24 เม.ย. 2022 เวลา 12:19 • ธุรกิจ
ซอฟต์แวร์ คืออะไร ?
คอมพิวเตอร์มีส่วนประกอบที่สามารถมองเห็นจับต้องได้ เช่น จอภาพ คีย์บอร์ด เมาส์ ลำโพง ซึ่งของกลุ่มนี้เราเรียกกันว่าฮาร์ดแวร์ (Hardware)
2
แต่รู้หรือไม่ว่า ยังมีอีกส่วนหนึ่งของคอมพิวเตอร์ที่สำคัญมาก ซึ่งถ้าไม่มีส่วนนี้ คอมพิวเตอร์ก็จะไม่สามารถทำงานได้เลย ส่วนนั้นก็คือ ซอฟต์แวร์ (Software) นั่นเองค่ะ แล้วซอฟต์แวร์ คืออะไร และมีประโยชน์อย่างไร
👉 ซอฟต์แวร์ เป็นชุดคำสั่งที่ใช้ในการสั่งงานให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้ โดยจะอยู่ในลักษณะเป็นชุดคำสั่ง หรือที่เรารู้จักในรูปแบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์นั่นเอง
ซอฟต์แวร์หลายๆ ตัวมีราคาสูง เป็นเพราะผู้ผลิตส่วนใหญ่อยู่ต่างประเทศ เมื่อมีการนำเข้ามาในไทย ก็ย่อมมีการบวกต้นทุนภาษีและค่าลิขสิทธิ์ต่างๆ เข้าไป จึงทำให้ราคาสูงเป็นธรรมดา
แต่ทุกวันนี้ประเทศไทยเราเอง ก็มีผู้ผลิตและพัฒนาซอฟต์แวร์ใช้เองได้หลายราย โดยไม่ต้องพึ่งพาเฉพาะของต่างประเทศเท่านั้น ยิ่งปัจจุบันเราสามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้มากและง่ายขึ้น ทำให้มีผู้นำซอฟต์แวร์หลายตัวมาลงไว้ให้คนอื่นสามารถ Download ไปใช้งานได้
ถ้าซอฟต์แวร์ประเภท Freeware ผู้ผลิตจะอนุญาตให้ใช้งานได้อย่างไม่เสียเงิน แต่บางประเภทจะเป็นแบบ Shareware หรือเวอร์ชั่นทดลองใช้ แต่เรามักจะหาวิธีการให้ใช้งานได้ตลอด ซึ่งนั่นเป็นการกระทำผิด
ฉะนั้นเราควรใช้ ซอฟต์แวร์ที่ถูกต้องตามกฏหมายเพื่อที่ผู้ผลิตจะมีกำลังใจในการสร้างสรรค์ซอฟต์แวร์ที่ดีมาให้เราใช้กันมากขึ้นนั่นเองค่ะ
👉 ประโยขน์ของซอฟต์แวร์
คอมพิวเตอร์ถ้าหากว่ามีแต่เครื่องเปล่าๆ โดยปราศจากระบบซอฟต์แวร์แล้ว มันก็เหมือนกับสิ่งของธรรมดาเครื่องหนึ่งที่สร้างประโยชน์อะไรไม่ได้เลย แต่เมื่อมีระบบซอฟต์แวร์เข้ามาเกี่ยวข้องก็ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถทำในสิ่งที่เป็นความสามารถของตนเองได้
ไม่ว่าจะเป็นการใช้สร้างงาน ใช้คำนวณ ใช้แปลภาษา การประมวลผลคำ หรือแม้แต่ระบบการจัดการในเรื่องต่างๆ ซึ่ง สามารถทำให้เราใช้งานสิ่งเหล่านั้นได้อย่างสมบูรณ์แบบมากที่สุด
ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานต่างๆ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านบางชนิด สามารถนำเอาระบบคอมพิวเตอร์ที่มีซอฟต์แวร์สั่งงานมาช่วยทำให้สะดวกยิ่งขึ้น เช่น เครื่องปรับอากาศที่มีระบบตั้งเวลาเปิดปิดอัตโนมัติ เครื่องดูดฝุ่นที่ใช้งานแทนไม้กวาด เป็นต้น
ภาพจาก Pinterest
นอกจากนี้ ซอฟต์แวร์ยังเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้การทำงาน หรือการใช้ชีวิตประจำวันมีความทันสมัยอยู่เสมอ เหมือนกับเป็นการเปลี่ยนแปลงยุคสมัยไปโดยปริยาย
ซอฟต์แวร์แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
1. ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software)
เป็นโปรแกรมที่ถูกเขียนขึ้นมาเพื่อเพื่อใช้ใในการควบคุมการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ ทำให้การติดต่อประสานกันระหว่าง อุปกรณ์แต่ละชิ้น โปรแกรมแต่ละโปรแกรม ให้สามารถทำงานร่วมกันได้โดยไม่มีปัญหา ซึ่งซอฟต์แวร์ระบบที่เป็นที่รู้จักและนิยมใช้กันมาก เช่น Windows, Linux, OSX เป็นต้น
2. ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software)
เป็นชุดคำสั่งที่เขียนขึ้นมาเป็นโปรแกรมที่ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้ ซึ่งก็คือโปรแกรมที่เราใช้งานอยู่ทุกวันนี้ นอกจากนี้ซอฟต์แวร์ประยุกต์ ยังแบ่งได้อีก 2 ประเภทคือ
>> ซอฟต์แวร์สำหรับงานทั่วไป เช่น ซอฟต์แวร์นำเสนองาน ซอฟต์แวร์ติดต่อสื่อสารและเข้าถึงข้อมูล เป็นต้น
>> ซอฟต์แวร์สำหรับงานเฉพาะด้าน เช่น โปรแกรมงานบัญชี โปรแกรมคำนวณเงินเดือน โปรแกรมควบคุมเครื่องจักร เป็นต้น
อ่านถึงตรงนี้ ก็คงเข้าใจและเรียนรู้ถึงประโยชน์ของซอฟต์แวร์กันไปแล้วนะคะ ในนามของ BSV เองซึ่งเป็นผู้พัฒนาระบบซอฟต์แวร์รายหนึ่ง ก็ได้มีการปรับปรุงพัฒนาซอฟต์แวร์มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบโปรแกรมสำเร็จรูปและปรับปรุงตามความต้องการใช้งานของผู้ใช้
และจากการที่ทีมงาน BSV ได้ดำเนินการพัฒนาโปรแกรมซอฟต์แวร์ระบบบัญชีที่มีชื่อว่า BSerp เพื่อให้เป็นไปตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นระยะเวลานานกว่า 9 เดือน
มีการปรับแก้ไขและทดสอบโปรแกรมร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรผู้ดูแลโปรเจค โดยมีการปรับปรุงแก้ไขไปทั้งสิ้น 2 ครั้ง รวมกับการนำเสนอครั้งแรกเป็น 3 ครั้งด้วยกัน
ในที่สุดกรมสรรพากรก็ได้อนุมัติคำขอมีเลขประจำตัวซอฟต์แวร์เฮ้าส์ ให้กับ BSV เป็นที่เรียบร้อยแล้วในลำดับที่ 575
นับว่าทีมงาน BSV ประสบความสำเร็จเร็วกว่าที่คาดไว้ ซึ่งจากที่ตั้งเป้าหมายคือภายใน 1 ปี แต่ด้วยความพยายามร่วมแรงร่วมใจกันของทีมงานก็สามารถปรับปรุงพัฒนาโปรแกรมให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดได้สำเร็จด้วยดีค่ะ 😉
ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ใช้โปรแกรมมั่นใจได้ว่า โปรแกรมระบบบัญชี BSerp นั้นมีความถูกต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด ที่สำคัญโปรแกรมยังใช้งานง่าย แม้แต่คนที่ไม่มีพื้นฐานการใช้โปรแกรมมาก่อน
นอกจากโปรแกรมระบบบัญชีแล้ว BSerp ยังมีโปรแกรมระบบ ERP อื่นๆ เช่น ระบบจัดซื้อ (PUR) ระบบคลังสินค้า (IC) ระบบขาย (SA) ระบบลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) ระบบทรัพยากรบุคคล (HRM) ระบบควบคุมงบประมาณ (Budget) ระบบวางแผนผลิต (MRP) ระบบซ่อมบำรุง (PRM) ระบบสินทรัพย์ (FA) เป็นต้น
เพื่อรองรับความต้องการใช้ซอฟต์แวร์เข้ามาช่วยในการทำงานในองค์กรให้ง่ายขึ้น รวมถึงช่วยยกระดับการทำงานในองค์ให้มีมาตรฐานที่ดี มีระเบียบ ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน ง่ายต่อการบริหารจัดการธุรกิจอีกด้วย เหมาะสำหรับผู้ประกอบการยุคดิจิทัลโดยแท้เลยล่ะค่ะ 😊
💥 แล้วทำไมต้องใช้ซอฟต์แวร์ ERP มาช่วยจัดการในองค์กรนะหรือ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากลิ้งข้างล่างนี้เลยค่ะ 👇
Cr. BSV Developer (ผู้พัฒนาระบบซอฟต์แวร์)
เรียบเรียงโดย : ลงทุนในบัญชีและภาษี
ขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่มีให้กันเสมอค่ะ
🌷🌷❤❤🙏🙏🙏🙏❤❤🌷🌷

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา