มาปลุกไฟนักเขียนให้กลับมากันเถอะ🔥🔥🔥
ขอบคุณรูปภาพจาก Pixabay.com
มีใครเป็นเหมือนแอดมินบ้างคะ ที่อยู่ๆ ก็ไม่รู้ว่าจะเขียน จะเล่าอะไรดี เหมือนหมดมุข เรื่องปลูกผักก็เล่าไปแล้ว เรื่องทำอาหารก็มีแต่เมนูเดิม ยังไม่มีจังหวะทำเมนูใหม่ๆ หรือเมนูแปลกๆ ที่น่าสนใจเท่าไหร่
เรื่องสุขภาพก็เล่าแล้ว หัวข้อที่แอดมินไม่เคยเล่า แต่มีคนอื่นเขียนไปแล้ว ก็ไม่อยากให้มันซ้ำๆ กัน
ทำให้ช่วงนี้บทความออกมายากมากแต่ละวัน พอจะมีเรื่องใหม่ที่เริ่มเขียนเพิ่มเติมลงไปในเพจก็คือ เรื่องความปลอดภัยใกล้ๆ ตัวเรา อันนี้ใช้ประสบการณ์การทำงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องความปลอดภัย มาเล่าให้ฟังแบบที่เข้าใจง่ายๆ นำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง
ลงไปแล้ว 2 EP เป็นพอดแคสก์ทั้ง 2 EP สามารถรับฟังกันได้นะคะ ⬇️⬇️⬇️
มาที่เรื่องไฟหมดไฟมอดกันต่อค่ะ หลังจากที่ไม่รู้ว่าจะเขียนเรื่องอะไรดี ก็ได้แต่เข้าไปอ่าน ไปแชร์ให้เพื่อนๆ ในใจก็คิดอยู่ว่าคนที่ลงบทความได้ทุกวัน บางวันมากกว่า 1 บทความนี่เก่งมากๆ เลยนะคะ
ช่วงแรกๆ แอดมินก็สามารถนะ เหมือนเรายังมีเรื่องให้เขียนเยอะอยู่ แต่พอไปสักพักเหมือนเรื่องมันหมด ซึ่งจริงๆ แล้วอาจจะยังไม่หมดก็ได้นะ ประมาณว่า “ไม่หมดเรื่อง แต่หมดไฟ” 555
แล้วเราจะแก้ไขยังไงดีหล่ะ นึกได้ว่าถ้าเขียนไม่ได้ก็อ่านก่อนแล้วกัน จึงเริ่มค้นหาหนังสือมาอ่าน จนมาเจอหนังสือเล่มนึง (อ่านผ่านระบบออนไลน์) น่าสนใจ
แอดมินคิดว่าการอ่านหนังสือแล้วมารีวิว คงไม่เหมาะกับแอดมินเท่าใดนัก เพราะจะบอกว่าหนังสือเล่มไหนดีไม่ดี อยู่ที่คนอ่านล้วนๆ นะคะ จะให้วิเคราะห์ก็ยากเกินไปด้วย กลัวทำของเขาเสีย
แต่แอดมินตั้งใจว่า อ่านหนังสือสัก 1 เล่ม แล้วคุยกับตัวเองว่า เราได้อะไรจากหนังสือเรื่องนี้บ้าง เอามาใช้อะไรในชีวิตเราได้บ้างมั้ย ออกแนวประมาณนี้
หนังสือเล่มที่แอดมินกำลังอ่าน ชื่อว่า
อยากจะเขียนแทบตาย (จริงๆ นะ)
เขียนโดย ไพลิน รุ่งรัตน์
เริ่มอ่านได้ไม่กี่ตอน ไฟนักเขียน ก็กลับมาลุกโชติช่วงอีกครั้งเลยค่ะ
แอดมินได้แนวคิด แนวทาง ในการเขียนมากมาย เลยค่ะ มีอะไรบ้างนะ
💡การเริ่มเขียน เริ่มที่เรื่องของตัวเองก่อน จะง่ายที่สุด ไม่ต้องเสียเวลาหาข้อมูลเพิ่มเติม อาจจะเริ่มที่ตัวเรา คนใกล้ชิดในครอบครัว เพื่อน สัตว์เลี้ยง (อันนี้แอดมินทำแล้ว แต่อาจจะยังเล่าไม่หมดทุกเรื่อง นึกๆ ๆ เขียนต่อ)
💡การโดนวิจารณ์งานเขียน เป็นเรื่องที่ดี เพราะถ้าไม่โดนใจเลย คงไม่วิจารณ์ (ใน BD ส่วนใหญ่จะเป็นเชิงบวก)
💡เวลาที่เรามีความรู้สึกอึดอัดในใจ การเขียนออกมาเป็นตัวหนังสือ ช่วยระบายได้ หลังจากนั้นเมื่อเราอ่านย้อนหลัง เรียบเรียงให้สละสลวย ก็อาจกลายเป็นบทความใหม่ๆ ได้เลย (ย้อนกลับไปอ่าน diary มีอะไรให้เอามาเขียนได้บ้างนะ)
💡การสร้างสรรค์งานเขียน ความจริงใจสำคัญมากๆ นักอ่านบางคนจะรู้ว่าเราเสแสร้งหรือป่าว ทำให้งานของเราไม่น่าสนใจได้เลยทีเดียว (มาใช้ใจเขียนกันเถอะ เขียนออกมาจากใจ งานเขียนจะมีเสน่ห์ขึ้นแน่ๆ)
💡การเขียนแต่ละครั้ง ก่อนเริ่มการเขียน ควรมีการร่างเค้าโครงเรื่องก่อน เพื่อเป็นแนวทางในการนำข้อมูลที่มีอยู่มาใส่ในเนื้อเรื่องอย่างเหมาะสม ไม่น้อยหรือมากเกินไป (น้อยไปจะดูเหมือนไม่ตั้งใจ มากไปก็น่าเบื่อ)
💡เมื่อเราเป็นนักเขียน เราต้องเขียนในแบบของเรา เล่าเรื่องในแบบของเรา แม้ว่าข้อมูลนั้นจะเป็นของคนอื่นก็ตาม (สไตล์ใคร สไตล์มัน) เลียนแบบกันไปก็ทำได้ไม่นาน เราอาจจะเคยเห็นใครที่เขียนเรื่องเดียวกัน แต่ของแต่ละคนมีความน่าอ่านต่างกัน
คุณไพลิน (ผู้เขียน) ไม่ได้เขียนหนังสือเล่มนี้มาในรูปแบบของ How to แต่อย่างใด
เป็นการเขียนเล่าเรื่อง ชีวิตนักเขียนของตนเองในช่วงต่างๆ พร้อมแง่คิดมากมาย
แอดมินอ่านเพลินมากๆ เลย นี่ยังอ่านไปจบนะคะ แอบมาเล่าให้ฟังก่อน เกรงว่าบทความจะยาวเกินไปค่ะ
ถ้าอ่านจนจบแล้ว อ่านแล้วได้อะไรจะมาเล่าให้ฟังอีกนะคะ
ใครเคยอ่านเล่มนี้ มาแชร์กันได้ค่ะ
ขอบคุณที่อ่านบทความนี้
สวนบ้านส้ม ❤🐈⬛
1 เม.ย. 2565
- 21
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
