Doctor Strange in the Multiverse of Madness (2022) – ข้ามพหุจักรวาลแห่งความคลั่ง
การรอคอยที่นานสุดคืออะไร? บางครั้งก็ต้องลองมองย้อนไปหลายปีดีดัก หลายครั้งเราอาจจะเคยนึกย้อนไปถึงวัยเด็กที่เฝ้าฝันถึงสิ่งที่อยากทำตอนโต แต่ก็มีหลายครั้งอีกเช่นกัน สิ่งที่เราเติบโตมาพร้อมกันในตอนเด็ก ก็ยังคงอยู่เมื่อโตขึ้น อย่างที่เคยเปรยไปในบทรีวิว Spider-Man: No Way Home ว่าเราเติบโตมาพร้อมกับ Spider-Man ฉบับของ แซม ไรมี่ และมันเป็นฉบับที่เติมเต็มวัยฝันค่อนข้างมาก และก็ไม่นึกไม่ฝันว่า เราจะได้เห็นเขากลับมากุมบังเหียนหนังฮีโร่อีกครั้งในภาคต่ออย่าง Doctor Strange in the Multiverse of Madness
Doctor Strange in the Multiverse of Madness เล่าเรื่องหลังจากเหตุการณ์ใน Spider-Man: No Way Home สตีเฟ่น สเตรนจ์ ที่ยังคงทำหน้าที่พิทักษ์อาศรมนิวยอร์ก ตื่นขึ้นจากฝันร้ายที่ตัวเขาในอีกรูปแบบถูกฆ่าขณะกำลังคุ้มครองหญิงสาวที่เดินทางข้ามมิติได้ จนกระทั่งเขาค้นพบว่า สิ่งที่เขาฝันกลับเป็นจริง สเตรนจ์ จึงต้องทำหน้าที่คุ้มครองอเมริกา ชาเวซ หญิงสาวผู้เดินทางข้ามมิติ ก่อนจะไปขอความช่วยเหลือจากวานด้า แม็กซิมอฟ ที่กำลังลี้ภัยจากเหตุที่เวสต์วิว
สรุปแล้ว Doctor Strange in the Multiverse of Madness คือหนังซูเปอร์ฮีโร่ตามมาตรฐานมาร์เวล ไม่ได้สดใหม่ เนื้อเรื่องการตามล่าที่แสนปกติ แต่ถูกนำเสนอด้วยวิสัยทัศน์การกำกับอันหวือหวามากไปด้วยกลิ่นอายสยองขวัญของแซม ไรมี่ ทำให้นี่เป็นหนึ่งในหนังมาร์เวลยุคหลังที่มีลายเซ็นต์ผู้กำกับ ฯ ชัดเจนสุด มาพร้อมปมตัวละครที่ขับเน้นน่าสนใจและการแสดงที่น่าเชื่อถือ ถึงแม้บางส่วนจะตามมาตรฐานและมีบทสรุปที่ง่ายดาย แต่มันก็ยังเป็นความพิศดารพิลึกพิลั่นที่น่าจดจำครั้งนึงของมาร์เวล