5 พ.ค. 2022 เวลา 12:53 • ประวัติศาสตร์
“ฝังคนทั้งเป็น” ตำนานสยองของไทยในบันทึกฝรั่ง
เรื่องการ "ฝังคนทั้งเป็น" ในกำแพงเมืองก็ดี ศาลหลักเมืองก็ดี
หรือสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ต่างๆ เพื่อหวังให้วิญญาณผู้ตาย เฝ้ารักษาบ้านเมือง
หรือสิ่งก่อสร้างนั้นให้ยั่งยืน เป็นตำนานที่เล่าลือกันมาในสังคม
ซึ่งไม่ใช่เพียงรับรู้กันในหมู่คนไทย ชาวต่างชาติที่เคยเข้ามาในไทย
หรือสื่อต่างชาติที่เสนอเรื่องราวเกี่ยวกับเมืองไทยก็คงรับรู้และกล่าวถึงคติความเชื่อนี้เช่นกัน
สังฆราชปาเลอกัวซ์ (พ.ศ. 2348-2405) ชาวต่างชาติที่เข้ามาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์
กล่าวถึงเรื่องนี้ไว้ใน "เล่าเรืองเมืองไทย" ว่า
"...มงซเญอร์ บรูกิแอรส์ (Monseigneur Brugiueres)
ได้เล่าไว้ในจดหมายของท่านเกี่ยวกับประเพณีการถือโชคลาภของอนารยะอันมีอยู่ในประเทศสยามก
ทุกครั้งเมื่อจะมีการสร้างประตูเมืองใหม่ ข้าพเจ้าเองก็เคยอ่านพบเหตุการณ์คล้ายๆ
นี้ในพงศาวดารสยามเหมือนกัน ข้าพเจ้าไม่ยืนยันว่าจะเป็นความจริงดังที่เล่าลือกันนัก
เขาว่ากันดังนี้:
เมื่อสร้างประตูเมืองใหม่ในกำแพงพระนคร หรือแม้เพียงซ่อมขึ้นใหม่
ไม่ทราบว่าเขาใช้กำหนดกฎถือโชคถือลางข้อไหน
ที่ว่าต้องฆ่าคนที่บริสุทธิ์คือไม่มีความผิดเสียสามคน
การกระทำอันป่าเถื่อนนั้นมีดังนี้ คือ
หลังจากที่พระเจ้าแผ่นดินได้ทรงปรึกษากับขุนนางผู้ใหญ่เป็นการลับแล้ว
ก็ส่งราชบุรุษคนหนึ่งไปที่ประตูเมืองที่จะดำเนินการซ่อมแซมนั้น นานๆ
ครั้งราชบุรุษนั้นจะทำทีตะโกนเรียกหาใครคนหนึ่งนั้นขึ้นมาดังๆ
เขาออกชื่อประตูเมืองนั้นซ้ำซากหลายครั้งหลายหน ปรากฏอยู่เนืองๆ
ว่าประชาชนที่ผ่านไปมา เมื่อได้ยินเสียงร้องเรียกทางเบื้องหลัง
ก็มักจะเหลียวหน้ามาดู
ทันใดนั้นราชบุรุษกับพวกก็จะเข้ารุมล้อมจับเอาคนที่เหลียวหน้ามาดูนั้นไปสามคน
อันเป็นที่แน่ว่าชะตาชีวิตของเขาถึงฆาตแล้ว ไม่มีการปฏิบัติใดๆ สัญญาประการใดๆ
หรือการเสียสละใดๆ ที่จะช่วยชีวิตเขาไว้ได้ เขาขุดหลุมใหญ่ขึ้นในช่องประตูเมืองนั้น
แล้วผูกเสาคานใหญ่ชักขึ้นไปเหนือหลุมนั้นในระดับสูงพอสมควร
โยงไว้ด้วยเส้นเชือกสองเส้นหัวท้ายให้เสาหรือซุงนั้นแขวนอยู่ตามทางนอน
ฉะนั้น ครั้งถึงวันกำหนดที่จะกระทำการอันทารุณนี้
ก็เลี้ยงดูผู้เคราะห์ร้ายให้อิ่มหนำสำราญแล้วแห่แหนไปที่หลุมนั้น
พระเจ้าแผ่นดินและข้าราชบริพารก็จะเสด็จและไปให้ความเคารพด้วย
พระเจ้าแผ่นดินมีรับสั่งให้บุคคลทั้งสามนั้นเฝ้าประตูเมืองไว้ด้วย
และให้เร่งแจ้งข่าวให้รู้เกลือกว่ามีอริราชศัตรูหรือผู้คิดกบฏจะยกเข้าโจมตีพระนคร
ครั้นแล้วเขาก็ตัดเชือกปล่อยให้เสาหรือซุงหล่นลงมาบนศีรษะผู้เคราะห์ร้าย
ผู้ตกเป็นเหยื่อของการถือโชคลางนั้น บี้แบนอยู่ในหลุม
คนไทยเชื่อว่าผู้เคราะห์ร้าย ผู้ตกเป็นเหยื่อของการถือโชคลางนั้น
จะกลายสภาพเป็นอารักษ์จำพวกที่เรียกกันว่า ผี (phi)
ราษฎรสามัญบางคนก็กระทำการฆาตกรรมแก่ทาสของตนในทำนองเดียวกันนี้
เพื่อใช้เป็นผีเฝ้าขุมทรัพย์ที่ตนฝังซ่อนไว้..."
ขณะที่ไกรฤกษ์ นานา นักวิชาการอิสระที่สะสมเอกสารต่างชาติเกี่ยวกับประเทศไทย
พบเรื่องราวลักษณะดังกล่าวในวารสาร A TRAVERS LE MONDE (ฉบับวันที่ 22 Aout 1905)
วารสารฝรั่งเศสที่กล่าวถึงความเชื่อเรื่องประหลาดในกรุงสยาม
เกี่ยวกับประเพณีของคนโบราณที่เชื่อถือกันว่า
เมื่อจะสร้างกำแพงเมืองขึ้นใหม่ก็ต้องประกอบพิธีทางไสยศาสตร์ โดยการนำคนเป็นๆ
มาฝังไว้ที่ประตูเมือง เพื่อวิญญาณของผู้ตายจะได้เป็นทวารบาลเฝ้าประตูเมืองต่อไป
วารสารฝรั่งเศสวาดภาพความเชื่ออันแปลกประหลาดนี้ กล่าวว่า
เป็นพิธีกรรมที่เกิดขึ้นครั้งหนึ่งบนดินแดนล้านช้าง
(ซึ่งก็คือส่วนหนึ่งของสยามประเทศ) เมื่อ ค.ศ. 1905 (พ.ศ. 2448)
โดยมีพระเจ้าแผ่นดินสยามเสด็จฯ พระราชินีและขุนนางคนสำคัญ พร้อมด้วยโหรพราหมณ์
มาทรงเป็นองค์ประธานในพิธีนี้ด้วย
เพื่อสื่อให้เห็นว่าเป็นพิธีสำคัญระดับชาติเนื่องจากเป็นสิริมงคลแก่บ้านเมือง
เป็นขวัญและกำลังใจแก่ผู้นำประเทศ แต่เป็นเรื่องงมงายในสายตาชาวตะวันตกที่ได้พบเห็น
ทว่าภายหลังที่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงก็พบว่าพิธีดังกล่าวไม่เคยเกิดขึ้นเลยในสมัยรัตนโกสินทร์
เครดิตแหล่งข้อมูล : silpa-mag.com
ที่มา:เจาะเวลาหาอดีต fb fanpage
Thanks like love comments follow all fc @min Rookie
โฆษณา