29 มี.ค. 2022 เวลา 10:50 • ประวัติศาสตร์
“กำเนิดกรีกโบราณ (Ancient Greek)” อารยธรรมผู้สร้างสรรค์ตำนานและวีรบุรุษ
2
ในโลกยุคโบราณ เงามืดที่ครอบงำมนุษย์มากที่สุดคือ "ความไม่รู้"
2
โดยเฉพาะความไม่รู้ในพลังของธรรมชาติที่ได้สำแดงออกมาในรูปแบบต่างๆ
1
ฟ้าแลบ ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า พายุ คลื่นยักษ์ แสงแดด แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด ฯลฯ
1
สิ่งเหล่านี้ได้สร้างความไม่รู้ให้แก่มนุษย์จนแปรสภาพกลายเป็นความกลัว...
2
การจะสกัดกั้นความกลัวได้นั้น มนุษย์ในสมัยโบราณเลือกที่จะอธิบายสิ่งเหล่านี้ออกมาในรูปแบบของความเชื่อ...
2
ซึ่งความเชื่อที่รังสรรค์จากความกลัวก็ได้สร้างเรื่องเล่า ตำนาน หรือแม้กระทั่งวีรบุรุษในสมัยโบราณขึ้นมา...
3
ทุกท่านครับ เรื่องราวต่อจากนี้เป็นเรื่องราวการเริ่มต้นของหนึ่งในอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกยุคโบราณ...
1
อารยธรรมที่เรารับรู้เรื่องราวอันตื่นเต้นและโลดโผน...
2
อารยธรรมซึ่งเป็นผู้สรรค์สร้างตำนานและวีรบุรุษแห่งความเชื่อ...
1
ปกรณัมเทพ...
1
เฮลเลนส์...
1
ไมซินี...
1
สงครามกรุงทรอย...
3
อคิลลิส...
1
เธซีอุส...
1
เพอร์ซีอุส...
1
เฮอร์คิวลิส...
1
ดอเรียน...
1
ไอโอเนียน...
1
และนี่ คือเรื่องราว "กำเนิดกรีกโบราณ"
1
โปรดนั่งลงเถิดครับ แล้วผมจะเล่าให้ฟัง...
2
หากกล่าวถึงกรีกในปัจจุบันนั้น ทุกท่านคงจะนึกถึงประเทศกรีซซึ่งตั้งอยู่ในทวีปยุโรป...
2
และหากพูดถึงคนกรีกนั้น กล่าวได้ว่า เป็นกลุ่มคนที่พูดภาษากรีกซึ่งถ่ายทอดมาตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ (คนกรีกจะเรียกตัวเองว่า "เฮลเลนส์ (Hellenes)")
1
แต่ทว่า เรื่องราวต้นกำเนิดของคนกรีกในทางประวัติศาสตร์นั้นไม่สามารถที่จะบอกเล่าได้เลย ทำให้เรารับรู้เรื่องราวของพวกเขาเหล่านี้จากการบอกเล่าผ่านตำนานและปกรณัมการสร้างโลกแทน...
1
ซึ่งตำนานนี้ได้เล่าว่า โลกได้ถือกำเนิดขึ้นมาจากความว่างเปล่าเฉยๆ (ใช่แล้วครับ เกิดขึ้นมาดื้อๆ ไม่ได้มีคำอธิบายต่อ)
1
โดยโลกที่ว่านั้นได้เกิดขึ้นมาพร้อมกับสวรรค์ และก็ได้เกิดสิ่งมีชีวิต 2 ชนิดขึ้นมาเป็นตัวแทนของสองสิ่งนี้ครับ นั่นคือ ไกอา (เป็นตัวแทนโลก) และยูเรนัส (เป็นตัวแทนสวรรค์)
4
ซึ่งเผอิญว่าไกอากับยูเรนัสอยู่กันไปกันมาก็เกิดปิ๊งกัน ตกลงปลงใจจนมีลูกออกมาเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดมหึมาที่เรียกว่า "ไททัน"
8
และในบรรดาไททันก็มีตัวหนึ่งที่ชื่อว่า "โครนอส" เกิดหัวขบถทำการยึดอำนาจและขับไล่ยูเรนัสออกไปจากสวรรค์
2
โดยในเวลาต่อมาโครนอสก็เกิดมีลูก แล้วก็เกิดกลัวว่าลูกจะมายึดอำนาจตัวเองเหมือนที่ตัวเองเคยทำไว้กับยูเรนัส โครนอสเลยตัดสินใจกลืนลูกตัวเองลงท้องซะเลย!
1
แต่ทว่า ดันมีลูกชายคนหนึ่งชื่อว่า "ซุส" ที่หลุดรอดจากการกลืนไปได้ ซึ่งลูกชายคนนี้ในภายหลังก็มาจัดการยึดอำนาจโครนอสแล้วขึ้นเป็นราชันย์แห่งทวยเทพบนสวรรค์ในที่สุด (เทพต่างๆ ได้ถูกช่วยมาจากท้องของโครนอส)
1
และเหล่าเทพก็ได้ปกครองสวรรค์ พร้อมๆ กับการมีสิ่งมีชีวิตอย่างมนุษย์กำเนิดบนพื้นโลกและมีการแพร่ขยายเผ่าพันธุ์อย่างรวดเร็ว
1
ซึ่งมนุษย์ที่มากขึ้นก็ได้มากับความชั่วที่มากขึ้น ซุสเลยสำแดงพลังสั่งให้ฝนตกจนน้ำท่วมโลกล้างบางมนุษย์ไปจนเกลี้ยง! เหลือไว้แค่ชายหญิงคู่เดียว คือ ดิวคาลิออนและพีร์รา
2
โดยทั้งสองคนก็ได้ทำการขยายเผ่าพันธุ์มนุษย์ขึ้นมาอีกครั้ง และหนึ่งในลูกของทั้งสองคนนั้นมีชื่อว่า "เฮลเลนส์"
1
ซึ่งเฮลเลนส์นี่แหละครับ เป็นบรรพบุรุษของกลุ่มคนที่เราเรียกว่าชาวกรีก...
1
ภาพจาก The Modern Mythologist (ไกอาและยูเรนัส)
ภาพจาก Villains Wiki (โครนอส)
ภาพจาก Queen Symphony Orchestra (ซุส)
โดยเฮลเลนส์ก็ได้มีลูกมีหลานขยายกลายเป็นชาวกรีก ซึ่งได้เดินทางอพยพเข้าสู่ดินแดนอันเป็นสถานที่สร้างเรื่องราว ตำนาน และอารยธรรมของพวกเขาในที่สุด (ซึ่งชาวกรีกที่ว่านี้ก็แบ่งแยกย่อยเป็นหลายเผ่าพันธุ์ไปอีก)
1
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับสภาพภูมิศาสตร์ของดินแดนที่ชาวกรีกอพยพกันเข้ามาก่อนดีกว่าครับ...
2
โดยดินแดนที่เป็นฉากหลังของเรื่องราวกรีกโบราณนั้นมี 3 ส่วนที่สำคัญ ได้แก่...
1
1) ส่วนที่ติดกับแผ่นดินใหญ่ของยุโรป ซึ่งเราจะเรียกส่วนนี้ว่า "คาบสมุทรบอลข่าน"
1
2) ส่วนที่เป็นติ่ง (ค่อนข้างใหญ่) ห้อยจากคาบสมุทรบอลข่าน โดยเราจะเรียกส่วนติ่งนี้ว่า "คาบสมุทรเพโลพอนเนซุส"
1
3) ส่วนที่เป็นเกาะกระจายกันอยู่ตามทะเลหลายร้อยเกาะ ซึ่งทะเลที่เป็นฉากหลังนี้เราจะเรียกทะเลอีเจียน โดยในบรรดาหลายร้อยเกาะจะมีเกาะที่ขนาดมหึมาที่สุดชื่อว่า "เกาะครีต"
2
และเรื่องราวทั้งหมดก็ได้เริ่มต้น ณ เกาะครีตแห่งนี้นั่นเอง...
1
ภาพจาก National Geographic
กลุ่มชาวกรีกที่เข้ามาอยู่บนเกาะครีต คือ พวกครีตัน ซึ่งเข้ามาตั้งรกรากเพราะบนเกาะครีตมีสภาพภูมิประเทศงดงามและอากาศดีเหมาะสมแก่การอยู่อาศัย โดยเหตุผลที่สามารถสันนิษฐานได้อีกอย่างก็คือ เกาะครีตตั้งอยู่ใกล้กับอารยธรรมมหาเศรษฐีในช่วงนั้นอย่างอียิปต์ ทำให้เรื่องโอกาสทางการค้าอาจเป็นตัวดึงดูดให้คนมาตั้งถิ่นฐานและสามารถสร้างความมั่งคั่งจนเจริญรุ่งเรืองได้
1
แต่ทว่า สภาพของเกาะครีตนั้นส่วนใหญ่จะมีแต่ภูเขาสลับซับซ้อน ทำให้ชาวครีตันแต่ละกลุ่มที่เข้ามานั้นต้องแยกกันอยู่ จนกลายเป็นว่าแบ่งพรรคแบ่งพวกเป็นตระกูลต่างๆ แล้วรบกันเองเพื่อแย่งที่ดินทำกิน
1
สงครามชาวเกาะได้ดำเนินไปหลายร้อยปี จนกระทั่งมีตระกูลที่แข็งแกร่งกว่าเพื่อนทำการตีรวบรวมตระกูลต่างๆ ให้เป็นหนึ่งเดียว แล้วมีการสถาปนาให้ผู้นำของตระกูลนั้นเป็นกษัตริย์ พร้อมสร้างวังอันใหญ่โตโอ่อ่าที่ชื่อว่า "วังคนอสซุส (Knossos)"
1
โดยเกาะครีตนั้น เรียกได้ว่า มั่งคั่งขึ้นมาจากการค้ากับอียิปต์โดยแท้จริงเลยล่ะครับ แต่ในท้ายที่สุดอาณาจักรบนเกาะครีตก็ได้ล่มสลายลงไป ซึ่งต้นสายปลายเหตุนั้นไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนพอว่าล่มไปได้อย่างไร
2
บ้างก็ว่าเกิดภัยธรรมชาติอย่างภัยแล้งและแผ่นดินไหว...
1
บ้างก็ว่าเกิดการรบกันจนพากันล่มไปเองในที่สุด...
1
บ้างก็ว่าถูกศัตรูจากภายนอกเข้ามาบุกตี...
2
บ้างก็ว่าอารยธรรมอียิปต์เริ่มเสื่อม ทำให้เศรษฐกิจบนเกาะครีตซบเซาลงจนต้องมีการอพยพย้ายไปที่อื่น...
1
ทุกท่านครับ ถึงแม้ว่าอาณาจักรบนเกาะครีตจะล่มสลายลงไป แต่ใช่ว่าอารยธรรมของเกาะจะสูญสลายลงไปด้วย เนื่องจากมีกลุ่มคนจากแผ่นดินใหญ่ที่เรียกว่า "เอเคียน (Achaean)" ได้มาเห็นความศิวิไลซ์ของเกาะครีตแล้วนำเอาอารยธรรมไปสร้างสรรค์บนแผ่นดินใหญ่ของตัวเองบ้าง...
1
ซึ่งบริเวณที่พวกเอเคียนลงหลักปักฐานอยู่ก็คือตรงติ่งที่เรียกว่าคาบสมุทรเพโลพอนเนซุสนั่นเอง
4
และ ณ จุดนี้ก็ได้ก่อกำเนิดความเป็นครีตัน + เอเคียนขึ้นมากลายเป็นอารยธรรมไมซินี (Mycenae)
3
ภาพจาก Elephango (วังคนอสซุสบนเกาะครีต)
ถึงแม้ว่าไมซินีนั้นจะมีต้นกำเนิดมาจากอารยธรรมของเกาะครีต แต่ทว่า ความเจริญนั้นดันด้อยกว่าเกาะครีตหลายขุม อาจเป็นเพราะเกาะครีตการค้าขายบูมกว่า ทำให้มีความอู้ฟู่มากกว่า
2
ตรงข้ามกับไมซินีที่ช่วงนั้นโจรสลัดชุกชุม ออกปล้นเป็นว่าเล่น ทำให้ศูนย์กลางอำนาจต้องอยู่ลึกเข้าไปในแผ่นดินใหญ่จนตัดโอกาสทางการค้าไปพอสมควร...
2
แต่ในท้ายที่สุด ก็ดันมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่เรียกว่า "ดอเรียน (Dorian)" ซึ่งเป็นพวกที่มีความก้าวหน้าสามารถคิดค้นนวัตกรรมอย่างการนำเหล็กมาทำเป็นอาวุธ เข้าถล่มพวกเอเคียนจนไมซินีได้ล่มสลายลง ทำให้บริเวณเพโลพอนเนซุสนั้นถูกปกครองด้วยเหล่าดอเรียนผู้พิชิต...
2
และหลังการแตกของไมซินี ทุกอย่างเกี่ยวกับกรีกโบราณก็มืดมนไปหมด หลักฐานทางประวัติศาสตร์มีน้อยมาก เหลือเพียงนิยายขนาดยาวสองเล่มซึ่งเขียนขึ้นภายหลังโดยชายที่ชื่อว่า "โฮเมอร์ (Homer)" บอกเล่าตำนานอันโลดโผนของยุคมืดนี้...
5
เล่มที่หนึ่งคือ "อีเลียด (lliad)" ซึ่งเป็นเรื่องราวของสงครามกรุงทรอย...
4
และเล่มที่สองคือ "โอดิสซีย์ (Odyssey)" ซึ่งเป็นเรื่องราวภาคต่อจากสงครามกรุงทรอย สู่การผจญภัยอันยาวนานของวีรบุรุษนามว่าโอดิสซิอุส...
3
ซึ่งพล็อตของเรื่องจะมีการนำเอาเทพเจ้า สัตว์ประหลาด มนุษย์ และวีรบุรุษ (ซึ่งเป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งเทพ) มายำรวมกัน...
2
คราวนี้เรามาเริ่มต้นที่สงครามกรุงทรอยกันดีกว่าครับ...
1
ภาพจาก Ancient World Magazine (โฮเมอร์)
ภาพจาก Serious Puzzles (อีเลียดและโอดิสซีย์)
โดยเรื่องราวได้เริ่มที่เหล่าทวยเทพได้มีการจัดงานเลี้ยง และดันมีเทพองค์หนึ่งชื่อว่า "เอเรส (Ares)" นำแอปเปิ้ลทองคำเขามาในงานพร้อมบอกว่า "คนที่จะได้แอปเปิ้ลนี้ไปคือคนที่งดงามเจิดจรัสที่สุดในงานนี้!"
1
ซึ่งทั้งเหล่าเทพและมนุษย์ก็ต่างตาลุกวาว พากันชิงประชันความสวยความงามของตนเองอย่างเต็มที่ ซึ่งเอเรสได้ให้ปารีสซึ่งเป็นเจ้าชายจากกรุงทรอยเป็นคนตัดสิน
1
โดยเหล่าเทพต่างก็คะยั้นคะยอปารีสให้ "เลือกฉันสิ!" พร้อมเสนออำนาจ พลังวิเศษ ความรู้ หญิงงาม ฯลฯ เป็นสิ่งแลกเปลี่ยน...
2
แต่ยังไม่ทันได้ตัดสิน ปารีสก็ดันไปเจอเฮเลนซึ่งเป็นมเหสีของกษัตริย์เมเนเลอัส โดยสองคนนี้ก็เกิดปิ๊งกันขึ้นมาตั้งแต่แรกเห็น จนสุดท้ายหนีตามกันกลับกรุงทรอย ลืมการตัดสินความงามไปดื้อๆ...
3
ซึ่งเมื่อเมเนเลอัสรู้เข้าก็โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงที่ "ปารีสหยามหน้ากันเกินไป" เลยไปขอให้พี่ชายชื่ออกาเมมนอนซึ่งเป็นกษัตริย์ของไมซินียกทัพไปแย่งเฮเลนจากกรุงทรอยกลับคืนมา...
2
ว่าแล้วสองพี่น้องก็ยกทัพเข้ากระทืบกรุงทรอย แต่ทว่า กรุงทรอยเป็นเมืองป้อมปราการขนาดใหญ่ ทำให้สองพี่น้องตียังไงก็ตีไม่แตก ซึ่งล้อมเมืองอยู่ 10 ปี! ก็ยังคงตีเมืองไม่แตก...
3
สุดท้าย มีคนหัวใสชื่อว่า "โอดิสซิอุส" วางอุบายโดยสร้างม้าไม้ขนาดยักษ์ขึ้นมาแล้วเอาทหารเข้าไปซ่อนในม้าไม้ ส่วนกองทัพใหญ่ก็พากันไปหลบซ่อนตามภูเขา
2
พอกษัตริย์และเหล่าทหารทรอยมาเห็นม้าไม้ ก็คิดว่าเป็นของขวัญจากทวยเทพส่งมาให้เลยลากเข้าเมืองไปฉลอง...
6
แน่นอนครับว่าพอตกกลางคืน ทหารที่ซ่อนตัวอยู่ในม้าไม้ก็ออกมาแล้วเปิดประตูเมืองให้กองทัพใหญ่เข้าถล่มเมืองอย่างราบคาบ
1
กรุงทรอยที่ยืนหยัดจากการล้อมมา 10 ปี ก็แตกและล่มสลายลงในที่สุด...
1
ภาพจาก History Forum (จำลองกรุงทรอย)
ภาพจาก ภาพยนตร์ Troy (ม้าไม้กรุงทรอย)
และในนิยายเล่มที่สองอย่างโอดิสซีย์นั้น เป็นเรื่องราวภาคต่อจากสงครามกรุงทรอย ที่หลังจากกรุงทรอยแตกเหล่าทหารก็พากันแยกย้ายกลับบ้าน แต่ดันมีชายคนหนึ่งชื่อว่า "โอดิสซิอุส" (คนเดียวกับที่คิดกลม้าไม้นั่นแหละครับ) โดยชายคนนี้ดันกลับไม่ถึงบ้าน หลงทางกลางทะเลจนกลายเป็นการผจญภัยอันยาวนานถึง 10 ปี!
3
ซึ่งสาเหตุที่ทำให้โอดิสซิอุสไม่ถึงบ้านนั้น เพราะไปพูดวิจารณ์การทำงานของเทพ ทำให้เทพโกรธเลยสาปให้หลงทางกลับบ้านไม่ถูกนั่นเอง...
3
จะเห็นได้เลยครับว่า ถึงแม้เทพเจ้าของกรีกจะถูกสร้างมาอธิบายความไม่รู้และความกลัวของมนุษย์ที่มีต่อธรรมชาติ แต่ลักษณะของเทพนั้นกลับมีความคล้ายคลึงมนุษย์ที่มีทั้งรัก โลภ โกรธ หลง และชอบยุ่งวุ่นวายกับมนุษย์ค่อนข้างมาก จะมีที่เหนือกว่ามนุษย์คือแค่เรื่องพลังอำนาจเท่านั้น
4
ความยุ่งกับมนุษย์มากเกินไปในบางครั้ง ก็ทำให้เทพกับมนุษย์รักกันจนมีมรดกออกมาเป็นลูกครึ่งเทพครึ่งมนุษย์ ซึ่งพวกนี้จะมีพลังอำนาจเหนือกว่ามนุษย์ธรรมดา (แต่ไม่ถึงขนาดเท่ากับเทพ) โดยลูกครึ่งพวกนี้นี่แหละมักมีวีรกรรมจนถูกยกย่องให้เป็นวีรบุรุษในตำนาน...
1
ไม่ว่าจะเป็น "อคิลลิส" ซึ่งเป็นนักรบที่ไม่มีใครล้มได้และกลายเป็นวีรบุรุษในช่วงสงครามกรุงทรอย...
1
"เธซีอุส" ผู้สังหารและปลิดชีพสัตว์ประหลาดสุดโหดอย่างมิโนทอร์...
1
"เพอร์ซิอุส" ชายผู้สังหารเมดูซ่าและคราเคน..
1
"เฮราคลีสหรือเฮอร์คิวลิส" ชายผู้แข็งแกร่งที่สุดในโลก ฆ่าสัตว์ประหลาดมาทั่วสารทิศทั้งสิงโตเนเมียนและไฮดรา พร้อมทำภารกิจสุดหิน 12 ภารกิจ...
1
โดยเหล่าวีรบุรุษนี้ต่างอยู่ในนิยายของโฮเมอร์หรือไม่ก็ตำนานปรัมปราที่เล่าต่อกันมาในช่วงยุคมืดหลังไมซินีแตก ซึ่งก็มีการสันนิษฐานว่าบุคคลเหล่านี้บางคนอาจมีตัวตนและเป็นวีรบุรุษจริงในประวัติศาสตร์ แต่วีรกรรมแน่นอนว่าอาจไม่ได้มีความแฟนตาซีตามตำนาน
3
และถึงแม้ว่านิยายทั้งสองเล่มของโฮเมอร์จะเป็นตำนานและเรื่องเหนือธรรมชาติอยู่มาก แต่อีเลียดและโอดิสซีย์ก็ได้ทำให้ยุคมืดของกรีกโบราณไม่ว่างเปล่า และกลายเป็นสะพานเดียวที่เชื่อมกรีกโบราณเข้าสู่กรีกคลาสสิกที่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ชัดเจนมากขึ้น...
3
ภาพจาก History.com (อคิลลิส)
ภาพจาก Rent a Car Crete (เธซีอุสปราบมิโนทอร์)
ภาพจาก Fine Art America (เพอร์ซิอุสปราบเมดูซ่า)
ภาพจาก DeviantArt (เพอร์ซิอุสปราบคราเคน)
ภาพจาก Pinterest (เฮอร์คิวลิสปราบสิงโตเนเมียน)
ภาพจาก Nuit Branche (เฮอร์คิวลิสปราบไฮดรา)
ตำนาน ความเชื่อ และวีรบุรุษเหล่านี้สรรค์สร้างผ่านกาลเวลามานับพันปีกลั่นออกมาเป็นเรื่องราวของกรีกโบราณ...
2
หากทุกท่านยังจำได้ อารยธรรมบนคาบสมุทรเพโลพอนเนซุสอย่างไมซินีได้ถูกทำลายลงไปโดยชาวดอเรียน...
2
ไม่เพียงเท่านั้นยังมีกลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่งชื่อว่า "ไอโอเนียน (Ionian)" ได้อพยพเข้ามาตั้งรกรากทางด้านตะวันออกของคาบสมุทรเพโลพอนเนซุส ซึ่งเราจะเรียกบริเวณนี้ว่าอัตติกา
1
โดยชาวดอเรียนหลังจากทำลายไมซินีลงแล้วก็เข้ามาอาศัยผสมกลมกลืนกับเอเคียนจนมีการพัฒนาตนเองขึ้นมา...
1
ส่วนชาวไอโอเนียนที่เข้ามาใหม่ก็ได้สร้างสรรค์ความเป็นตัวเองขึ้นมาเช่นเดียวกัน...
1
และด้วยสภาพภูมิประเทศที่เป็นเทือกเขาสลับกัน ทำให้เมืองแต่ละเมืองต่างก็ถูกแยกออกจากกัน ทำให้อำนาจเป็นอิสระกัน...
1
ในเวลาต่อมาแต่ละเมืองก็มีศูนย์อำนาจและปกครองตนเองกลายเป็นสภาพที่เราเรียกกันว่า "โปลิส (Polis)" หรือ "นครรัฐ (City State)"
2
นครรัฐเหล่านี้ต่างได้นำพากรีกเข้าสู่ยุคคลาสสิกซึ่งมีความเป็นกรีกที่แท้จริง...
1
แต่ทว่า ความเป็นอิสระของแต่ละนครรัฐได้ทำให้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงขึ้นตลอดเวลา...
2
"สปาร์ตา (Sparta)" มหาอำนาจที่ก่อกำเนิดจากนักรบดอเรียน...
1
"เอเธนส์ (Athens)" มหาอำนาจที่ก่อกำเนิดจากผู้ทรงปัญญาไอโอเนียน...
1
และ 2 มหาอำนาจนี้จะก้าวออกมาฟาดฟันชิงชัยความเป็นกรีกเพียงหนึ่งเดียวในอนาคต...
2
ภาพจาก Total War
References
Buxton, Richard. The Complete World of Greek Mythology. London, Thames & Hudson, 2004.
Cartledge, Paul. Ancient Greece: A History in Eleven Cities. Oxford, OUP Oxford, 2009.
Strauss S. Barry. The Trojan War: A New History. New York, Simon & Schuster, 2006.
โฆษณา