อยากมีบ้านหรือคอนโด ควรเช็คความพร้อมอะไรบ้าง
บ้านคือวิมานของเรา ประโยคสุดคลาสสิกนี้ แอดคิดว่าคงไม่มีใครที่จะไม่เห็นด้วย หรือถ้าจะมีก็คงเป็นจำนวนน้อยมาก ๆ เพราะไม่ว่าจะอย่างไร จะไปทำงาน ไปท่องเที่ยว ไปทำธุรกิจ หรืออาจจะไปตกระกำลำบากที่ไหนมา หากเรามีบ้านให้กลับ ได้ไปเห็นหน้าคนในครอบครัวที่คุ้นเคย ได้พักผ่อนสักพัก กำลังใจและความรู้สึกแย่ๆ ก็คงจะกลับมาดีขึ้นในไม่ช้า จริงไหมคะ
แต่ยุคสมัยนี้ การจะมีบ้านหรือคอนโตนั้น ดูเหมือนจะยากเย็นกว่าเมื่อก่อนมาก อาจจะด้วยอัตรารายได้ที่เพิ่มขึ้นในอัตราที่น้อยกว่าค่าใช้จ่าย และอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น แต่ถ้าเราต้องการอยากมีบ้านสักหลัง ควรต้องเตรียมการอย่างไร มาเช็คลิสดูกันเลยค่ะ
1. เรียนรู้ทำความเข้าใจหนี้บ้านและคอนโดหรือยัง
เพราะการมีบ้านสักหลังนั้น ต้องมาพร้อมด้วยหนี้สินก้อนโต และเป็นหนี้สินระยะยาวมาก ๆ หากเราเรียนรู้ทำความเข้าใจกับมัน ก็จะช่วยให้เราสามารถมีสินทรัพย์พร้อมหนี้สินก้อนนี้ได้อย่างปลอดภัย
และเรื่องการ Refinance การโป๊ะบ้าน หรือการเรียนรู้เทคนิคการผ่อนบ้านและคอนโดให้หมดแบบรวดเร็วนั้น ก็เป็นสิ่งจำเป็นค่ะ
2. หน้าที่การงานมั่นคงหรือเปล่า
การที่จะกู้ซื้อบ้านอาจจะไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสมสำหรับพนักงานเงินเดือนที่พึ่งจะเริ่มงานใหม่ๆ เพราะยังถือว่าไม่มั่นคงพอ อาจจะเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นเมื่อไรก็ได้ ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาของเรื่องการผ่อนชำระหนี้สิน และอาจทำให้ถูกยึดทรัพย์ได้
ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาความไม่แน่นอน ควรจะอดทดรอให้การงานและฐานะการเงินของตัวเองมีความมั่นคงก่อน
3. มีเงินดาวน์มากเท่าไร
ในการวางเงินดาวน์บ้านนั้นควรจะต้องเตรียมเงินสดจำนวนหนึ่งอย่างน้อย 20% ของราคาบ้านทั้งหมด เพื่อจะได้ไม่ต้องจ่ายส่วนต่างหรือดอกเบี้ยกับธนาคารสูงขึ้นนั่นเอง
4. มีหนี้สินมากน้อยแค่ไหน
เป็นปัญหาหนึ่งที่พบเจอบ่อยที่สุด เพราะนอกจากการมีหนี้บ้านก้อนใหญ่ที่จะเพิ่มเข้ามาแล้ว ยังต้องมีค่าใช้จ่ายอื่น ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น ค่าอาหารการกิน ค่าเดินทาง ค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ เป็นต้น
รวมถึงเงินเก็บออมและเงินสำหรับลงทุนเพื่ออนาคตอีกด้วย ดังนั้นควรเช็คภาระหนี้สินให้ดีก่อนกู้ซื้อบ้าน ไม่ว่าจะเป็นหนี้สินเล็กน้อยแค่ไหน แนะนำว่าหนี้สินรวมทั้งหมดไม่ควรเกิน 50%ของรายได้ค่ะ
5.มีความรู้เกี่ยวกับบ้านบ้างหรือไม่
หลังจากกู้ซื้อบ้านแล้ว จะยังมีขั้นตอนของการรับโอนบ้าน ในขั้นตอนนี้สำคัญมากที่จะต้องมีความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับบ้านค่ะ อย่างเช่น โครงสร้างและงานระบบ เพื่อที่จะใช้ในการตรวจสอบว่าบ้านของเรานั้นอยู่ในสภาพสมบูรณ์แข็งแรงก่อนที่จะรับโอนบ้าน
แต่หากต้องการตัดปัญหาเรื่องความรู้เกี่ยวกับบ้านตรงนี้ไป อาจใช้วิธีหาผู้เชี่ยวชาญไปด้วยในวันตรวจรับบ้านนะคะ
6. มีเงินสำรองกรณีฉุกเฉินหรือยัง
เนื่องจากการผ่อนชำระบ้าน เป็นภาระหนี้สินระยะยาวมาก ๆ ในระหว่างที่ผ่อนไปนั้น เรามิอาจทราบได้ว่าจะมีเหตุการณ์อะไรที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นเป็นพิเศษ จึงไม่สามารถทราบได้ว่าเราจะผ่อนได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่
นอกจากนี้ ก็อาจจะมีบางอย่างที่เกินกำลังการเแก้ไขด้วยตัวเองได้ เช่น ผนังร้าว ระบบประปา ระบบไฟฟ้า ปัญหาปลวกแมลง สัตว์เลื้อยคลาน ฯลฯ ซึ่งอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายในการจ้างผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางมาแก้ปัญหาให้
ดังนั้น เงินสำรองเผื่อกรณีฉุกเฉิน จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเตรียมสำรองไว้ เพื่อความปลอดภัยทางการเงินของเราค่ะ
Cr. inside2home
เรียบเรียงโดย : ลงทุนในบัญชีและภาษี
ขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่มีให้กันเสมอค่ะ
🌷🌷❤❤🙏🙏🙏🙏❤❤🌷🌷
- 11
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
