16 พ.ค. 2022 เวลา 15:48 • หุ้น & เศรษฐกิจ
## TASCO ##
บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน)
หุ้นขายยางมะตอย เจ้าเดียวในประเทศไทยและเป็นเจ้าใหญ่ในตลาด โดยเป็นการร่วมทุนของ บ. CORAS จากฝรั่งเศส กับกลุ่มทิปโก้
ตลาดหลักๆคือทำถนน ทั้งถนนใหม่และซ่อมแซมถนนเก่า ซึ่งจะผูกกับงบประมาณรัฐซะเยอะ ปีไหนงบทำถนนเยอะ ยอดซื้อยางมะตอยก็เยอะ บ.ก็กำไรเยอะไปด้วย กับอีกส่วนคือต้นทุนซึ่งก็จะเกี่ยวพันไปกับราคาน้ำมัน เพราะยางมะตอยเป็นผลิตผลจากน้ำมันอีกที กับธุรกิจอีกส่วนเป็นก่อสร้างซึ่งก็เข้าใจว่างานหลักๆ คือทำถนน แต่สัดส่วนรายได้ยังน้อยอยู่
✍️ Good ? ตัวธุรกิจ ย้อนหลังก็มีการเติบโตบ้าง แต่ไม่ค่อยเยอะ ดูแนวโน้มผลประกอบการอาจจะยากหน่อย โดยเฉพาะสองปีหลังนี้ เพราะมีปัจจัยเยอะ ทั้งราคาน้ำมัน งบภาครัฐ สถานการณ์โควิด แต่ที่แน่ๆ คือ ในหลายๆสถานการณ์แย่ๆนั้น บ. ก็ยังทำกำไรได้อยู่ แสดงว่า บ. ก็มีความแข็งแกร่งใช้ได้
หุ้นตัวนี้มองดูแล้วก็เป็นหุ้นสินค้าจำเป็น รัฐยังไงก็ต้องทำถนน มีการใช้แล้วหมดไป ต้องมีการซื้อซ้ำเพราะถนนก็มีอายุของมัน ต้องซ่อมแซม ยิ่งนานไปมีถนนเยอะ ก็ยิ่งมีซ่อมแซมเยอะด้วย ตราบใดที่ยังมีการใช้ถนน ยางมะตอยก็เป็นปัจจัยหลักในการซ่อมสร้างอยู่ดี แต่ถ้าถึงยุคหนึ่งที่รถไม่มีล้อแล้ว ก็อาจจะเปลี่ยนไม่ต้องใช้ถนนก็ได้ แต่คงไม่เร็ว ในช่วง 10-20 ปีนี้ก็น่าจะยังจำเป็นต้องใช้แน่ๆ
ตรงนี้จะต่างจากพวกธุรกิจรถยนต์ ที่ยิ่งมีเทคโนโลยีใหม่ๆ พัฒนารถให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น โอกาสจะขายรถใหม่ได้ก็ยิ่งน้อยลง การเติบโตก็มีโอกาสน้อยลงไปด้วย เพราะอย่างไรดีมานด์มันก็มีจำกัด ยกตัวอย่างเช่นตอนมีโครงการรถคันแรก หลังจากนั้นก็ดีมานด์หายไปหลายปีเลย สมมติรถดีๆอายุ 10 ปียังใช้งานได้ดีอยู่ คนที่จะซื้อรถใหม่ก็น้อยลงเรื่อยๆ
เทียบกับสินค้าบางอย่างที่อายุสั้นกว่า ต้องซื้อใหม่เรื่อยๆ เช่น โทรศัพท์มือถือที่ 2-3 ปีก็ต้องซื้อใหม่ ทำให้ธุรกิจพวกนี้โตได้เรื่อยๆ ตัวยางมะตอย ทำถนนก็เช่นกัน 5-7 ปีก็ต้องรื้อทำใหม่ มันก็เลยมีโอกาสให้ บ. ขายยางมะตอยได้เรื่อยๆ
ทั้งนี้ก็ยังมีโอกาสในประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆด้วย กลุ่มอาเซียนเราก็กำลังพัฒนา ทำถนนเพิ่มเติม อันนี้ก็เป็นโอกาสให้บริษัทเติบโตได้อีก
✍️ Owner ? ในแง่ของผู้ถือหุ้นใหญ่ มี 2 กลุ่มคือ บ. CORAS จากฝรั่งเศส และกลุ่มทิปโก้ กลุ่มละประมาณ 30 % ก็ถือเป็นสัดส่วนที่ดี ควบคุมเสียงส่วนใหญ่ได้ ไล่ดูรายงานย้อนหลัง ก็เป็น 2 กลุ่มนี้ถือในสัดส่วนประมาณนี้มาตลอด เข้าใจเองว่าเขาก็น่าจะยังมีมุมมองที่ดีต่อธุรกิจอยู่
✍️ Professional ? บอร์ดเป็นส่วนผสมของ 2 กลุ่ม ซึ่งก็ดีในแง่ไม่ได้ถูกครอบงำจนเกินไป ต่างคนต่างก็น่าจะส่งผู้เชี่ยวชาญของตัวเองมา จะให้ไก่กามานั่งเล่นกินตำแหน่งอีกฝ่ายก็คงไม่ชอบใจนัก ผู้บริหารใหญ่เองก็ไม่ใช่คนในครอบครัว ผถห ใหญ่ ตีความได้ว่าเขาเอามืออาชีพมาบริหาร
✍️ Information ? บ. เข้าร่วม Oppday ทุกครั้งเลย แม้ว่าข่าวบริษัทอาจจะน้อย แต่มีการแถลงจาก บ. เองโดยตรงทุกไตรมาสเป็นอะไรที่ดีมาก ส่วนตัวลุงชอบชี้แจ้งจากบ. มากกว่าบทวิเคราะห์ของบ.หลักทรัพย์ เพราะอย่างหลังนี้ผลประโยชน์ทับซ้อนซะเยอะ ติหน่อยว่าคำชี้แจงผลประกอบการออกจะสั้นหน่อย แค่ 2 หน้า แต่ก็ด้วยตัวธุรกิจมันค่อนข้าง simple เลยอาจจะไม่ค่อยมีอะไรให้วิเคราะห์มากนัก (ไหม)
✍️ Return ? นโยบายปันที่มากกว่า 60% งบรวม ผลตอบแทนปันผลปีที่ผ่านๆมาเฉลี่ยก็ได้ค่อนข้างดี 5 ปีย้อนหลังก็เฉลี่ยได้ 5%+ จัดว่าดี แต่อาจต้องถือยาวหน่อย เพราะมีบางปีจ่ายน้อย ตามผลกำไร ทั้งนี้ผลประกอบการณ์ของ บ. จะแปรผกผันกับราคาน้ำมันค่อนข้างชัดเจน คือถ้าน้ำมันแพง ต้นทุนยางมะตอยก็จะแพง ทำให้กำไรน้อยลง ราคาน้ำมันนี้มันก็จะมีรอบๆของมัน ถ้าถือในระยะเวลาที่ยาวพอมัน มันก็จะมีทั้งปีที่แย่และปีที่ดี
ทั้งนี้ส่วนของ Capital Gain ถ้าดูจากราคาหุ้นก็จะเห็นว่ามันผันผวนหน่อย แต่ถ้าดูจาก Book Value ที่มันจะส่งผลไปถึงราคาหุ้นในระยะยาวอีกทีก็จะเห็นว่ามันเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จาก 6 บาทต้นๆ ในปี 58 มาเป็น 9.74 ในปี 64
✍️ Enjoy ? ตัวธุรกิจในระยะกลางเกิน 4-5 ปี มีโอกาสเติบโตตามโครงสร้างพื้นฐานคือถนน ที่ก็มีทั้งซ่อมทั้งสร้าง แต่ทั้งนี้ผลประกอบการ กำไรอาจจะไม่ค่อยนิ่งเพราะมีหลายปัจจัยทั้งงบรัฐ ราคาน้ำมัน แต่ยังไงก็ถือว่าเป็นของจำเป็นที่ต้องใช้งานอยู่ ไม่น่าขาดหายไปไหน ไม่น่าเจ็งในเร็ววันนี้
ส่วนตัวลุงว่าถือแล้วนอนหลับสนิท ถือยาวน่ะได้ แต่เนื่องจากมันเป็นรอบๆ ถ้าในช่วงที่ราคาน้ำมันสูงๆ ก็จะทำให้ผลงาน บ. แย่หน่อย ราคาก็จะตกลง ก็เป็นจังหวะให้เก็บหุ้น แล้วเมื่อราคาน้ำมันลง ซึ่งส่งผลให้กำไร บ. ดีขึ้น ราคาดีขึ้น ก็ค่อยขายไป ก็เป็นกลยุทธ์ที่ดีทีเดียว

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา