25 มี.ค. 2022 เวลา 01:43 • หุ้น & เศรษฐกิจ
✅Morning Update 25.03.2022
🇺🇸🇪🇺ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้ง 3 ดัชนีหลักฟื้นตัวได้ดีโดยเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่เปิดตลาด นำโดย Nasdaq 100 ที่ปิดบวกกว่า 2%
- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัวได้ดีโดยเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกกลุ่มอุตสาหกรรม
- ช่วงเดือนที่ผ่านมา ภาคการบริการถือเป็นพระเอกในการช่วยพยุงเศรษฐกิจและการจ้างงานของสหราชอาณาจักร
- ตลาดหุ้นรัสเซียกลับมาเปิดทำการอีกครั้งหลังปิดไปนานเกือบ 1 เดือน
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ คืนวันพฤหัสบดีที่ 24.03.2022 ดัชนี Dow Jones +349.44 จุด +1.02% S&P 500 +63.92 จุด +1.43% และ Nasdaq 100 +318.15 จุด +2.20% โดยมีรายละเอียดต่าง ๆ ดังนี้
1.สหราชอาณาจักรมีรายงานตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจ 3 ตัว
1.1 ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อมวลรวมที่สำรวจโดย Markit หรือ Composite Purchasing Managers' Index ประจำเดือนกุมภาพันธ์ (ฉบับปรับปรุง) ขยายตัวที่ 59.7 จุด ใกล้เคียงกับประกาศรอบแรกที่ 59.9 จุด ดีกว่าคาดที่ 58.7 จุด
1.2 ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตที่สำรวจโดย Markit หรือ U.K. Manufacturing Purchasing Managers Index ประจำเดือนกุมภาพันธ์ (ฉบับปรับปรุง) ขยายตัวที่ 55.5 จุด น้อยกว่าคาดที่ 57.0 จุด และต่ำกว่าตัวเลขประกาศครั้งก่อนที่ 58.0 จุด
1.3 ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อบริการที่สำรวจโดย CIPS หรือ Services Purchasing Managers Index ประจำเดือนกุมภาพันธ์ (ฉบับปรับปรุง) ขยายตัวได้ดีที่ 61.0 จุด สูงกว่าคาดที่ 58.0 จุด ยังคงขยายตัวได้ดีต่อเนื่องจากตัวเลขประกาศรอบแรก ที่ 60.5 จุด
ขณะที่ความมั่นใจของผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตเริ่มชะลอตัวจากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อและราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น
ในทางตรงกันข้าม ความมั่นใจของผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อด้านภาคบริการยังคงขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง จากประเด็นการยกเลิกข้อจำกัดเกี่ยวกับ COVID-19 ในภาคบริการ เช่นร้านอาหาร และสถานบันเทิง
ซึ่งการจ้างงานในภาคบริการที่ขยายตัวได้ดีช่วยชดเชยตัวเลขการเลิกจ้างในฝั่งของภาคการผลิตได้ ส่งผลให้ภาพรวมของดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อมวลรวมยังคงขยายตัวได้ดีอยู่
2. ด้านประเทศเยอรมันประกาศตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตที่สำรวจโดย Markit หรือ German Manufacturing PMI ประจำเดือนมีนาคมครั้งที่ 1 ที่ 57.60 จุด ขยายตัวสูงกว่าคาดที่ 55.8 จุด แต่หดตัวจากครั้งก่อนหน้าที่ 58.40 จุด
ตลาดหุ้นฝั่งยุโรปผันผวนรุนแรงระหว่างวัน โดย Stoxx 600 ปิดลบเล็กน้อยที่ -0.21%
ด้านตลาดหุ้นรัสเซียกลับมาเปิดทำการ หลังปิดไปนานกว่าเกือบเดือน พร้อมด้วยกฎเกณฑ์ใหม่ เช่น การตั้งกฎ Ceiling, Capital Control (การควบคุมการไหลเข้า-ออก ของเงินทุน) และอื่น ๆ อีกมากมาย
โดยดัชนี MOEX ปิด +4.37% หรือ 108.3 จุด แม้ว่าระหว่างวันมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 285.5 จุด หรือ 11.56%
3. ทางด้านสหรัฐฯ มีรายงานตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจ 2 ตัว
(1) ตัวเลขผู้มาลงทะเบียนสวัสดิการว่างงานครั้งแรกประจำสัปดาห์หรือ Initial Jobless Claims ที่ 187,000 ราย ต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ 212,000 ราย และน้อยกว่าสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 215,000 ราย ตัวเลขระดับต่ำกว่า 200,000 ราย ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก แสดงให้เห็นถึงภาคการจ้างงานที่แข็งแกร่งในสหรัฐฯ
(2) ตัวเลขคำสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐานหรือ Core Durable Goods Orders ประจำเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หดตัวที่ -0.6% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า (MoM) จากที่คาดว่าจะขยายตัวที่ 0.6%
ปัจจัยกดดันหลักมาจากการหดตัวของสินค้าและอุปกรณ์เกี่ยวกับการขนส่งที่ชะลอตัวลงเกือบ 6% หลังจากการขยายตัวกว่า 3% ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา
รวมถึงคำสั่งซื้อสินค้าหมวดยานยนต์หดตัวต่อเนื่องจากเดือนตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
คำสั่งซื้อเครื่องบินพลเรือนร่วงกว่า 30% ในเดือนที่ผ่านมา โดยทาง Boeing รายงานว่าเดือนกุมภาพันธ์มียอดสั่งซื้อเครื่องบินเหลือเพียง 37 ลำ ในขณะที่เดือนมกราคมมียอดสั่งซื้อเครื่องบินที่ 77 ลำ
4. การประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G20 (กลุ่มประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 19 ประเทศ รวมกับสหภาพยุโรป) ในค่ำวานที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คุณโจ ไบเดน ได้มีการเสนอและหารือถึงการถอดถอนรัสเซียออกจากเป็นสมาชิกของกลุ่ม G20
นอกเหนือจากนี้ทาง โจ ไบเดน ยังได้แถลงการณ์เตือนรัสเซียถึงการใช้อาวุธทำลายล้างขั้นสูงรวมถึงอาวุธเคมีชีวภาพ
ด้าน NATO (องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ) ตกลงที่จะส่งกำลังพลเพิ่มไปยังกลุ่มประเทศพันธมิตรยุโรป เพื่อเตรียมพร้อมรับมือหากรัสเซียมีการใช้อาวุธเคมีหรือนิวเคลียร์
5. หุ้นกลุ่มที่ Outperform ตลาดสูงสุด 3 อันดับได้แก่ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี +2.71% กลุ่มวัสดุอุตสาหกรรม +1.96% และกลุ่มผู้ให้บริการสื่อสาร +1.69%
โดยภายในกลุ่มเทคโนโลยี อุตสาหกรรม Semiconductor ปรับตัวขึ้นแรงกว่า +6.17% และกลุ่มผู้ผลิตชิป SOXX (ETF ตัวแทนกลุ่ม Semiconductor) พุ่งกว่า 5%
นำโดยหุ้น Intel และ NVDIA ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นโดดเด่น ภายหลัง CEO (ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร) คุณ Jensen Huang ได้เปรยถึงว่าทาง NVDIA มีความสนใจที่จะร่วมมือกับ Intel ในการจัดหาชิปให้ NVDIA
ด้านนักวิเคราะห์ Wall Street ยังคงสงสัยถึงประเด็นนี้ โดยชี้ให้เห็นว่า Nvidia ไม่น่าจะยอมเสี่ยงที่จะปล่อยให้คู่แข่งผลิตชิปของบริษัท
หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีชื่อดังอย่าง UBER ปรับตัวขึ้นแรงเช่นกัน +4.96% หลังจากประกาศจับมือร่วมกับบริษัทผู้ให้บริการแท็กซี่ ในนครนิวยอร์ค (New York Taxis)
6. หุ้นที่ underperform ตลาด 3 อันดับสูงสุดได้แก่ หุ้นกลุ่มพลังาน +0.13% และหุ้นเชิงรับอย่างกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค +0.62% และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ +0.64%
Exxon Mobil +0.30% Chevron +0.27% Conoco Phillips +0.16% Occidental -3.49%
P&G +0.17% Mondelez +0.12% Estee Lauder +1.19% Colgate +0.03% Phillip Morris +1.46% Coca-Cola +0.96% PepsiCo +0.61%
American Tower +0.64% Prologis -0.85% Crown Castle +1.09% Equinix +0.54% Public Storage +1.38% Simon Property +0.09%
7. หุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดี
Apple +2.27% Alphabet +2.38% Microsoft +1.54% Amazon +0.15% Meta +2.86% Netflix +0.33% Adobe +2.18% Salesforce +1.36% Visa +1.23% Mastercard +2.10%
หุ้น Innovation ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
Tesla +1.48% Lucid Group +1.35% Roku +1.59% Teladoc Health +0.25% Block (Square) -0.25% Zoom +0.80% Spotify +0.46% Twilio +0.46% Coinbase +3.87% Robinhood -0.92% Unity Software +1.57% Shopify +0.20%
หุ้น Semiconductor ปรับตัวเพิ่มขึ้นโดดเด่น
Nvidia +9.82% AMD +5.80% Intel +6.94% Micron +3.38% Qualcomm +3.66% Broadcom +4.51%
8. ETF ด้าน Technology & Innovation ฟื้นตัวได้ดี มีเพียง ETF เทคโนโลยีจีนที่ปิดลบ
ARK Innovation (ARKK) +1.11% ARK Fintech (ARKF) +1.12% PowerShares WilderHill Clean Energy (PBW) +2.15% iShares PHLX Semiconductor (SOXX) +5.05% SPDR S&P Kensho Smart Mobility (HAIL) +1.66% VanEck Vectors Video Gaming and eSports (ESPO) +0.44% Global X Cybersecurity (BUG) +1.16% และ KraneShares CSI China Internet (KWEB) -2.75%
9. หุ้นจีนและเอเชียที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง
Alibaba -1.78% Baidu -2.77% Coupang -4.64% Didi Global -0.26% iQIYI +1.92% JD -4.31% Luckin Coffee -1.42% NetEase -3.47% Pinduoduo -9.03% SEA -2.76% TAL Education +2.15% TSMC +2.44% Nio +0.50% Xpeng +0.62%
10. S&P500 VIX Index ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเข้าใกล้ระดับ 20 จุด โดยปิดที่ 21.67 จุด (-8.06%)
ด้าน Nasdaq 100 VIX ปรับตัวลดลงเช่นกัน โดยปิดที่ 27.89 จุด (-3.29%)
ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นที่ 98.77 จุด (+0.15%)
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงต่อเนื่อง สามารถกลับมายืนเหนือ 1,950 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้อีกครั้ง โดยล่าสุดอยู่ที่ 1,960 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ค่าเงินบาทแข็งค่าเล็กน้อย โดยราคาล่าสุดอยู่ที่ 33.52 บาทต่อดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบ WTI ผันผวนในกรอบเล็กลงระหว่าง 110-116 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลอีกครั้ง โดยล่าสุดราคาอยู่ที่ 112 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ที่มาภาพ :
#LHBankAdvisory

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา