Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Bnomics
•
ติดตาม
7 พ.ค. 2022 เวลา 12:19 • ประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์ "บราซิล" มหาอำนาจเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำอเมซอน
1
เมื่อกล่าวถึงประเทศบราซิล หลายคนคงจะมีภาพจำของป่าอเมซอน นักเตะฟุตบอลระดับพระกาฬ เทศกาลคาร์นิวัล หรือรูปปั้นพระเยซูคริสต์ที่เมืองริโอ เดอ จาเนโร
แต่แท้จริงแล้ว สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงเสี้ยวเดียวของตัวตนประเทศบราซิลเพียงเท่านั้น ซึ่งมันถูกก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาจากประวัติศาสตร์ที่โดดเด่น และยากจะหาประเทศไหนมาเหมือน
และความไม่ค่อยจะเหมือนใครของบราซิล ก็กำลังเกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาด้วย ในเรื่องของ “ค่าเงิน” ที่เงิน Brazilian Real แข็งค่าขึ้นมากที่สุดสกุลหนึ่งของโลก “สวนทางกับค่าเงินของหลายประเทศกำลังพัฒนา” ที่อ่อนค่าลงไป
ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องที่ Bnomics จะนำมาเล่าในบทความนี้ครับ
📌 ประวัติศาสตร์ที่ขาดหายไป จนกระทั่งปีค.ศ. 1500
1
เรารู้ประวัติศาสตร์ช่วงก่อนปี ค.ศ. 1500 ของบราซิลน้อยมาก ถึงแม้ว่าจะพอมีหลักฐานการใช้ชีวิตของประชากรที่มีอายุอย่างน้อยประมาณ 10,000 ปี ถูกพบเจอมาบ้าง
3
แต่คนกลุ่มที่อาศัยอยู่ดั้งเดิม “ไม่สามารถประดิษฐ์ตัวอักษร” หรือ “สร้างรูปปั้นสำคัญที่บ่งบอกอารยธรรม” ใดๆ ไว้ในบราซิลเลย
ทำให้เหมือนหน้าประวัติศาสตร์ของบราซิล ที่คนภายนอกรับรู้กัน เกิดขึ้นหลังจากที่โปรตุเกสเดินทางเข้าไปยึดครองแล้วมากกว่า
1
โดยนักสำรวจชาวโปรตุเกสผู้มีชื่อว่า Pedro Álvares Cabral ได้ล่องเรือมาถึงบราซิลในปีค.ศ. 1500 และก็ได้เข้าแพร่อิทธิพลยึดครองตั้งแต่ตอนนั้น
และก็มีเกร็ดที่สำคัญคือ “บราซิลเป็นประเทศเดียวในอเมริกาใต้ที่พูดภาษาโปรตุเกส”
ที่เป็นแบบนี้ส่วนสำคัญมาจากสนธิสัญญา Treaty of Tordesillas ที่ใช้แบ่งการสำรวจโลกใหม่ระหว่างสเปนกับโปรตุเกสเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งกันเอง
โดยในตอนนั้นเส้น longitude 46° 30′ W ที่ตกลงกันมาตัดแบ่งที่ภาคตะวันออกของประเทศบราซิลพอดิบพอดี ทำให้คุณ Pedro ผู้มาเจอบราซิล ไม่ลังเลที่จะยึดครอง
ในตอนแรกบทบาทของบราซิล มีเพียงเป็นแหล่งส่งออกต้นไม้พื้นเมือง “Brazilwood” ซึ่งก็เป็นที่มาของชื่อประเทศด้วย
แต่นอกจากนั้น โปรตุเกสก็ยังค่อนข้างปล่อยปะละเลย อาณานิคมนี้ของตนเอง แต่เน้นไปทำการค้าขายกับฝั่งเอเชียมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งอินเดียที่เป็นตลาดสำคัญของโลกตะวันตกสมัยนั้น
หลังจากผ่านมาประมาณ 3 ทศวรรษ โปรตุเกสจึงเริ่มวางแผนจะ “ปกครองบราซิลอย่างมีระบบ” ผ่านการก่อตั้งรัฐบาล โดยทำการแบ่งอาณานิคมบริเวณชายฝั่งตะวันออกเป็น 15 ส่วนด้วยกัน และก็อนุญาตให้มีคนที่ได้รับความไว้ใจ
อย่างไรก็ดี สุดท้ายมีเพียงสองเขตที่ถูกแบ่งออกมาเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จ คือ São Vicente (ปัจจุบันคือ รัฐ São Paulo) และ Pernambuco
ซึ่งด้วยความล้มเหลวนี้ ทำให้ต่อมา King John III จึงได้จัดตั้งรัฐบาลกลางปกครองขึ้น เพื่อเป็นการเพิ่มอำนาจของพระองค์ต่ออาณานิคมบราซิล
ซึ่งในตอนนั้น ก็ได้ตั้งเมือง Salvador ซึ่งอยู่บริเวณทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศเป็นเมืองหลวง ที่เป็นต่อเนื่องยาวนานมากว่า 214 ปี
📌 การขยายเข้าสู่ตอนกลางของประเทศ และช่วงเวลาที่บราซิลเป็น “ที่ตั้งของรัฐบาลโปรตุเกส”
อย่างที่เล่าไปตอนต้น มันมีสนธิสัญญาที่แบ่งเขตแดนการสำรวจระหว่างโปรตุเกสและสเปนไว้ แต่ในช่วงต่อมาทางโปรตุเกสเอง ก็ได้ล้ำเส้นแดนนั้นเข้าไปสำรวจบราซิลมากยิ่งขึ้น
แต่คนที่เข้าไปสำรวจ ก็ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐโดยตรง ก็จะมีเพียงแต่ พวกมิชชันนารีที่ต้องการเผยแพร่ศาสนา พวกชาวไร่ที่หาพื้นที่ปลูกพืชสำหรับแปรรูปเป็นน้ำตาล และพวกชาวสำรวจที่ค้นหาทาส
1
ซึ่งทั้งสามกลุ่มก็ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กับบราซิล โดยเฉพาะการค้นพบชนเผ่าที่อยู่ลึกเข้าไปในอเมซอนทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือ การวางรากฐานศาสนาคริสต์ในประเทศ และการหันมาปลูกพืชสำหรับผลิตน้ำตาล ที่จะกลายเป็นสินค้าส่งออกสำคัญในช่วงถัดมา
การแพร่ขยายอาณาเขตเข้าไป ก็ยังทำให้ “ภาษาโปรตุเกส” แพร่ขยายไปในประชากรในพื้นที่ด้วย ทำให้ต่อมามีส่วนสำคัญทำให้สเปนยอมรับว่าดินแดนเหล่านี้เป็นของประเทศโปรตุเกส
3
ประวัติศาสตร์ส่วนต่อมาเป็นประวัติศาสตร์ส่วนสำคัญ ที่ทำให้บราซิลมีการวางรากฐานประเทศที่แตกต่าง และได้รับเอกราชอย่างไม่ยากเย็นมากนัก เมื่อเทียบกับอาณานิคมของตะวันตกทั่วไป
โดยต้องย้อนกลับไปช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 ในสมัยจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 (นโปเลียน โบนาปาร์ต) ตอนนั้นพระองค์ได้ทำการบุกโปรตุเกส
5
ทำให้ในตอนนั้น เจ้าชาย Dom João ที่ต่อมาคือ King John VI ตัดสินใจลี้ภัยมาที่บราซิล
3
และก็ได้วางโครงสร้างพื้นฐาน ระบบยุติธรรม การปกครอง เปิดเสรีทางการค้าของบราซิลให้ประเทศอื่นนอกจากโปรตุเกส และก็เปิดโอกาสให้บราซิลมีอุตสาหกรรมการผลิตของตัวเอง
1
แต่หลังจากนั้น เมื่อไฟสงครามในยุโรปจางลงไป ประชาชนที่โปรตุเกสก็เรียกร้องให้ King John VI เดินทางกลับไปปกครอง
จึงทำให้พระองค์ตัดสินใจเดินทางกลับไปแผ่นดินแม่ในปี 1821 แต่ก็ยังให้ลูกชายคนโต “Pedro” อยู่ในบราซิลต่อในฐานะผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน
3
แต่เท่านั้นก็ยังไม่เพียงพอ เมื่อรัฐบาลในโปรตุเกสมีความต้องการให้บราซิล “ลดฐานะ” กลับไปเป็นอาณานิคมภายใต้ตนเองอย่างเบ็ดเสร็จเหมือนเดิม และก็เรียกร้องให้ Pedro กลับไปสู่โปรตุเกสด้วย เนื่องจากกลัวว่าพระองค์จะเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในบราซิลด้วยตนเอง
1
ซึ่งความขัดแย้งก็ไม่ได้เกิดมาจากฝั่งของโปรตุเกสเพียงเท่านั้น ทางประชาชนในบราซิลเองก็ต้องการอิสรภาพเช่นเดียวกัน
จึงทำให้สุดท้าย สิ่งที่โปรตุเกสกลัวก็เกิดขึ้นจริงๆ บราซิลประกาศอิสรภาพจากโปรตุเกส โดย King Pedro I กล่าวสุนทรพจน์จับใจ ที่ถูกเรียกว่า “Fico หรือ ฉันจะอยู่ที่นี่”
3
ก่อนที่ต่อมาในปี ค.ศ. 1888 และ 1889 จะเกิดเหตุการณ์สำคัญสองอย่างพร้อมๆ กัน คือ การประกาศเลิกทาสผ่านกฎหมายทอง (Golden Law) ปลดปล่อยทาสกว่า 4 ล้านคน และก็ตามมาด้วยการเปลี่ยนระบอบการปกครองเข้าสู่ระบอบสาธารณรัฐจนถึงปัจจุบัน
1
📌 การพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ
ในช่วงเริ่มแรกของประเทศบราซิลนั้นเป็นเพียงผู้ส่งออกไม้ Brazilwood จึงยังทำให้โปรตุเกสมองข้ามไปมาก จนถึงจุดเปลี่ยนสำคัญแรก คือ การปลูกพืชสำหรับทำน้ำตาล
ซึ่งเกิดขึ้นบริเวณตอนกลางของประเทศ ก่อนที่ต่อมาจะมีการนำพืชชนิดอื่นเข้ามาปลูกในบราซิลเพิ่มเติมอีก ที่สำคัญสุด เป็นสิ่งใดไม่ได้นอกจาก “กาแฟ” ที่ปัจจุบันบราซิลคือผู้ส่งออกรายใหญ่สุดในโลก
3
ต่อมาในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18 บราซิลก็ได้ค้นพบทองคำและแร่โลหะมีค่าทางตอนใต้ของประเทศ
ซึ่งนี่เป็นการค้นพบครั้งสำคัญที่ทำให้ประชากรในประเทศอพยพไปสู่ดินแดนทางใต้มากขึ้น หลังจากเริ่มแรกเน้นตั้งถิ่นฐานบริเวณทางเหนือ
ซึ่งการปลูกพืชและทำเหมืองแร่ เป็นการงานที่เน้นแรงงานอย่างเข้มข้น จนบราซิลต้องนำทาสเข้ามาจากแอฟริกาจำนวนมาก ก่อนที่จะถูกให้อิสรภาพในปี 1888 ซึ่งตอนนั้นตัวเลขผู้ที่ได้รับการปลดปล่อยก็มีมากกว่า 4 ล้านชีวิต
1
ทรัพยากรที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของบราซิล คือ ป่าไม้ ที่แม้จะมีอยู่มาก ก็ยากที่จะออกมาใช้ได้
เพราะมันคือ ป่าอเมซอน ซึ่งเป็นพื้นที่เชิงนิเวศที่ได้รับการยอมรับว่ามีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดในโลก หลายส่วนถูกขึ้นเป็นมรดกโลก แต่ก็ยังมีข่าวว่า มีการเผาทำลายและตัดป่าเกิดขึ้น เพื่อรองรับประชากรที่เพิ่มขึ้นอยู่ตลอดมา
ซึ่งเราก็จะเห็นความจำเป็นได้จากส่วนหนึ่ง ที่ภาพในเมืองยังมีความแออัดและเหลื่อมล้ำอยู่ไม่น้อย
และบราซิลเคยเจอวิกฤติเงินเฟ้อครั้งใหญ่เกิดขึ้นช่วงก่อนปี 2000 ในตอนนั้นพวกเขาได้นำกลยุทธ์ที่ใช้ได้ผลประเทศอาร์เจนตินา มาใช้กับตัวเองบ้าง โดยตั้งชื่อว่า “Real Plan”
1
ซึ่งในตอนนี้พวกเขาก็กำลังเจอกับภาวะเงินเฟ้อสูงอย่างต่อเนื่องอยู่เช่นกัน และด้วยประวัติศาสตร์ความเจ็บช้ำจากเงินเฟ้อในวันนั้น ก็มีส่วนสำคัญให้พวกเขาตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเพื่อควบคุมระดับราคา
นอกจากนี้ ความขัดแย้งในยูเครนก็ส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกสูงขึ้น ซึ่งถ้าเป็นหลายประเทศกำลังพัฒนาก็คงจะเจอแต่ผลกระทบด้านลบ ต่างจากบราซิลที่เป็นผู้ส่งออกสินค้าเหล่านี้ด้วย ที่ได้ประโยชน์จากราคาที่สูงขึ้น
1
ทั้งสองอย่างข้างต้น ทำให้มีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้ามาสู่บราซิลในช่วงต้นปีที่ผ่านมา จนทำให้ค่าเงิน Brazilian Real แข็งค่าขึ้นมากที่สุดสกุลหนึ่งของโลกในปีนี้
ซึ่งก็เป็นสิ่งที่แตกต่าง สวนทางกับหลายประเทศกำลังพัฒนาในโลก ทำให้นึกย้อนไปถึงประวัติศาสตร์ของบราซิล ที่มีช่วงเวลาที่พิเศษจนถูกยกระดับมาเป็นที่ตั้งของรัฐบาลของเจ้าอาณานิคมในช่วงหนึ่งขึ้นมา จนนำมาเล่าเป็นบทความนี้ให้ทุกท่านครับ
1
ผู้เขียน : ณัฐนันท์ รำเพย Economist, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
▶️ ติดตามช่องทางของ Bnomics ได้ที่
Website :
https://www.bnomics.co
Facebook :
https://www.facebook.com/Bnomics.co
Blockdit :
https://www.blockdit.com/bnomics
Line OA : @Bnomics
https://bit.ly/3eYkTJC
Youtube :
https://www.youtube.com/bnomics
Twitter :
https://twitter.com/bnomics_co
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
Reference :
●
https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-04-18/-in-bald-guy-we-trust-a-currency-analyst-goes-viral-in-brazil
●
https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-03-24/brazilian-real-climbs-to-strongest-level-since-march-2020
●
https://www.insightguides.com/destinations/south-america/brazil/historical-highlights
●
https://ditp.go.th/contents_attach/81555/81555.pdf
●
https://www.britannica.com/place/Brazil/History
●
https://en.wikipedia.org/wiki/History_of_Brazil
เครดิตภาพ : The Brazilian Report
ประเทศบราซิล
กาแฟ
ประวัติศาสตร์
47 บันทึก
36
3
33
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
All About History
47
36
3
33
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย