์แก่เหล่านายธนาคาร
แต่ค่ำวานที่ผ่านมาตลาดเริ่มแสดงความกังวลถึงประเด็น Inverted Yield Curve หรือ สภาวะที่อัตราผลตอบแทนระยะสั้นสูงกว่าระยะยาว ซึ่งเป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจอาจจะเป็นขาลงหรือเศรษฐกิจถดถอย
ซึ่งหากเศรษฐกิจไม่ดีย่อมส่งผลเสียต่อกลุ่มธนาคาร ประเด็นนี้ได้ส่งผลกดดันราคาหุ้นกลุ่มธนาคารและสถาบันการเงิน
Bank of America -2.47% Well Fargo -4.25% Citi Group -2.00% Signature Bank -6.60% SVB -3.17% First Republic Bank -3.46%
Berkshire Hathaway -0.77% JP Morgan -1.99% Morgan Stanley -1.95% Goldman Sachs -2.16% Black Rock -1.39% Charles Schwab -2.66%
Johnson & Johnson -0.38% Pfizer -1.60% Moderna -4.28%
United Health -0.41% Abbot Labs -4.08% Thermo Fisher Scientific ¬-2.73%
7. หุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ปรับตัวลดลง มีเพียง Apple ปิดบวก
หุ้น Adobe ปรับตัวลดลงรุนแรง โดยตลาดคาดผลดำเนินการที่โดดเด่นของ Adobe ที่ผ่านมาอาจจะเป็นจุดสูงสุดแล้วและการเติบโตหลังจากนี้อาจทำได้ยาก
Apple +0.82% Alphabet -1.14% Microsoft -1.50% Amazon -0.90% Meta -1.47% Netflix -2.20% Adobe -9.34% Salesforce -3.25% Visa -1.73% Mastercard -2.10%
หุ้น Innovation ปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดย Tesla สามารถปิดบวกสวนทิศทางตลาด
Tesla +0.52% Lucid Group -2.81% Roku -0.16% Teladoc Health -0.94% Block (Square) -4.51% Zoom -2.50% Spotify +0.75% Twilio -1.19% Coinbase -1.60% Robinhood -2.53% Unity Software +0.85% Shopify -3.22%
หุ้น Semiconductor ปรับตัวลดลง
Nvidia -3.36% AMD -0.75% Intel -0.25% Micron -4.39% Qualcomm -3.01% Broadcom -1.96%
8. ETF ด้าน Technology & Innovation ปรับตัวลดลง มีเพียง ETF เทคโนโลยีจีนที่สามารถปิดบวก
ARK Innovation (ARKK) -1.94% ARK Fintech (ARKF) -2.02% PowerShares WilderHill Clean Energy (PBW) -1.28% iShares PHLX Semiconductor (SOXX) -2.52% SPDR S&P Kensho Smart Mobility (HAIL) -1.21% VanEck Vectors Video Gaming and eSports (ESPO) -0.96% Global X Cybersecurity (BUG) -0.26% และ KraneShares CSI China Internet (KWEB) +0.35%
9. หุ้นจีนและเอเชียที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวผสมผสาน
Alibaba +1.96% Baidu +0.20% Coupang +0.71% Didi Global -4.75% iQIYI +11.96% JD -0.68% Luckin Coffee -0.82% NetEase +0.80% Pinduoduo +3.93% SEA +1.86% TAL Education +5.52% TSMC -1.58% Nio +0.46% Xpeng +0.24%
10. S&P500 VIX Index ผันผวนระหว่างวันก่อนปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยปิดที่ 23.57 จุด (+2.75%)
ด้าน Nasdaq 100 VIX ค่อนข้างทรงตัวโดยทำราคาแท่งเทียนรายวันเป็นรูปแบบโดจิ (บ่งบอกถึงความลังเลในตลาด) โดยปิดที่ 28.84 จุด (+4.08%)
ค่าเงินดอลลาร์ผันผวนเล็กน้อยก่อนแข็งค่าขึ้นที่ 98.61 จุด (+0.12%)
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรง โดยล่าสุดอยู่ที่ 1,947 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ค่าเงินบาทอ่อนค่า โดยราคาล่าสุดอยู่ที่ 33.62 บาทต่อดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบ WTI กลับมายืนเหนือระดับ 110 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลอีกครั้ง โดยล่าสุดราคาอยู่ที่ 115 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ที่มาภาพ :
#LHBankAdvisory

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา