10 เม.ย. 2022 เวลา 15:45 • ปรัชญา
๑๗. ผู้นำ-ผู้ตาม และ ธรรม​บรรยาย
ธรรม​บรรยาย​ (บทคัดย่อ​ชิ้นที่ ๔ -​ ๔๕)
ตามสภาพจริงนั้น ๆ คนเรา จะหาความพอใจได้ง่ายนิดเดียว ถ้าเขาเพียงแต่ลดความทะเยอทะยานลงเท่านั้น
สายตาที่เรามองเห็นใบไม้สีเขียว หูได้ยินนกร้องไพเราะ เห็นผีเสื้อกำลังบิน อะไรเหล่านี้มันเป็นสิ่งที่น่าพอใจ เป็นสิ่งที่ปรากฏจริง หรือเป็นสิ่งที่รู้สึกได้ แต่ถ้าในใจของเรายังยุ่งเหยิง ยังไม่รู้จักพอ ยังสับสน เราจะมองไม่เห็นความงาม หรือไม่เห็นความน่าที่จะชื่นชมต่อแสงแดดหรือความเขียวของใบไม้
ใจของเรามันมองข้ามไป เพื่อไปสร้างเรื่องที่สวยๆ งาม ๆ ในจินตนาการ ซึ่งเป็นความแห้งแล้งกันดาร
ชีวิตเปรียบเหมือนต้นไม้ คือว่าต้องรดมันด้วยน้ำของปัจจุบันสภาพ รากเหง้าของมันก็คือ สติที่หยั่งรู้อยู่ต่อความเป็นไปทีละขณะ มีบางสิ่งซึ่งปกป้องมันไว้ไม่ให้ล่มสลาย ไม่ให้ตาย ไม่ให้แตกทำลาย
รากฐานของชีวิตคือการเปลี่ยนแปลง สาระของชีวิตคือการหยั่งรู้ต่อการเปลี่ยนแปลง เนื้อหาของชีวิต คือความปล่อยวาง หรือความว่าง
ความชื่นชมต่อชีวิต คือความพออกพอใจ มักน้อย สันโดษ พอใจอยู่ในสภาพที่เห็น ความดีของชีวิตก็คือความชื่นชมกับวิถีชีวิตเช่นนั้น จนเป็นเหตุให้ไม่เบียดเบียนใคร แล้วยังเกื้อกูล เมตตา กรุณา
ในแง่ตรงกันข้าม ความชั่วก็คือ การที่มีอยู่แต่ความไม่พออกพอใจทั้งวันทั้งคืน ไม่อาจที่จะชื่นชมกับความดีทั้งของตนเองหรือผู้อื่น ไม่อาจที่จะเห็นสภาวะที่เป็นอยู่จริง เข้าไปครุ่นคำนึงถึงแต่ไอ้เรื่องราวที่ไม่มีอยู่จริง นอกจากคิดขึ้น ทรมานแล้วก็ก้าวร้าวรุนแรงต่อทุกๆ สิ่ง
บุคคลเช่นนั้นนับว่าเป็นคนเกิดมาเพียงเพื่อได้ทนทรมาน เป็นสัตว์โลกที่น่าสงสาร ทั้ง ๆ ที่เขามีโอกาสและสิทธิตามธรรมชาติที่จะชื่นชม และเข้าสู่สาระของการมีชีวิตได้
ธรรมบรรยาย ณ วัดสนามใน นนทบุรี ขณะนั้นท่านเขมานันทะยังครองสมณะเพศ
ถอดเทปและจัดพิมพ์ (โรเนียว-เย็บเล่ม) โดยกลุ่มศึกษาและปฏิบัติธรรม เมื่อกันยายน พ.ศ.๒๕๒๒

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา