กว่าจะเป็นตู้เย็น: ตอนที่ 4 ไม่มีใครล่วงรู้อนาคต
1. เงาที่บดบังไอน์สไตน์
ยังจำได้ใช่มั้ยครับว่าในตอนที่ 3 เราพูดถึงตู้เย็นของคุณ Einstein และ Szilard
เนื่องจากเกิด “The Great Depression” ส่งผลให้ผลงานของพวกเขาเงินทุนที่จะสนับสนุน
แม้กระทั่งการผลิตต้นแบบ (Prototype) สักตัวขึ้นก็ยังไม่มี
และที่สำคัญก่อนที่ทั้งสองจะได้กลับมาตั้งตัวกันใหม่ ก็มีการค้นพบ “สารทำความเย็นที่ไม่เป็นพิษต่อมนุษย์” แล้ว
สารที่ว่าคือ “Dichlorofluoromethane” ซึ่งเป็นสารในกลุ่ม “CFCs” ที่เรารู้จักกันนั่นเอง
2. ชื่อของเขาคือ “โทมัส”
คุณ Thomas Midgley Jr.
ผู้อยู่เบื้องหลังสารดังกล่าวคือ คุณ Thomas Midgley Jr.
ผลงานของเขาไม่ได้มีแค่สารในกลุ่ม “CFCs” อย่างเดียวเท่านั้น
รู้จัก “น้ำมันที่มีสารตะกั่ว” มั้ยครับ เขาก็เป็นคนที่ค้นพบ “สาร” ดังกล่าวขึ้นด้วยมาเช่นกัน (ช่วง ค.ศ. 1921)
สมัยน้้นจริงๆ ยังไม่ค่อยมีใครรู้หรอกครับว่า “ตะกั่ว” อันตราย
แต่ “ตัวเขาเอง” นั้นรู้อยู่แก่ใจ เพราะเป็นคนที่ได้รับผลกระทบจากการทดลองด้วย
อย่างไรก็ตามด้วยคุณสมบัติของ “TEL” (Tetraethyllead) ซึ่งมี “ตะกั่วเป็นองค์ประกอบ” ที่ช่วยแก้ไขปัญหาเครื่องน็อคได้
ร่วมกับทางบริษัทที่เขาทำงานให้ (General Motors) เห็นดีเห็นงาม จึงนำน้ำมันที่มีสาร “TEL” ออกวางขายสู่ตลาดในแบรนด์ชื่อ “Ethyl” ในท้ายที่สุด (แล้วไม่ได้บอกด้วยนะว่ามีตะกั่ว 😂)
ไม่บอกไม่รู้เลยครับว่ามีสาร TEL ด้วย
แถมในภายหลังเขาก็ยังได้รับเหรียญ “์Nicholas Medal” จาก ACS (สมาคมเคมมีอเมริกัน)
ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้แก่คนที่มีผลงานโดดเด่นในสาขาเคมีอีกด้วยนะ
(รู้ความจริงนี่แทบจะร้องไห้กันเลยนะ 😂)
3. กำเนิดสาร CFCs
ต่อมาในช่วงปี ค.ศ.1930 เมื่อมีข่าวว่าตู้เย็นนั้นทำให้คน “ตาย” ส่งผลให้ยอดขายตู้เย็นนั้นแทบจะดิ่งลงเหว
ในเวลานั้นเขาเองคือชายผู้นำ Einstein ไปอย่างขาดลอย (ด้วยความพร้อมในหลายๆ ด้านที่มากกว่า)
ด้วยการค้นพบ “CFCs” ชนิดแรกของโลก ที่มีชื่อว่า “Dichlorofluoromethane” ภายใต้คอนเซปต์ “ไม่เป็นพิษ และไม่ติดไฟ”
Dichlorofluoromethane ชื่อยาว แต่จริงๆแล้วเล็กแค่นี้ (Tomaxer at English Wikipedia, Public domain, via Wikimedia Commons)
แน่นอนว่าผลงานดีขนาดนี้ ไม่วายที่เขาจะได้รับรางวัลจาก ACS ชื่อเสียง เกียรติยศ ที่ตามมาเป็นหางว่าว
แต่น่าเสียดายที่อีกประมาณ 10 ปีหลังจากความประสบสำเร็จครั้งนั้นเขาก็ได้ป่วยจากโรค “โปลิโอ” (แขนขาลีบ อ่อนแรง)
ส่งผลให้เขาต้องเป็นผู้ป่วยติดเตียง แล้วเสียชีวิตในเวลาต่อมาหลังจากนั้นไม่นาน
4. แม้จากไปแต่สิ่งที่สร้างไว้ยังคงอยู่
แม้คุณ Thomas จะได้จากไปแล้ว แต่สิ่งที่เขาได้สร้างขึ้นนั้นยังคงอยู่
อย่างไรก็ตามภายหลังผลงาน “เลื่องชื่อ” ของเขาทั้งสองชิ้นก็ค่อยๆ ถูกแบนอย่างช้าๆ ตลอดเวลาที่ผ่านมา
ปัจจุบัน “น้ำมันที่มีสารตะกั่ว” ได้หมดไปจากโลกอย่างเป็นทางการแล้ว
จากผลบังคับใช้ของ "Clean Air Act" หรือ "พ.ร.บ. อากาศสะอาด"
แต่น่าเศร้าที่ “CFCs” นั้นยังไม่มีคำประกาศว่าหมดไปจากโลก
มีเพียงคำว่า “เลิกใช้” (phase out) หรือใช้สารอื่นที่ทำลายชั้นบรรยากาศน้อยลงทดแทนเพียงเท่านั้นครับ
(ซึ่งไม่ได้ดีไปกว่า CFCs เลย แต่คาดว่าบางตัวจะถูกยกเลิกใช้เช่นกัน ภายในปี 2030 ครับ)
แม้ผลกระทบอาจจะน้อยลง แต่ก็ไม่ได้มีตัวไหนที่ดีต่อโลกครับ (This picture is from les.mitsubishielectric.co.uk)
- ●อ้างอิง
การหมดไปของน้ำมันที่มีสารตะกั่ว
สารทดแทน CFCs ที่ทำลายชั้นโอโซนกำลังจะถูกห้ามใช้
Refrigerants – a new focus on GWP
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
