26 เม.ย. 2022 เวลา 01:09 • หุ้น & เศรษฐกิจ
✅Morning Update 26.04.2022
🇺🇸🇪🇺ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้ง 3 ดัชนีหลักผันผวนรุนแรงระหว่างวันก่อนปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงบ่าย โดยดัชนี Nasdaq 100 ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุด
นายเอ็มมานูเอล มาครง ชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงส่วนมาก / Twitter อนุมัติข้อเสนอขอซื้อกิจการจากอีลอน มัสก์
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ คืนวันจันทร์ที่ 25.04.2022 ดัชนี Dow Jones +238.06 จุด +0.70% S&P 500 +24.34 จุด +0.57% และ Nasdaq 100 +176.36 จุด +1.32% โดยมีรายละเอียดต่าง ๆ ดังนี้
1. ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสเป็นที่สิ้นสุดลง โดยประธานาธิบดีฝรั่งเศสคนปัจจุบัน นายเอ็มมานูเอล มาครง ชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียง 58.55% ขณะที่ผู้ท้าชิงตำแหน่งอย่าง นางมารีน เลเปน ทำคะแนนไปได้เพียง 41.45%
ส่งผลให้ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงพร้อมเดินหน้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ซึ่งถือเป็นประธานาธิบดีคนแรกที่ได้รับการเลือกให้ดำรงตำแหน่ง 2 วาระติดต่อกันในรอบ 20 ปี นับตั้งแต่ปี 2002
2. เยอรมันมีการประกาศตัวเลข ดัชนี Germany IFO Business Climate Index ซึ่งวัดความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจในอีกหกเดือนข้างหน้าสำรวจโดย IFO Institute
ดัชนี Germany IFO Business Climate รอบเดือนเมษายน 2022 ขยายตัวที่ 91.8 จุด เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า (MoM) ขยายตัวดีกว่าคาดไว้ที่ 89.1 จุด และเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 90.8 จุด โดยมีสาเหตุหลักมาจากความกังวลต่อสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ลดลง
ด้านภาคบริการขยายตัวดีขึ้นที่ +5.4 จุด ภาคการผลิตเริ่มคลี่คลายความกังวลแต่ยังคงปรับตัวลดลงที่ -1.0 จุด ขณะที่ภาคการส่งออกและภาคการก่อสร้างปรับตัวลดลงที่ -13.30 และ -20.0 จุด ตามลำดับ
ตลาดหุ้นฝั่งยุโรปผันผวนรุนแรงระหว่างวัน โดย Stoxx 600 ปิดที่ 445.11 (-1.81%)
3. คณะผู้บริหาร Twitter อนุมัติข้อเสนอซื้อกิจการโดยนายอีลอน มัสก์ ที่ 54.20 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อหุ้น หรือรวมมูลค่าดีลกว่า 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
โดย อีลอน มัสก์ จะใช้เงินทุนส่วนตัวราว 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จะเป็นการจัดหาเงินทุนโดยการกู้ยืม
อีลอน มัสก์ เล่าว่าความตั้งใจในการเข้าซื้อกิจการ Twitter ครั้งนี้เป็นไปเพื่อผลักดันให้เกิดชุมชนเสรีออนไลน์มากกว่าเดิมใน Twitter
ด้านทีมงานของ โจ ไบเดน แสดงความเป็นกังวลต่อการเข้าซื้อ Twitter ของ อีลอน มัสก์ ในครั้งนี้ ว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ อีลอน มัสก์ จะอนุญาตให้ โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ สามารถกลับเข้ามาใช้งานในแพลตฟอร์ม Social Media นี้อีกครั้งหลังจากถูกห้ามการใช้งานอย่างถาวรเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เนื่องจากการละเมิดโนบายการแชร์ข่าวสารบนแพลตฟอร์มอยู่บ่อยครั้ง
4. ค่ำวานที่ผ่านมา แม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่จะสามารถฟื้นตัวกลับมาได้ดีท่ามกลางความผันผวนใน ทว่าตลาดซื้อขายล่วงหน้าหรือตลาดฟิวเจอร์ของ Nasdaq กลับยังคงอยู่ในแดนลบ
นักวิเคราะห์อาวุโสจากบริษัท Oanda ได้ให้ความเห็นไว้ว่า ในช่วงสัปดาห์นี้ เหล่าบริษัทจดทะเบียนกว่า 1 ใน 3 จะมีการประกาศผลดำเนินการในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา
ซึ่งแน่นอนจะมีทั้งบริษัทที่ทำได้ดีกว่าคาดและแย่กว่าคาด แต่เกือบทุกบริษัทคาดการณ์ว่ายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจแม้ว่าบริษัทจะได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อที่กดดันต้นทุนการผลิตก็ตาม
ซึ่งสัปดาห์นี้ตลาดเองยังคงผันผวนระหว่างการรายงานผลประกอบการและความกังวลที่มีต่อนโยบายทางการเงินของ Fed (ธนาคารกลางสหรัฐฯ)
5. หุ้นที่ Outperform ตลาด 3 อันดับสูงสุดได้แก่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสื่อสาร +1.53% กลุ่มเทคโนโลยี +1.44% และกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย +0.78%
กลุ่มเทคโนโลยีด้านการสื่อสารฟื้นตัวได้ดีภายหลังปรับตัวลดลงติดต่อกัน 3 วันทำการในสัปดาห์ก่อนหน้า นำโดย Twitter ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นโดดเด่น
Twitter +5.66% Pinterest +2.09% Snapchat +0.50% Charter Communication -0.86% Walt Disney +1.42% Warner Bros Discovery +4.52%
McDonald +1.08% Starbucks +0.08% Nike -0.88% Lowe’s +1.68% Home Depot +1.61% Target -0.01% TJX +1.08% Booking +1.45% Ralph Lauren -0.75% PVH +1.20% Tapestry +0.64%
6. หุ้นที่ underperform ตลาด 3 อันดับสูงสุด ได้แก่หุ้นกลุ่มพลังงาน -3.34% กลุ่มผู้ให้บริการสาธารณูปโภค -0.72% และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ -0.48%
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลดลงรุนแรงกว่า -3% จากตลาดคาดการณ์อุปสงค์การใช้พลังงานของจีนอาจหดตัวกว่า -20% ในปีนี้ภายใต้มาตรการปิดเมืองของจีน
Exxon -3.37% Chevron -2.15% ConocoPhillips -4.53% Occidental -3.00% EOG Resources -3.75% APA -4.00% Baker Hughes -4.53% Halliburton -6.26% Schlumberger -7.11%
Duke Energy -0.45% Southern -1.24% Dominion Energy -0.39%
American Tower -0.91% Prologis -0.59% Crown Castle -0.65% Equinix +0.95% Public Storage -0.84% Simon Property +0.33%
7. หุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ผันผวนแรงในช่วงเช้าของเวลาทำการก่อนปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดีในช่วงบ่าย
Apple +0.67% Alphabet +2.87% Microsoft +2.44% Amazon +1.19% Meta +1.56% Netflix -2.60% Adobe +1.29% Salesforce +1.83% Visa +0.86% Mastercard +0.97%
หุ้น Innovation ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดี
Tesla -0.70% Lucid Group +1.15% Roku +4.45% Teladoc Health +3.97% Block (Square) +4.59% Zoom +2.27% Spotify +1.75% Twilio +4.31% Coinbase +2.75% Robinhood +1.27% Affirm Holdings +4.20% Unity Software +4.91% Shopify -0.17%
หุ้น Semiconductor ฟื้นตัวได้ดีหลังปรับตัวลดลงแรงช่วงปลายสัปดาห์ก่อนหน้า
Nvidia +1.98% AMD +2.89% Intel +1.12% Micron +1.02% Qualcomm +2.82% Broadcom +0.16%
8. ETF ด้าน Technology & Innovation ปรับตัวเพิ่มขึ้น
ARK Innovation (ARKK) +3.60% ARK Fintech (ARKF) +2.76% Power Shares Wilder Hill Clean Energy (PBW) +1.66% iShares PHLX Semiconductor (SOXX) +1.69% SPDR S&P Kensho Smart Mobility (HAIL) +1.26% VanEck Vectors Video Gaming and eSports (ESPO) +1.10% Global X Cybersecurity (BUG) +2.47% และ KraneShares CSI China Internet (KWEB) +0.12%
9. หุ้นจีนและเอเชียที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยมากปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
Alibaba -0.75% Baidu +1.75% Coupang +1.35% iQIYI -1.54% JD +3.23% Didi Global +4.65% KE holdings +1.82% Luckin Coffee +1.10% NetEase +2.92% Pinduoduo +2.50% SEA +2.17% TAL Education -0.35% TSMC +0.59% Nio +0.76% Xpeng +1.42%
10. S&P500 VIX Index ผันผวนในช่วงเปิดตลาดก่อนปิดปรับตัวลดลง โดยปิดที่ 27.02 จุด (-4.22%)
ด้าน Nasdaq 100 VIX ผันผวนและปรับตัวลดลงในทิศทางเดียวกันกับ S&P500 VIX Index โดยปิดที่ 33.38 จุด (-4.41%)
ค่าเงินดอลลาร์ผันผวนเล็กน้อย โดยล่าสุดทรงตัวที่ระดับ 101.70 จุด (-0.05%)
ราคาทองคำร่วงรุนแรง โดยล่าสุดอยู่ที่ 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง ทะลุระดับ 34 บาทต่อดอลลาร์ โดยราคาล่าสุดอยู่ที่ 34.085 บาทต่อดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลงเล็กน้อย ลงไประดับต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลอีกครั้ง โดยราคาล่าสุดอยู่ที่ 98.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ที่มาภาพ :
#LHBankAdvisory

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา