25 มี.ค. 2022 เวลา 08:51 • ไลฟ์สไตล์
“แก่นแท้ของจิต คือ ความไม่มี … ไม่มีอะไร ?”
“ … ค่อย ๆ พัฒนานะ
ค่อย ๆ พัฒนาไป สร้างความดีไป
พัฒนาศีล สมาธิ ปัญญาของเราไป
ใจเราก็จะค่อย ๆ ลอกเปลือก
เปลือกที่ชั่ว ๆ ทั้งหลาย ค่อย ๆ กระเทาะ ๆ ออกไป
ในที่สุดก็เข้ามาถึงใจดวงที่มันสะอาดขึ้น ๆ
การภาวนามันคล้าย ๆ เราลอกเปลือกต้นกล้วย
เคยเห็นต้นกล้วยไหม ?
ต้นกล้วยนะ เราลอกเปลือกมันไป
ลอกๆๆ เราจะไปหาแก่นของมัน
ลอกจนอันสุดท้ายนะ
แก่นของต้นกล้วย คือ ว่าง … ไม่มี ความไม่มี
ไม่มีอะไร ? … ไม่มีเปลือก
1
มันสะอาดหมดจดถึงขีดสุดเลยนะ
เพราะมันไม่มี
ถ้ามันมีอยู่ มันก็มีที่รองรับกิเลสอยู่
ค่อย ๆ ลอกเปลือกของจิตออกไปเรื่อย ๆ
จนเข้าถึงเนื้อแท้ของจิต
เนื้อแท้ของจิต … มันว่าง มันไม่มีอะไร
มันสะอาดหมดจด ไม่มีกิเลสอะไรมาเกาะได้
เหมือนนิทานเซน เรื่องของเซน
บางคนก็บอกว่าภาวนานะ เหมือนเราคอยเช็ดฝุ่นละอองที่กระจก ท่านชินเชา เป็นพระเซน บอกว่าการปฏิบัติธรรม ก็เหมือนเราคอยเช็ดกระจกไม่ให้ฝุ่นละอองจับ คือรักษาใจของเราไว้ให้ดี แปลว่า รักษาใจไว้ให้ดี
เว่ยหลางไปอีกชั้นนึง “ไม่มีกระจก ขี้ฝุ่นก็ไม่มีที่จะจับ”
1
ถ้าเราภาวนานะ จนเข้าไปถึงแก่นแท้ของจิต มันว่าง
มันไม่มีที่ตั้งให้กิเลสแทรกอยู่หรอก
ตัวเล็ก ตัวน้อยอะไร เกาะไม่ติด มันไม่มีที่จะเกาะ
สิ่งเหล่านี้มีได้ ต้องมีความเด็ดเดี่ยว
ว่าเราจะมุ่งไปสู่ความพ้นทุกข์
มุ่งชนะกิเลส มุ่งลอกเปลือกของตัวเอง
ไม่ใช่รักษาหน้า
ปลอกเปลือกตัวเองให้ออก
แล้วต่อสู้ไปด้วยการสร้างคุณงามความดีตามโอกาส
ศีลต้องรักษาประจำ เป็นนิจศีล
สมาธิต้องฝึกทุกวัน ให้จิตมีเครื่องอยู่
แล้วก็เรียนรู้ความจริง
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในความรับรู้ของเรานี้
มันเที่ยง หรือ ไม่เที่ยง
มันสร้างภาระให้จิต หรือว่า ไม่ได้สร้าง
มันเป็นของที่บังคับได้ หรือ บังคับไม่ได้
ดูลงไปเลย
อย่างกุศล หรือ อกุศล เกิดขึ้นกับจิต
จิตไปรับรู้ กุศล อกุศลนั้นก็ไม่เที่ยง
เกิดแล้วก็ดับได้
อกุศลเกิด เป็นภาระกับจิตไหม ?
… เป็น เป็นเยอะด้วย
กุศลเกิด เป็นภาระกับจิตไหม ?
… เป็น ไม่ใช่ไม่เป็น
เนี่ย ค่อยดูไป เห็น แล้วเราก็สั่งมันไม่ได้ บังคับมันไม่ได้
เรียก อนัตตา
ตรงที่มันบีบคั้น มันเป็นภาระ เรียกว่า ทุกขัง
ดูของจริงซ้ำ ๆๆๆ ไป
ในที่สุดจิตมันก็ฉลาด มันก็รู้
ทุกสิ่งที่เกิด ล้วนแต่ดับทั้งสิ้น
นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรตั้งอยู่
นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรดับไป
เห็นนะ ไม่ใช่ คิด
ค่อย ๆ ฝึกอย่างที่หลวงพ่อบอกนั่นแหละ
เดี๋ยววันหนึ่งก็เห็น
ขยันฝึก มีเป้าหมายที่ชัดเจน ไม่ท้อถอย
โอกาสที่จะเห็นในชีวิตนี้มันก็มี
ทำบ้าง ไม่ทำบ้าง ก็รอสะสมบารมีไป
อีกหลาย ๆ พระพุทธเจ้าก็อาจจะเห็นบ้าง
ถ้าใจแข็ง เอาตั้งแต่ตอนนี้นะ ก็ได้ตอนนี้แหละ
ฉะนั้นต้องเด็ดเดี่ยวนะ เด็ดเดี่ยว อดทน
ฝึกตัวเอง พัฒนาใจของตัวเองไป
จากความไม่รู้ ไปสู่ความรู้
จากความมืด ไปสู่ความสว่าง
จากความรกรุงรัง ไปสู่ความว่าง ความสะอาด
ค่อย ๆ ฝึกไป … “
.
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
20 มีนาคม 2565
รับฟังพระธรรมเทศนาฉบับเต็มได้ที่ :
Photo by : Unspalsh

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา