ยอร์ค วันที่ 3 (ตอนที่ 2) ไปดูหอศิลป์แห่งยอร์ค
หลังจากไปหลบภัยในโบสถ์น้อย แล้วก็รอดกลับมาแล้ว เดินไปที่หอศิลป์แห่งยอร์ค (York Art Gallery) ท่ามกลางอากาศที่หนาวมาก ที่นี่เป็นหอศิลป์ขนาดย่อมเพราะไม่ได้เป็นหอศิลป์แห่งชาติ แต่เป็นหอศิลป์ประจำเมือง อาจไม่มีงานศิลปินระดับโลกเท่าใดนักแต่ก็มีสิ่งน่าสนใจให้ดูชมพอสมควร รวมทั้งงานศิลปะที่เกี่ยวข้องกับตัวเมืองยอร์ก
งานกลุ่มแรกที่ได้เห็นคือภาพวาดยุคโกธิค ซึ่งเป็นยุครุ่งเรืองของยอร์คซึ่งมีประวัติศาสตร์สำคัญเป็นที่รู้จัก อย่างเช่นสงครามดอกกุหลาบ มีการสร้างปราสาท ประตูเมือง ป้อมต่างๆ ซี่งเป็นสิ่งแรกๆที่เรามักจะนึกถึงเมื่อเราพูดถึงยอร์ก มีงานจำนวนมากเป็นภาพเกี่ยวกับศาสนาบนแผงไม้ที่ใช้สำหรับการบูชา
นอกจากนั้นยังมีกลุ่มของภาพสไตล์ Genre ซึ่งเกิดขึ้นในศตวรรษที่17 มุ่งหนีการเขียนจากภาพบุคคลสำคัญที่วางท่ายิ่งใหญ่สง่างาม หรือภาพทางศาสนา เหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ มาเป็นเรื่องของผู้คนธรรมดาที่กำลังใช้ชีวิตธรรมดา อย่างเช่นการดื่มเหล้า เล่นไพ่ของชาวบ้านทั่วไป ซึ่งตัวศิลปินก็ได้ดึงเอาบันทึกเวลาชั่วขณะนั้นมาให้เราดูอย่างมีชีวิตชีวา
อีกกลุ่มหนึ่งคือภาพบุคคล (Portraits) ที่ศิลปินพยายามนำลักษณะต่างๆของบุคคลที่เป็นแบบวาดมาแสดงให้เห็นในภาพ อาจเป็นความงาม อำนาจ ความสุข ความชรา น่าเกรงขาม ความเป็นชนชั้นสูง ฯลฯ หลายคนมีเครื่องแต่งกายหรูหรา ตามยุคสมัยหนึ่งที่นิยมกันแบบนั้น
ต่อไปคือกลุ่มหุ่นนิ่ง (Still life) อันนี้เป็นคอลเลคชั่นที่ผมชอบที่สุดของที่นี่ ภาพประเภทนี้แสดงความสามารถในการถ่ายทอดลักษณะวัสดุพื้นผิวแสงเงาได้อย่างสมจริงหรืออาจจะสวยกว่าของจริงได้ด้วย สิ่งที่ปรากฏมักจะเกี่ยวกับงานเลี้ยง การกิน การรับรอง เราจะได้เห็นภาพผลไม้ที่สุกปลั่งชวนให้อ้าปากงับ เครื่องเงินที่ส่องประกายแวววับ แก้วเจียรนัยที่บอบบางแวววาว การจัดโต๊ะที่นำเอาความหรูหรามาสุมกองกัน
แต่ก็มีภาพส่วนหนึ่งซึ่งแสดงซากสัตว์ที่ดูสยอง ขยะแขยง สะอิดสะเอียน แต่ก็แสดงฝีมือของคนวาดในการจับเอาพื้นผิวขนสัตว์มาทำให้เราได้รู้สึกเหมือนเห็นของจริง รวมทั้งการจัดวางสิ่งต่างๆในภาพให้มีองค์ประกอบตามต้องการ มีคนเคยให้วิจารณ์ไว้ว่าการมองสิ่งของที่ตั้งวางไว้อย่างโดดเดี่ยวหรือถูกละทิ้งเอาไว้แบบนี้ทำให้เรารำลึกได้ว่า ความหรูหราฟุ่มเฟือยเหล่านี้เป็นของชั่วยามและมันเป็นแค่เสี้ยววินาทีในชีวิตเรา ซึ่งกำลังผันผ่านไปสู่ความตายกันทุกคน
กลุ่มต่อไป คือ ภาพทิวทัศน์ (Landscape) ที่หลากหลาย เช่นภาพจากชนบท ชีวิตคนทั่วไปที่แสนธรรมดา หรือภาพแสดงความสุขสันต์ของกลุ่มชนชั้นสูง โดยมีฉากในสถานที่แสดงถึง คือสีสันต่าง ๆ บางคนก็วาดขึ้นจากจินตนาการในการเดินทางไปสู่ดินแดนที่ประทับใจ
จุดเด่นของหอศิลป์นี้คือภาพเกี่ยวกับเมืองยอร์ก โดยเฉพาะงานที่ได้รางวัลที่ชื่อ The Evelyn Award ซึ่งมอบให้งานศิลปะที่แสดงถึงเมืองยอร์กโดยเฉพาะในรูปแบบและแง่มุมต่างๆ มีทั้งภาพยอดฮิตอย่างเช่น หอคอยคลิฟฟอร์ด ยอร์กมินสเตอร์ ชีวิตคนทำงาน สถาปัตยกรรมและสิ่งก่อสร้างต่างๆ สะพาน ประตูเมือง โบสถ์ กำแพงเมือง บ้านเรือนในเมือง
นอกจากนั้นมีการแสดงศิลปะยุคใหม่ตั้งแต่ยุควิคตอเรียนจนถึงศิลปะร่วมสมัย อย่างเช่นงานภาพวาดพอร์ตเทรตและแบบนามธรรม (Abstract) สารพัดแบบ งานประติมากรรมในรูปแบบของเฟอร์นิเจอร์และถ้วยเซรามิคสีสดฉูดฉาดจัดตั้งเรียงบนฝาผนัง และยังมีห้องเวิร์คชอบเซรามิค ที่มีงานทดลองมากมายก่ายกองอีก
นอกจากนั้นยังมีอีกห้องหนึ่ง นำเอาสิ่งละอันพันละน้อย ที่ได้จากสถานที่ต่างๆของศิลปิน SAKI ที่ชื่อว่า The Lumber Room Unimagined Treasures นำเอาสิ่งของที่ดูแล้วน่าพิศวงมาผสมผสานกัน โดยนำมาจากแกลอรี่ พิพิธภัณฑ์ ในยุคสมัยต่างๆให้เราได้ชมรวมกัน หลายชิ้นเป็นสิ่งที่ไม่เคยแสดงมาก่อน
โดยรวมแล้ว หอศิลป์แห่งยอร์กไม่ถึงกับสิ่งที่ต้องมาชมให้ได้ แต่ถ้าได้มาจะมาชมก็ได้ ไม่เลวนักถ้าจะใช้เวลาไปกับที่นี่สักครั้งหนึ่ง
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
