อยากมีชีวิตที่ดี ศึกษาคัมภีร์พระเวทตำราโบราณมาทำชีวิตให้ดีขึ้น 🙏
บทสวดคยาตรี Gayatri Mantra คืออะไร?
👉 อย่าลืมกด Like ก่อนนะคะจะได้เป็นกำลังใจให้ผู้เขียน
คยาตรี Gayatri เป็นคำอธิษฐานสากลที่อยู่ในพระเวท ถูกกล่าวถึงเทพผู้อมตะและเหนือธรรมชาติซึ่งได้รับการตั้งชื่อว่า 'สาวิต' ซึ่งหมายถึง 'สิ่งซึ่งทั้งหมดนี้ถือกำเนิดขึ้น' Gayatri อาจถือได้ว่ามีสามส่วน
(i) ความรัก
(ii) การทำสมาธิ
(iii) การสวดมนต์
Gayatri ถือเป็นแก่นแท้ของพระเวท พระเวทหมายถึงความรู้และคำอธิษฐานนี้ส่งเสริมและฝึกฝนคณาจารย์ที่ให้ความรู้ ตามความเป็นจริง ที่ประดิษฐานอยู่ในคัมภีร์พระเวททั้งสี่มีนัยในมนต์คยาตรีนี้
/// Gayatri Mantra เป็นบทสวดศักดิ์สิทธิ์ที่แสดงให้เห็นถึงความสามัคคีที่รองรับความหลากหลายในการสร้างสรรค์ ผ่านการรับรู้ของความสามัคคีนี้ที่เราสามารถเข้าใจหลายหลาก ดินเหนียวเป็นสิ่งเดียวกัน แม้ว่าหม้อที่มีรูปร่างและขนาดต่างกันจะทำได้ ทองเป็นหนึ่งเดียว แม้ว่าเครื่องประดับทองจะมีมากมายหลากหลาย Atma เป็นหนึ่งเดียวแม้ว่ารูปแบบที่เป็นตัวเป็นตนซึ่งอาศัยอยู่อาจมีมากมาย วัวสีอะไร นมก็ขาวเสมอ
Gayatri เป็นมารดาของพระเวท (Gayatri Chandhasam matha)
Gayatri แต่มีสามชื่อ: Gayatri, Savitri และ Saraswathi ทั้งสามอยู่ในตัวเราทุกคน ลองมาดูว่ามีอะไร
Gayatri เป็นตัวแทนของความรู้สึก*; เป็นเจ้านายของความรู้สึก
สาวิตรีเป็นปรมาจารย์แห่งปราณ (พลังชีวิต) - สาวิตรี แปลว่า ความจริง
พระสรัสวดีเป็นประธานในการพูด (วาทะ)
ทั้งสามเป็นตัวแทนของความบริสุทธิ์ในความคิด คำพูด และการกระทำ (ตรีกรณา ชุทธี) แม้ว่าคยาตรีจะมีชื่ออยู่สามชื่อ
แต่ทั้งสามอยู่ในเราแต่ละคน ในฐานะประสาทสัมผัส (คยาตรี) พลังแห่งการพูด (สรัสวดี) และพลังชีวิต (สาวิตรี)
📌ความเป็นสากลของ Gayatri Mantra
สำหรับอำนาจทุกประเภท การพิสูจน์อาจถูกแสวงหาโดยการรับรู้โดยตรงหรือโดยกระบวนการอนุมาน
มนุษย์พยายามค้นหาด้วยข้อพิสูจน์โดยตรงว่าพวกเขาสามารถสัมผัสกับพลังเหนือธรรมชาตินี้ได้อย่างไร เราพบหลักฐานในดวงอาทิตย์ หากไม่มีดวงอาทิตย์ก็ไม่มีแสงสว่างเลย ไม่ทั้งหมด กิจกรรมทั้งหมดจะหยุดนิ่ง
ในโลกนี้ ไฮโดรเจนมีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืชและสิ่งมีชีวิต องค์ประกอบหลักของดวงอาทิตย์คือไฮโดรเจนและฮีเลียม หากปราศจากไฮโดรเจนและฮีเลียม โลกก็ไม่สามารถดำรงอยู่ได้ ดังนั้น คนโบราณจึงสรุปว่าดวงอาทิตย์เป็นเครื่องพิสูจน์ที่มองเห็นได้ (ของอำนาจเหนือธรรมชาติ) นอกจากนั้นยังพบความลับบางอย่างเกี่ยวกับดวงอาทิตย์อีกด้วย
📌ดังนั้นคนโบราณจึงบูชาดวงอาทิตย์ในฐานะเทพองค์สำคัญในมนต์คยาตรี “ทิโย โยนาห์ ประโชดายาต” - ขอดวงตะวันฉายทางปัญญาของเรา เฉกเช่นที่พระองค์ประทานสัมฤทธิผล นี่คือคำอธิษฐานที่ส่งถึงดวงอาทิตย์ในมนต์คยาตรี ด้วยวิธีนี้คนโบราณถือว่า Gayatri มนต์เป็นแม่ของพระเวท
ดวงอาทิตย์เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการกำหนดชีวิตประจำวันของมนุษย์และจัดหาข้อกำหนดพื้นฐานสำหรับการดำรงชีวิต ชีวิตจะเป็นไปไม่ได้หากไม่มีดวงอาทิตย์สำหรับมนุษย์ สัตว์ นกหรือพืช ดวงอาทิตย์ถือเป็นแหล่งกำเนิดของพลังงานทั้งหมดและต่อการเกิด การเติบโต และการทำลายล้างของสรรพสิ่งในการสร้าง ด้วยเหตุนี้เองที่ปราชญ์ Viswamitra ได้ถวายเกียรติแด่ เทพพระเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ (Savitr) ในมนต์ Gayatri
มนต์ Gayatri มีสามส่วน คือ
คำอธิษฐานเทพพระเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ ที่ส่องสว่างในสามโลก - บน กลาง และล่าง (Om Bhur Bhuva Swah; Tat Savitur Vareñyam);
มีสมาราญาหรือภาพแห่งพระมหากรุณาธิคุณ (ภรโกเทวสยะธีมาหิ) และปราทนา การสวดอ้อนวอนขอความเห็นอกเห็นใจเพื่อการหลุดพ้น โดยการปลุกปัญญาที่แผ่ไปทั่วจักรวาล มิใช่ชื่อหรือรูปแบบเฉพาะของปัญญานั้น
ดังนั้น ทุกคนสามารถใช้คยาตรี Gayatri Mantra รอดพ้นจากการ ไม่มีความคลั่งไคล้ ความเกลียดชัง ไม่มีการแข่งขันกัน หากยึดถือ Gayatri การกล่าวซ้ำๆ ในตัวเรา และส่งเสริมความรัก ความเมตตากรุณา
Gayatri, Savitri และ Saraswati แฝงอยู่ในทุกคน ภุร (Bhur),ภูวาห์( Bhuvah) และ สวาหฺ (Swah) ในมนต์ของ Gayatri หมายถึงร่างกาย (การทำให้เป็นวัตถุ) พลังชีวิต (การสั่นสะเทือน) และจิตวิญญาณ (การแผ่รังสี)
👉 ภุร แปลว่า ดิน อันเป็นแต่ส่วนผสมของวัสดุ นี่หมายถึงร่างกายมนุษย์ซึ่งเป็นส่วนผสมของวัสดุ
👉 ภูวาห์ หมายถึง พลังชีวิต ซึ่งทำให้ร่างกายสั่นสะเทือน
👉 สวาหฺ หมายถึงปัญญาญาณ Prajnāna-shakti ซึ่งค้ำจุนพลังชีวิต ปัญญาญาณนี้เรียกว่า การรับรู้แบบบูรณาการอย่างต่อเนื่อง นี่เรียกว่าเป็นรังสี ทั้งสาม กล่าวคือ การปรากฏ การสั่น และการแผ่รังสีมีอยู่ในมนุษย์
อย่างที่กล่าวมาข้างต้นก็คือคนเราประกอบด้วย🌟 สามคน —คนที่คุณคิดว่าคุณเป็นกาย (ร่างกาย) อีกคนคิดว่าคุณเป็นกายจิต (กายทางจิต) และสิ่งที่คุณเป็นกายวิญญาณ (Atma)
Gayatri อธิบายว่าทำไมมีห้าใบหน้า
Gayatri มีห้าใบหน้า
หน้าแรกคือ "โอม"
หน้าที่สองคือ "ภุร ภูวาห์ และ สวาหฺ"
หน้าที่สามคือ "ตาตสาวิตูร์ วาเรณยาณ".
หน้าที่สี่คือ "ภรโกเทวสยะธรรมหิ"
หน้าที่ห้าคือ "ทิโย โยนาห์ ประโชดายัต"
ดังนั้นบทสวดคือ
🙏🙏🙏
โอม
ภุร ภูวาห์ และ สวาหฺ
ตาตสาวิตูร์ วาเรณยาณ์
ภรโกเทวสยะธรรมหิ
ทิโย โยนาห์ ประโชดายัตํ
Gayatri เป็นตัวแทนของห้าใบหน้าเหล่านี้ (พลังชีวิต) Gayatri เป็นผู้พิทักษ์ห้าปราญในมนุษย์ “กายันตํ ตรายาเต อิติ คยาตรี” – เพราะช่วยปกป้องผู้ที่ท่อง
เมื่อคยาตรีกายาตรีทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์พลังชีวิต ( เธอเป็นที่รู้จักในนามสาวิตรี สาวิตรีเป็นที่รู้จักในเรื่องพระคัมภีร์ในฐานะภรรยาผู้อุทิศตนซึ่งทำให้สัตยาวันสามีของเธอฟื้นคืนชีพ สาวิตรีเป็นเทพประธานของปราณทั้งห้า เธอปกป้องผู้ที่ดำเนินชีวิตแห่งความจริง นี่คือความหมายภายใน)
เมื่อสติปัญญาและสัญชาตญาณของคนๆ หนึ่งได้รับการพัฒนาโดยการท่องบทสวดมนต์ เทพที่กระตุ้นคือ Gayatri เมื่อพลังชีวิตได้รับการปกป้อง เทพผู้พิทักษ์เรียกว่าสาวิตรี เมื่อคำพูดของใครคนหนึ่งได้รับการคุ้มครอง เทพจะเรียกว่าสรัสวดี เนื่องจากบทบาทปกป้องสาวิตรี สรัสวดี และคยาตรี ในความสัมพันธ์กับชีวิต คำพูด และสติปัญญา คยาตรีจึงถูกอธิบายว่าเป็น "สรวาเทวทา-สวารุปิญี" ซึ่งเป็นศูนย์รวมของเทพทั้งปวง
เราเองก็มีศรัทธาในบทสวดนี้มากจนขึ้นใจ ชอบเสียงเพราะเป็นบทสวดที่ไพเราะและง่าย
แนะนำให้เริ่มสวดในวันที่พระจันทร์เดือนมืด (New moon) สาเหตุที่แนะนำให้เริ่มต่อ new moon เพราะว่าเป็นการเริ่มต้น ปรกติแล้วพระจันทร์เดือนมืดเริ่มทุกๆ 28 วัน
แล้วสวดต่อไปทุกเช้า ถ้ายังออกเสียงไม่ได้ก็ให้แค่ฟังแล้วให้รู้สึกว่าเสียง ก้าวเข้าไปในตัวเรา
บอกได้ว่า ถ้าสวดด้วยศรัทธาตามเสียงที่เขามีมาแต่โบราณ ชีวิตจะช่วยเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นค่ะ ถ้าใครสนใจอยากสวดเพื่อความสงบร่มเย็นของชีวิตก็ลองศึกษาดูนะคะ
#รักและโชคดี
References:
Power of Gayatri (Dharma Vahini, chap VII)
Significance of the Gayatri (Discourse 10 Feb 2000)
Unique potency of the Gayatri mantra (Discourse 23 Aug 1995)
The Gayatri path to God (Discourse 17 Mar 1983)
The Gayatri (Discourse 26 Jun 1981)
The universal prayer (Discourse 20 Jun 1977)อย่าลื
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
