27 เม.ย. 2022 เวลา 02:39 • หุ้น & เศรษฐกิจ
✅Morning Update 27.04.2022
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงรุนแรงทั้ง 3 ดัชนีหลัก โดย Nasdaq 100 ปรับตัวลดลงสูงสุดเกือบ -4%
  • รัสเซียส่งสัญญาณอาจนำนิวเคลียร์มาใช้ทำสงครามหากจำเป็น
  • นักลงทุนเทขาย Tesla ภายหลังไม่พอใจที่ Elon Musk ให้เวลากับ Twitter มากเกินธุรกิจหลักอย่าง Tesla
  • Microsoft และ Apple รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ประจำปี 2022 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ คืนวันอังคารที่ 26.04.2022 ดัชนี Dow Jones -809.28 จุด
  • 2.38% S&P 500 -120.92 จุด -2.81% และ Nasdaq 100 -523.51 จุด -3.87%
โดยมีรายละเอียดต่าง ๆ ดังนี้
1. ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีปูติน ได้มีคำสั่งให้เตรียมความพร้อมกองกำลังด้านนิวเคลียร์ หลังจากที่ NATO หรือ องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ ยังคงมีท่าทีแข็งกร้าวต่อรัสเซียกรณีเข้าบุกยูเครน
โดยเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าว Ria Novosti ของรัสเซียถึงการเตรียมความพร้อมด้านอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งนับว่าเป็นการออกมาส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ในการยกระดับความรุนแรงของสงครามขึ้นไปสู่การเกิดสงครามนิวเคลียร์
ตลาดหุ้นฝั่งยุโรปผันผวนเล็กน้อยในช่วงเช้าก่อนปรับตัวลดลงแรงในช่วงท้ายตลาดโดย Stoxx 600 ปิดที่ 441.10 (-0.90%)
2. ค่ำวานที่ผ่านมาด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนหลายแห่ง
Microsoft ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 รายได้รวม 4.94 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ดีกว่าคาดเล็กน้อยที่ 4.90 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และกำไรต่อหุ้นที่ 2.22 ดอลลาร์สหรัฐฯ ดีกว่าคาดที่ 2.19 ดอลลาร์สหรัฐฯ
Alphabet หรือ Google รายงานรายได้รวม 6.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ น้อยกว่าคาดเล็กน้อยที่ 6.81 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และกำไรต่อหุ้นที่ 24.62 ดอลลาร์สหรัฐฯ แย่กว่าคาดที่ 25.71 ดอลลาร์สหรัฐฯ
ด้านกลุ่มบริษัทจดทะเบียนในดัชนี Dow Jones ซึ่งส่วนมากเป็นลักษณะธุรกิจรูปแบบเก่าก็ปรับตัวลดลงแรง ทั้งบริษัทที่ประกาศรายได้ดีกว่าคาดและต่ำกว่าคาด โดยมีปัจจัยความกดดันมาจากเงินเฟ้อที่น่าจะกดดันภาคการบริโภคในอนาคต
3M -3.00% GE -10.34% Nike -5.80% Boeing -5.04%
3. ทางด้านสหรัฐฯ มีรายงานตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจ 3 ตัวได้แก่
(1) ตัวเลขยอดขายบ้านใหม่หรือ New Home Sales ประจำเดือนมีนาคมที่ผ่านมาปรับตัวลดลงที่ 763,000 หน่วย ใกล้เคียงกับที่คาดไว้ที่ 765,000 หน่วย แต่น้อยเดือนก่อนหน้า (ตัวเลขฉบับปรับปรุง) ที่ 835,000 หน่วย
(2) ตัวเลขคำสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐานหรือ Core Durable Goods Orders ประจำเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ขยายตัวที่ +1.1% โดยเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของเดือนก่อนหน้า (MoM) มากกว่าคาดที่ +0.6%
ตัวเลขคำสั่งซื้อดังกล่าวขยายตัวในทุกภาคส่วนเช่น คำสั่งซื้อสินค้าใหม่ คำสั่งซื้อที่ค้างไว้ การขนส่ง รวมถึงสินค้าคงคลัง
(3) ตัวเลขความเชื่อมั่นของผู้บริโภคชาวอเมริกัน ที่สำรวจโดย Conference Board หรือ CB Consumer Confidence ประจำเดือนเมษายนที่ 107.30 จุด ต่ำกว่าคาดเล็กน้อยที่ 108.0 จุด
ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคชาวอเมริกันยังคงอยู่ในระดับสูงหรือมากกว่า 100 จุด และแม้ว่าจะยังคงมีความกังวลด้านความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างรัสเซีย-ยูเครน แต่ตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง
4. หลังจากข่าว Twitter ที่กำลังจะถูกมหาเศรษฐีชาวอเมริกันอย่าง อีลอน มัสก์ ทำการเข้าซื้อกิจการ อีกหนึ่งมหาเศรษฐีนามว่า เจฟฟ์ เบโซส์ เจ้าของบริษัท E-commerce ยักษ์ใหญ่ Amazon ได้ออกมาให้ความเห็นถึงสิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นภายหลัง Twitter อยู่ภายใต้การควบคุมของนายอีลอน มัสก์
เจฟฟ์ เบโซส์ ได้โพสต์ข้อความลง Twitter อย่างมีนัยยะสำคัญว่า ประเทศจีนอาจเข้ามามีอิทธิพลในโลก Twitter สูงขึ้น เนื่องจากธุรกิจส่วนสำคัญของอีลอน มัสก์ ถูกผูกไว้กับทางการจีน ซึ่งนั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องดีนักสำหรับชาว Twitter
อย่างไรก็ตามทางด้านแจ็ค ดอร์ซีย์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Twitter กลับมีความเห็นที่ตรงกับข้ามกับ เจฟฟ์ เบโซส์ อย่างสิ้นเชิง โดยแจ็ค ดอร์ซีย์ ได้กล่าวว่า หากจะต้องมีใครสักคนเข้ามาบริหารและกำหนดทิศทาง Twitter ในเวลานี้ อีลอน มัสก์ นี้แหละคือคนที่เหมาะสมที่สุด
จากกระแสข่าวดังกล่าว เหตุผลที่ชาวอเมริกันให้ความสนใจเกี่ยวกับดีล Twitter ของอีลอน มัสก์ อย่างมาก นั่นเพราะแท้จริงแล้ว Free speech หรือ เสรีภาพในการพูด ถือเป็นแก่นหลักของชาวอเมริกัน ที่นับวันอาจถูกบิดเบือนและนำมาซึ่ง Hate Speech หรือถ้อยคำแสดงวามเกลียดชังที่ขยายตัวมากขึ้น ซึ่ง Twitter เองนั้นนับว่าเป็นศูนย์รวมของผู้คนชาวอเมริกันในโลกดิจิทัลอันดับต้น ๆ
5. หุ้นที่ Outperform ตลาด 3 อันดับสูงสุดได้แก่หุ้นกลุ่มพลังงาน +0.04% และหุ้นกลุ่มเชิงรับอย่างกลุ่มผู้ให้บริการสาธารณูปโภคพื้นฐาน -1.04% และกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค -1.48%
หุ้นกลุ่มพลังงานเด้งฟื้นตัวเล็กน้อยจากที่ปรับตัวลดลงรุนแรงในวันก่อนหน้า
Exxon +0.04% Chevron -0.61% ConocoPhillips -0.37% Occidental -0.18% EOG Resources -0.16% APA -1.18% Baker Hughes +1.98% Schlumberger +2.20%
P&G -1.70% Philip Morris -0.23% Mondelez -2.65% Colgate -1.58%
Coca-Cola -1.35% PepsiCo -0.25% Walmart -1.04% Costco -2.54%
6. หุ้นที่ underperform ตลาด 3 อันดับสูงสุด ได้แก่หุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย -4.99% กลุ่มเทคโนโลยี -3.71% และกลุ่มเทคโนโลยีสื่อสาร -3.16%
McDonald -1.70% Starbucks -3.01% Nike -5.80% Lowe’s -0.39% Home Depot -1.63% Target -2.14% TJX -3.11% Booking -3.83% Ralph Lauren -3.79% PVH -4.83% Tapestry -2.20%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและเทคโนโลยีสื่อสารลดลงรุนแรงแม้ว่าจะมีการฟื้นตัวเล็กน้อยในวันก่อนหน้า
Twitter -3.91% Pinterest -3.90% Snapchat -4.08% Charter Communication -3.95% Walt Disney -3.48% Warner Bros Discovery -7.77%
7. หุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ปรับตัวลดลงแรง
Apple -3.73% Alphabet -3.59% Microsoft -3.74% Amazon -4.58% Meta -3.23% Netflix -5.48% Adobe -3.58% Salesforce -2.57% Visa -4.22% Mastercard -2.96%
หุ้น Innovation ปรับตัวลดลงแรง
Tesla ร่วงกว่า -12% โดยนักลงทุนมองว่า Elon Musk ควรมุ่งเป้าที่ธุรกิจหลักอย่าง Tesla แทนที่จะเสียเวลาไปกับการพุ่งเป้าพัฒนา Twitter
Tesla -12.18% Lucid Group -8.74% Roku -9.52% Teladoc Health -4.61% Block (Square) -6.44% Zoom -3.98% Spotify -1.54% Twilio -6.26% Coinbase -5.91% Robinhood -3.75% Affirm Holdings -7.05% Unity Software -6.50% Shopify -6.78%
หุ้น Semiconductor ปรับตัวลดลงแรงเช่นกัน
Nvidia -5.60% AMD -6.10% Intel -3.27% Micron -4.34% Qualcomm -2.24% Broadcom -4.73%
8. ETF ด้าน Technology & Innovation ร่วงแรง
ARK Innovation (ARKK) -6.75% ARK Fintech (ARKF) -5.42% Power Shares Wilder Hill Clean Energy (PBW) -4.96% iShares PHLX Semiconductor (SOXX) -4.43% SPDR S&P Kensho Smart Mobility (HAIL) -3.56% VanEck Vectors Video Gaming and eSports (ESPO) -3.38% Global X Cybersecurity (BUG) -3.16% และ KraneShares CSI China Internet (KWEB) -1.91%
9. หุ้นจีนและเอเชียที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง
Alibaba -2.16% Baidu -3.98% Coupang -7.50% iQIYI +0.62% JD -0.95% Didi Global -3.89% KE holdings +3.65% Luckin Coffee -0.96% NetEase -1.01% Pinduoduo -2.13% SEA -6.94% TAL Education -4.98% TSMC -3.61% Nio -5.49% Xpeng -6.20%
10. S&P500 VIX Index ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงทะลุระดับ 30 จุด โดยปิดที่ 23.52 จุด (+24.06%)
ด้าน Nasdaq 100 VIX ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงเช่นกัน ขึ้นไปแตะระดับ 40 จุด โดยปิดที่ 38.93 จุด (+15.08%)
ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดยล่าสุดอยู่ที่ 102.30 จุด
ราคาทองคำผันผวนเล็กน้อยและยังสามารถยืนเหนือระดับ 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยล่าสุดอยู่ที่ 1,905 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง โดยราคาล่าสุดอยู่ที่ 34.285 บาทต่อดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบ WTI ผันผวนเล็กน้อย กลับมายืนเหนือ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลอีกครั้ง โดยราคาล่าสุดอยู่ที่ 102.5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ที่มาภาพ :
#LHBankAdvisory

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา