Sonic the Hedgehog 2 (2022) – เม่นวิ่งซิ่งมาเจอเพื่อนใหม่
ไม่ใช่เรื่องประหลาด หากความสำเร็จของหนังเรื่องหนึ่งจะสานต่อกลายเป็นแฟรนไชส์ ถึงแม้ว่าหน้าหนังในคราวแรกจะไม่น่าซื้อ แต่กลับกันแค่การกุมบังเหียนและรู้ตำแหน่งตัวเองที่ดี ก็สามารถพลิกจากนรกให้กลายเป็นความสำเร็จได้ อย่างเช่น Sonic the Hedgehog 2 ที่เป็นหลักฐานเชิงรูปธรรมที่การันตีความสำเร็จของภาคแรกได้ค่อนข้างดี และเป็นการตอกฝาโลงอาถรรพ์การสร้างหนังจากเกมเป็นที่เรียบร้อย
Sonic the Hedgehog 2 เล่าเรื่องหลังเหตุการณ์ในภาคแรก โซนิค เจ้าเม่นพลังไฟฟ้า ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านร่วมกันกับทอมและแมดดี้ และพยายามแอบทำตัวเป็นฮีโร่ช่วยเหลือผู้คนในเมือง จนกระทั่งวันหนึ่ง ดร.โรบอตนิค ที่น่าจะถูกปล่อยทิ้งไว้บนดาวเคราะห์เห็ด สามารถเดินทางกลับมายังโลกได้ ทุกอย่างเหมือนจะแย่ไม่พอ เมื่อเขาพาอริเก่าของโซนิคอย่าง “นัคเคิ้ลส์” มาด้วย แต่ในช่วงเวลาเดียวกันนี่เอง โซนิค ก็ถูก “เทลส์” ช่วยเหลือไว้ ทั้งสองจึงต้องรวมพลังกันเพื่อปกป้องโลกจากเป้าหมายแอบแฝงของดร.โรบอตนิค
ใช้เวลานานกว่าจะได้ชมภาคต่อเรื่องนี้ ซึ่งต้องสารภาพตามตรงว่าไม่ได้เป็นแฟนภาคแรกเท่าไหร่นัก นอกเหนือจากส่วนตัวชื่นชอบ จิม แคร์รี มาก การได้ดูการแสดงล้น ๆ ชวนฮาแบบเดียวกับที่เคยเห็นในวัยเด็ก จึงเป็นหนึ่งในความสุขมาก ๆ จากในหนังเรื่องนี้ ตัวหนังเริ่มต้นเปิดมาด้วยฉากบนดาวเคราะห์เห็ด ก่อนที่จะพาเรากลับไปยังโลก ซึ่งโซนิคยังคงเป็นเจ้าเม่นจอมทะเล้นเช่นเคย เพียงแต่เขาต้องรับมืออุปสรรคใหญ่สุดอย่างนัคเคิ้ลส์ ตัวหนังดำเนินตามสูตรแบบภาคแรก มีการปูบทไปยังฉากแอ็คชั่นน่าตื่นตา มีงานสร้างที่ดูใหญ่โตขึ้น หากเทียบกับภาคแรก ก่อนจะแทรกมาด้วยมุกขำ ๆ เป็นระยะ
ถือว่าหนังชาญฉลาดที่ยังคงจับตำแหน่งตัวเองถูก ด้วยการเป็นหนังที่สามารถดูได้ทั้งครอบครัว ปมประเด็นปัญหาต่าง ๆ ที่ใส่เข้ามาแต่ก็ถูกเล่าอย่างพอประมาณ สอดแทรกด้วยจังหวะที่สร้างความบันเทิงอยู่ในทุกขณะ ผ่านฉากสู้ไล่ล่าน่าตื่นตา ฉากขำขันน้อยใหญ่ที่ประดังมาไม่หยุด โดยเฉพาะฉากไฮไลท์ช่วงกลางเรื่องที่คนน่าจดจำได้ จากการแสดงเล่นสีหน้าสีตาของ นาตาชา ร็อธเวลล์ ที่สร้างเสียงหัวเราะได้มากสุดในเรื่องนี้
อีกทั้งการที่ตัวหนังมีตัวละครอย่าง นัคเคิ้ลส์ และ เทลส์ เข้ามา ก็กลายเป็นการเพิ่มสีสันให้กับหนังได้มากขึ้น จากบุคลิกตัวละครที่ค่อนข้างแตกต่าง ก็สร้างสถานการณ์ที่สร้างเสียงหัวเราะได้หลากหลายขึ้น แถมตัวหนังภาคนี้ก็ถูกออกแบบวิธีการดำเนินเรื่องที่นำสู่ฉากไคลแมกซ์ที่ยิ่งใหญ่กว่าภาคที่แล้วพอสมควร
กระนั้นเอง มันยังคงเป็นความบันเทิงในครอบครัวที่ดูง่าย ทั้งจุดพลิกผันที่คาดเดาได้มาตั้งแต่เนิ่น ๆ การดำเนินเนื้อเรื่องที่เดินไปตามขนบของหนังแนวนี้ไปจนถึงบทสรุปของเรื่อง ก็ไม่มีอะไรที่เกินคาดเสียเท่าไหร่ รวมถึงตัวหนังก็ยังประสบปัญหาแบบเดียวกันกับภาคแรก คือช่วงแรกของหนังดำเนินไปอย่างเรียบเฉยไม่หวือหวาเสียเท่าไหร่ อีกทั้งฉากไฮไลท์กลางเรื่อง ที่แม้จะสร้างเสียงฮา แต่ก็ดูแปลกประหลาดและไม่สมเหตุสมผลเอามาก ๆ เหมือนกัน แต่ถ้ามองในแง่ความบันเทิง ก็ถือว่ามันสอบผ่านได้สบาย
สรุปแล้ว Sonic the Hedgehog 2 คือหนังแอ็คชั่นผจญภัย ที่ภาคนี้ขยายสเกลความใหญ่ขึ้นแต่ยังรักษาตำแหน่งของตัวเองได้อย่างดีที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย การใส่ตัวละครเข้ามาซึ่งช่วยเพิ่มสีสันเข้ากับหนัง และเต็มไปด้วยช่วงเวลาสร้างเสียงหัวเราะมากมาย โดยเฉพาะช่วงกลางเรื่องที่เปี่ยมไปด้วยความหฤหรรษ์ ที่แม้จะแปลกแยกแต่ก็บันเทิงพอสมควร ส่วนที่เหลือ ถ้าหากเป็นคนชอบภาคแรก ก็น่าจะสนุกกับภาคนี้อยู่ไม่น้อย
3 / 5
Directed by Jeff Fowler
Screenplay by Pat Casey & Josh Miller and John Whittington
Story by Pat Casey & Josh Miller
Based on "Sonic the Hedgehog" by Sega
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
