29 มี.ค. 2022 เวลา 01:14 • หุ้น & เศรษฐกิจ
✅Morning Update 29.03.2022
🇺🇸🇪🇺ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผันผวนเล็กน้อยระหว่างวัน ก่อนมีแรงซื้อเข้ามาในช่วงบ่ายส่งผลให้ทั้ง 3 ดัชนีหลักปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดย Nasdaq 100 ปิดบวกสูงสุดกว่า 1.5%
Morgan Stanley ปรับลดประมาณการเติบโตหุ้นยุโรป / ตลาดการเงินเริ่มมีความกังวล Inverted Yield Curve
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ คืนวันจันทร์ที่ 28.03.2022 ดัชนี Dow Jones +94.65 จุด +0.27% S&P 500 +32.46 จุด +0.71% และ Nasdaq 100 +233.09 จุด +1.58% โดยมีรายละเอียดต่าง ๆ ดังนี้
1. หัวหน้านักยุทธศาสตร์หุ้นยุโรปของ Morgan Stanley ให้ความเห็นเกี่ยวกับหุ้นยุโรปไว้ว่า มูลค่าหุ้นยุโรปในขณะนี้อยู่ในระดับเหมาะสม ไม่ถูกเกินไปและไม่แพงเกินไป หุ้นยุโรปมีทิศทางที่จะเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไปท่ามกลางสถานการณ์ความกังวลเรื่อง Fed ขึ้นดอกเบี้ย
โดยทาง Morgan Stanley ปรับประมาณการสมติฐาน ว่ากำไรบริษัทจดทะเบียนในยุโรปส่วนมากคาดเติบโตที่ระดับ 3% จากเดิมช่วงต้นปีคาดไว้ที่ 10%
โดยหุ้นบริษัทยานยนต์หรูสัญชาติอังกฤษอย่าง Rolls-Royce ร่วงกว่า -10% หลังจากมีการปรับตัวขึ้นรุนแรงกว่า 20% จากการเก็งกำไรข่าวการควบรวมกิจการในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ตลาดหุ้นฝั่งยุโรปผันผวนรุนแรงระหว่างวันขึ้นไปแตะระดับเกือบ 460 จุด ก่อนปรับตัวลดลงปิดบวกเล็กน้อยที่ 454.17 จุด (+0.62 จุด) โดย Stoxx 600 ปิดที่ +0.14%
2. ราคาน้ำมันและพลังงานปรับตัวลดลงสืบเนื่องมาจากมาตรการเกี่ยวกับการล๊อคดาวน์ล่าสุดที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน โดยมีการสั่งระงับการเดินทางโดยรถยนต์ส่วนบุคคลที่ไม่มีความจำเป็นทุกรูปแบบ
บวกกับประเด็นความคาดหวังเรื่องยุติสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน อีกครั้ง
3. ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นทั่วโลกฟื้นตัวได้ดีต่อเนื่องจากการปรับตัวลดลงรุนแรงก่อนหน้าที่รัสเซียเข้าบุกยูเครน
อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นเริ่มกลับมามีความผันผวนอีกครั้ง จากประเด็นความกังวลที่ Fed (ธนาคารกลางสหรัฐฯ) มีท่าทีเร่งการใช้นโยบายทางการเงินที่ตึงตัวในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ขณะที่ตลาดตราสารหนี้ยังคงถูกกดดันและมีแรงเทขายต่อเนื่อง ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (Bond Yield) อายุ 2 ปี (ระยะสั้น) ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปีที่ 2.40%
ขณะที่ Bond Yield อายุ 10 ปี (ระยะยาว) ทรงตัวที่ระดับต่ำกว่า 2.50% เพียงเล็กน้อย
4. ตลาดการเงินเริ่มมีการพูดถึง Inverted Yield Curve หรือ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุสั้นให้ผลตอบแทนสูงกว่าพันธบัตรรัฐบาลอายุยาว
Inverted Yield Curve คือสัญญาณการเข้าสู่สภาวะถดถอย เนื่องจากนักลงทุนกังวลถึงแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะยาวมากกว่าปัจจุบัน
โดยในอดีตมีการเกิด Inverted Yield Curve ของผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปี ลบด้วยผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 5 ปี และให้ผลติดลบ ครั้งล่าสุดในช่วงปี 2006
5. หุ้นกลุ่มที่ Outperform ตลาดสูงสุด 3 อันดับได้แก่ หุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย +2.67% กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ +1.28% และกลุ่มเทคโนโลยี +1.23%
การปรับตัวขึ้นของ Tesla กว่า 8% จากข่าวการเตรียมจ่ายหุ้นปันผล ช่วยผลักดันราคาหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย
Starbucks +1.06% Nike +0.83% Lowe’s +0.40% McDonald +0.56% Home Depot +1.61% Target +0.42% TJX +1.16%
หุ้นอสังหาริมทรัพย์กลุ่มผู้พัฒนาหรือ Developers ปรับตัวผสมผสาน ขณะที่กลุ่ม REITs (Real Estate Investment Trusts) ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดี
Howard Hughes -0.03% Colliers International -0.24% JLL +0.91% CBRE -0.60%
American Tower +1.80% Prologis +1.92% Crown Castle +1.83% Equinix +2.93% Public Storage +1.96% Simon Property +1.21%
6. หุ้นที่ underperform ตลาด 3 อันดับสูงสุดได้แก่ หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลดลงแรง -2.56% ขณะที่กลุ่มวัสดุอุตสาหกรรม -0.46% และกลุ่มสถาบันการเงิน -0.30% ปรับตัวลดลงเพียงเล็กน้อย
Exxon Mobil -2.81% Chevron -1.75% Conoco Phillips -3.72% Occidental -3.53%
Bank of America -0.41% Well Fargo -1.43% Citi Group -1.45% Signature Bank -1.64% SVB -1.75%
Berkshire Hathaway +0.04% JP Morgan -0.74% Morgan Stanley -1.20% Goldman Sachs -0.65% Black Rock +1.19% Charles Schwab +0.48%
7. หุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดี
Apple +0.50% Alphabet -0.15% Microsoft +2.31% Amazon +2.56% Meta +0.80% Netflix +1.25% Adobe +4.26% Salesforce +2.01% Visa +1.07% Mastercard +0.42%
หุ้น Innovation ปรับตัวเพิ่มขึ้นโดดเด่น นำโดย Tesla และ Coinbase
โดยทาง Coinbase มีแผนเข้าซื้อกิจการบริษัท 2TM ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบริษัทหลักทรัพย์ Mercado Bitcoin ในแถบอเมริกาใต้
Tesla +8.03% Roku +3.73% Teladoc Health +4.66% Block (Square) +5.98% Zoom +3.09% Spotify +2.80% Twilio +3.82% Coinbase +7.87% Robinhood +3.39% Unity Software +4.39% Shopify +3.25%
หุ้น Semiconductor ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
Nvidia +1.90% AMD +0.48% Intel -0.62% Micron +2.25% Qualcomm +0.30% Broadcom +0.64%
8. ETF ด้าน Technology & Innovation ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดี
ARK Innovation (ARKK) +3.95% ARK Fintech (ARKF) +3.20% PowerShares WilderHill Clean Energy (PBW) -0.86% iShares PHLX Semiconductor (SOXX) +0.78% SPDR S&P Kensho Smart Mobility (HAIL) +0.25% VanEck Vectors Video Gaming and eSports (ESPO) +1.11% Global X Cybersecurity (BUG) +0.16% และ KraneShares CSI China Internet (KWEB) +2.64%
9. หุ้นจีนและเอเชียที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวผสมผสาน
Alibaba +1.86% Baidu 0.62% Coupang +0.28% Didi Global -7.65% iQIYI +9.51% JD -0.25% Luckin Coffee -3.85% NetEase +0.17% Pinduoduo -1.29% SEA +0.74% TAL Education +4.25% TSMC -0.37% Nio +6.53% Xpeng +0.30%
10. S&P500 VIX Index ปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 20 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน โดยปิดที่ 19.63 จุด (-5.67%)
ด้าน Nasdaq 100 VIX ปรับตัวลดลงตั้งแต่เปิดตลาด โดยปิดที่ 26.53 จุด (-2.96%)
ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า โดยขึ้นไปแตะระดับเกือบ 100 จุด ก่อนปรับตัวลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ 99.09 จุด
ราคาทองปรับตัวลดลงแรง โดยล่าสุดอยู่ที่ 1,923 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงต่อเนื่อง โดยราคาล่าสุดอยู่ที่ 33.78 บาทต่อดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงแรงลงไปแตะระดับเกือบ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยราคาล่าสุดอยู่ที่ 104 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ที่มาภาพ :
#LHBankAdvisory

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา