Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
7 Days 7 ways
•
ติดตาม
30 พ.ค. 2022 เวลา 02:14 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
ระยะนี้คอลัมน์จะเบียดๆกัน ของวันอาทิตย์เลยมาวันจันทร์ 555
ส่วนของวันจันทร์นักเขียนของด
ติดภารกิจค่ะ มาคะมา...สปอยซีรี่ย์กัน :)
รีวิวสิวๆโดยดู๊ดตี้
คอลัมน์ ดูตาแตก
ซีรี่ย์เรื่อง Scholar who walks the night (2015) บัณฑิตรัตติกาล
จำนวน 20 ตอน
แนว Period , Romantic drama, Fantacy
นำแสดงโดย อีจุนกิ, อียูบี, อีซูฮยอก, คิมโซอึน, จางฮีจิน, ชเว แทฮวาน, มูจินซุง
cr.google
ส่วนตัวแล้วดู๊ดตี้ไม่ได้คาดหวังอะไรกับซีรี่ย์เรื่องนี้มากนัก ประสาคลั่งรักอีจุนกิ ก็ตามเก็บตามชมดอมดมผลงานของอีจุนกิไปเรื่อยๆ อีกทั้งยังอยากชมอีจุนกิในคราบแวมไพร์ตาแดงสุดเท่ ที่บทบาทนี้ช่างลงตัวเหมาะเหม็งกับจุนกิมาก ด้วยตาเฉี่ยวๆ จมูกโด่งๆ แสนร้ายกาจของเขา บอกได้คำเดียวว่ามัน “ใช่”
cr.google
แต่ระหว่างการรับชมรอบแรก ที่ดูไปเรื่อยๆ ก็ค้นพบว่าบทพูดของตัวละครในซีรี่ย์นั้น ช่างมีสาระโดนใจจริงเชียว...พูดเรื่องความเท่าเทียมกันของมนุษย์ การเมือง การปกครอง (แบบเบาๆนะ)ที่มันดูทันสมัย แตกต่างจากเนื้อหาสาระของซีรี่ย์พีเรียดเกาหลีเรื่องอื่นๆ ก็เกิดอาการเอ๊ะๆ แล้วเลยต้องไปค้นหาข้อมูลว่าใครน้า ? เขียนบทซีรี่ย์เรื่องนี้
จึงรู้มาว่าซีรี่ย์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจาก Manhwa (มันฮวา) หรือการ์ตูนช่องของเกาหลี เหมือน Manga (มังงะ) ของญี่ปุ่น ในชื่อเรื่องเดียวกัน เขียนโดย Jo Joo-hee วาดโดย Han Seung-hee ซึ่งโด่งดังในโลกเว็ปตูน
cr.google
cr.google
cr.google
cr.google
ส่วนซีรี่ย์นักเขียนบท คือ จางฮยอนจู ที่เคยเขียนบทละครเรื่อง 'Coffee Prince' (ข้อมูลจาก
https://www.popcornfor2.com/
)
การ casting นักแสดงมารับบทต่างๆ ก็ถือว่ายอดเยี่ยม ตาถึงเป็นอย่างมาก ขอพูดถึงบทพระเอก บัณฑิตคิมซองยอล ที่อีจุนกิได้รับบทนี้ไป มีข่าวเมาท์มอยว่าในช่วงแรกที่มีการสร้างซีรี่ย์เรื่องนี้ ลือกันแซ่ดว่ามีพระเอกเข้าชิงตำแหน่งแวมไพร์สายเท่อยู่ 2 คน นั่นก็คือ คิมซูฮยอน กับ พัคแฮจิน
ที่ดู๊ตตี้ว่าก็ไม่แมชท์เท่าไหร่ ก็หล่อแหละนะ แต่ก็หล่อแบบพระเอกทั่วไป แต่ท้ายที่สุดเมื่อเป็นอีจุนกิ นี่แหละใช่ เขาเกิดมาเพื่อเป็นแวมไพร์ที่เท่ที่สุดใน 3 โลก
cr.google
ส่วนอียูนบี นางเอกของเรื่องก็พูดเลยว่าหลุดมาจากเว็ปตูนเลยเหอะ เด๊ะมาก น่ารัก สดใส ตาโตแบ๊วๆ เล่นบทนี้ได้น่ารัก น่าเอ็นดูจริงๆ
ส่วนอีกตัวละครที่ไม่พูดถึง....ไม่ด้ายยยยเด็ดขาด...แวมไพร์ตัวพ่ออย่างควี แม้ไม่ได้เหมือนตัวละครในเว็ปตูนเด๊ะๆ แต่ออร่าแวมไพร์ พุ่งแรงดีมาก เรียกว่าดีเด่ไม่น้อยไปกว่าอีจุนกิเลย ตาแข็งๆจมูกโด่งมากๆ ความอำมหิตก็ทะลักล้น
นักแสดงชายในเรื่อง cr.google
• การ casting เลือกตัวละคร 10 เต็ม 10 ค่ะ
เรื่องราวของบัณฑิตรัตติกาลเกิดขึ้นในสมัยโชซอน ในวังหลวงมีแวมไพร์ทรงพลังอย่าง ควี (รับบทโดยอีซูฮยอก) เป็นผู้กุมอำนาจ ชักใยอยู่เบื้องหลังพระราชามานับร้อยๆปี โดยควีเคยเป็นนักล่าแวมไพร์ หรือแวมไพร์สายดีที่คอยล่า ฆ่าแวมไพร์นอกรีต ทำงานรับใช้แฮซอเจ้านายแวมไพร์สายดี
แต่อยู่มาวันหนึ่งควีก็ได้ไปทำข้อตกลงกับพระเจ้าแทโจ ในสมัยโครยอที่อยู่ในช่วงขาลงร่อแร่และใกล้ล่มสลาย พระเจ้าแทโจเสนอให้ควีช่วยกำจัดศัตรูให้สิ้นซาก แลกกับชีวิตสะดวกสบายในวังหลวงและการครองราชย์ร่วมกันกับทายาทพระราชา...ชั่วลูก ชั่วหลาน
cr.google
คืนหนึ่งเมื่อพระจันทร์เต็มดวง ควีดำเนินพิธีกรรมดูดเลือดนางสนมของพระราชา ต่อหน้าพระราชา เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีของพระราชาที่มีต่อควี พระราชาต้องทนดูภาพสยดสยองแบบนี้มาอย่างยาวนาน แต่ก็ต้องยอมจำนนต่อควี ด้วยความกลัวในพลังอำนาจของแวมไพร์
cr.google
องค์ชายจางฮยอนบุตรชายของพระราชา ออกเที่ยวเล่นนอกวังพร้อมกับเพื่อนสนิทบัณฑิตคิมซองยอล (รับบทโดยอีจุนกิ) ที่คอยดูแลทุกเรื่องให้กับองค์ชาย บัณฑิตคิมเป็นบัณฑิตแห่งฮงมุนกวาน สถานศึกษาในช่วงราชวงศ์โชซอน มีหน้าที่จดบันทึกประวัติศาสตร์ในรัชสมัยนั้น
องค์ชายจางฮยอนชอบประพันธ์นวนิยายวาบหวิวประโลมโลก สอดแทรกเรื่องราวความจริงต่างๆ และใช้นามปากกาว่า “ศิษย์กลัดมัน” พระองค์ทรงแต่งเรื่องตำนานผีดูดเลือด เล่าเรื่องผีดูดเลือดควีที่อาศัยอยู่ในวัง ช่วงของการแต่งเรื่องนี้พระองค์ได้ค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับผีดูดเลือดอย่างมากมาย
องค์ชายให้บัณฑิตคิมช่วยวิจารณ์นวนิยายที่พระองค์แต่ง ในตอนแรกบัณฑิตคิมปฏิเสธ แต่โดนองค์ชายแกล้ง โดยบอกว่าจะแต่งนวนิยายเรื่องใหม่เกี่ยวกับบัณฑิตคิมและมยองฮี แฟนสาวที่กำลังจะแต่งงาน บัณฑิตคิมจึงต้องตกลงยอมวิจารณ์นวนิยายให้ ด้วยกลัวว่าจะกลายเป็นตัวละครในนิยายวาบหวิวขององค์ชาย
องค์ชายต้องเสด็จกลับวัง เพราะมีทหารองครักษ์คอยติดตาม จนเป็นเหตุให้ปะทะกับบัณฑิตคิม องค์ชายห้ามบัณฑิตคิมให้หยุดการต่อสู้ เพราะทหารเหล่านี้เป็นคนในวังและยอมกลับวังแต่โดยดี
เมื่อบัณฑิตคิมแยกจากองค์ชาย เขาเดินทางกลับบ้าน และลักลอบไปพบมยองฮีแฟนสาวก่อนการแต่งงาน มยองฮี (รับบทโดยคิมโซอึน) เป็นเด็กที่พ่อ-แม่ของ
บัณฑิตคิมรับมาเลี้ยงในบ้าน ตั้งแต่ยังเล็กๆ แต่เกิดตกหลุมรักกันขึ้นมาโดยแม่ของบัณฑิตคิมไม่เห็นด้วย แต่ด้วยความรักต่อลูกชาย จึงยอมให้แต่งงานให้ถูกต้อง
บัณฑิตคิมพักผ่อนอยู่ในห้องส่วนตัว และเปิดดูนวนิยาย “ตำนานผีดูดเลือด” เขาค่อยๆอ่านและดูภาพประกอบ แล้วก็นึกได้ว่าองค์ชายหมกมุ่นค้นคว้าเรื่องผีดูดเลือดเป็นอย่างมาก จึงรู้สึกแปลกๆ
เมื่อองค์ชายกลับวังก็พบพระราชาและศพของนางสนม พระราชาบอกว่าในฐานะองค์รัชทายาทให้ตัดสินใจจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง พระองค์จึงเผาศพนางสนม อีกทั้งพระราชายังขอให้องค์ชายไปพบควีเพื่อแสดงความสวามิภักดิ์ ก่อนที่เหตุการณ์ต่างๆจะเลวร้ายไปกว่านี้
ระหว่างกำลังเผาศพนางสนม บัณฑิตคิมก็โผล่มา และถามว่าเกิดอะไรขึ้น องค์ชายบอกให้บัณฑิตคิมกลับไป และแต่งงานให้เรียบร้อยเสียก่อน ถึงจะเล่าให้ฟัง ไม่อยากให้กังวลใจอะไรก่อนงานแต่งงาน แต่บัณฑิตคิมบอกว่าเมื่อรู้เรื่องแล้วก็ไม่อาจปล่อยผ่านได้ องค์ชายจึงพาไปหาคำตอบ
บัณฑิตคิมและองค์ชายเดินอยู่ในป่าไผ่และรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างติตตาม บัณฑิตคิมจึงจูงมือองค์ชายวิ่งหนี แต่ก็ยังถูกติดตามด้วยสิ่งที่มองไม่เห็น บัณฑิตคิมต่อสู้ด้วยความกล้าหาญ และรู้ว่าสิ่งที่ติดตามนั้นเคลื่อนไหวได้อย่างว่องไว จนกระทั่งองค์ชายบอกให้หยุดต่อสู้ เพราะสิ่งที่ติดตามอยู่นี้อยู่ข้างเดียวกันกับองค์ชาย
สิ่งที่บัณฑิตคิมได้เห็น คือ คนๆหนึ่งที่เคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว เหมือนไม่ใช่คน เขาแนะนำตัวว่าเขาคือผีดูดเลือดฝ่ายดีที่ต้องการกำจัดควี และเขามีหน้าที่ปราบผีดูดเลือดนอกรีต ในฐานะนักล่าผีดูดเลือด
บัณฑิตคิมไม่เชื่อ แต่องค์ชายย้ำว่าแฮซอ (นักล่าผีดูดเลือด)ได้วางแผนปราบควีมาอย่างยาวนานถึง 200 ปี แฮซอบอกว่าเขาต้องอาศัยความร่วมมือจากมนุษย์ เพราะมนุษย์เป็นคนเชิญควีเข้ามาในชีวิต จึงต้องไล่ด้วยตัวเอง แฮซอบอกว่าคืนจันทรุปราคา ผีดูดเลือดจะอ่อนแอและเขามีแผนจะกำจัดควี คืนนั้นให้มาพบกันตามนัด
องค์ชายและบัณฑิตคิม เดินทางกลับวังและพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ องค์ชายต้องกำจัดควีให้ได้ พระองค์บอกว่า
“กษัตริย์ที่รับใช้ปีศาจ จะสร้างชาติเพื่อพสกนิกรได้อย่างไร ข้าจะบอกลูกชายให้ตามรอยรับใช้ปีศาจได้อย่างไร”
บัณฑิตคิมบอกองค์ชายว่าเมื่อยังเป็นเด็กองค์ชายเคยบอกเขาว่า “จะทรงสร้างโลกที่มนุษย์มีความสำคัญ หาใช่ความรู้ เงินทองหรือชื่อเสียง เจ้าจะช่วยข้าไม๊” ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้เขาศึกษาเล่าเรียน มีความรู้เพื่อจะช่วยเหลือพระองค์สร้างโลกอย่างที่ฝันไว้
องค์ชายบอกบัณฑิตคิมว่า ได้บันทึกวิธีการทำลายควีไว้อย่างละเอียด ถ้าวันที่เกิดจันทรุปราคราแล้วภารกิจการกำจัดควีไม่สำเร็จ พระองค์จะส่งต่อบันทึกองค์ชายจองพยอนให้กับบัณฑิตคิม เพื่อสานต่อเจตนารมณ์ขององค์ชายให้สำเร็จลุล่วงต่อไป
ควีแอบฟังการสนทนาขององค์ชายและบัณฑิตคิม และได้รับรู้แผนการการทำลายล้างตัวเอง จึงรีบชิงไปหาแฮซอ นักล่าผีดูดเลือด และฆ่าด้วยกริชพุ่มหนาม ซึ่งเป็นอาวุธประจำตัวของนักล่าผีดูดเลือดไว้ฆ่าผีดูดเลือดฝ่ายร้ายให้สิ้นซาก
จากนั้นควีกลับไปหาองค์ชายที่วังและฆ่าทิ้ง ควีบอกองค์ชายว่าจะทำลายบันทึกเล่มนี้ และจะฆ่าทุกคนที่มีชื่อบันทึกไว้ไม่ให้เหลือแม้แต่คนเดียว
ควีบอกให้ทหารตามหาบัณฑิตคิม และจับไว้ไม่ให้ออกจากวัง บัณฑิตคิมไหวตัวทันและรีบควบม้าไปหาแฮซอที่บ้าน เมื่อไปถึงมีพลังบางอย่างดูดบัณฑิตคิมเข้าบ้าน เขาจึงเห็นสภาพของแฮซอที่ชุ่มไปด้วยเลือด
แฮซอเรียกบัณฑิตคิมให้เข้ามาใกล้ๆจากนั้นก็กัดที่คอของบัณฑิตคิม แฮซอบอกว่าเป็นเพียงทางเดียวที่จะช่วยให้แผนการฆ่าควีสำเร็จได้ เข้าได้ถ่ายทอดพลังให้กับบัณฑิตคิม แต่ต่อจากนี้ก็เป็นหน้าที่ของบัณฑิตคิมแล้วล่ะ แฮซอบอก
ก่อนแฮซอจะสิ้นใจ (ตายได้จ้ะ โดนกริชพุ่มหนามเข้าให้)ได้กำชับว่าอย่าลืมสวมเสื้อคลุมสีดำตลอดเวลานะ เพราะจะทำให้ไม่ต้องกลัวแสงแดด และปลอดภัยจากควี
บัณฑิตคิมสิ้นใจและเจ็บปวดทรมานจากการกลายร่างเป็นผีดูเลือด เขาสลบไป 3 วัน ตื่นมาอีกครั้งด้วยร่างกายที่อ่อนแอ เขาเดินโซซัดโซเซ เข้ามาในเมือง (โดยไม่ลืมสวมเสื้อคลุมดำ ที่แฮซอกำชับไว้)
เขาถามชาวบ้านแถวนั้นว่าวันที่เท่าไหร่แล้ว จึงได้รู้ว่าวันนี้เป็นวันแต่งงานของเขากับมยองฮี เขาเดินต่อไปอีกและเห็นนักโทษกบฏถูกตัดหัวเสียบประจาน ซึ่งก็คือองค์ชายจองพยอน และพ่อของเขา
บัณฑิตคิมโกรธมาก ร้องไห้ด้วยความคลั่งแค้น ร่างกายเปลี่ยนเป็นผีดูเลือด ตาเป็นสีแดงและมีเขี้ยวงอก
จากนั้นเขาก็โดนทหารจับตัวไปที่ถ้ำของควี พบว่าควีจับตัวมยองฮีไว้เพื่อข่มขู่บัณฑิตคิม ตอนแรกควีตั้งใจจะฆ่าให้ตายแต่เมื่อเจอบัณฑิตคิม ที่แสดงความโกรธเกรี้ยวแบบไม่กลัวตาย ไม่เกรงกลัวความโหดเหี้ยมของควีเลย ก็เปลี่ยนใจอยากเก็บไว้ข้างกาย คอยรับใช้แทนมนุษย์
cr.google
ควีหลอกล่อให้บัณฑิตคิมดื่มเลือดของมยองฮี ก่อนที่จะตายไปเสียก่อน...เพราะเมื่อโดนผีดูดเลือดกัด ครบ 3 วันต้องดื่มเลือดมนุษย์ไม่งั้นจะตาย
บัณฑิตคิมยอมตายแต่ไม่ยอมดื่มเลือดของมยองฮี มยองฮีรู้ดีว่าบัณฑิตคิมมีภารกิจสำคัญที่ต้องทำ และจะมาตายเพื่อสังเวยรักที่มีต่อนางไม่ได้ จึงวิ่งเข้าใส่มีดของควี และขอร้องให้บัณฑิตคิมดื่มเลือดของนาง
เพื่อจะมีชีวิตรอดทำภารกิจที่องค์ชายจองพยอนมอบหมายไว้ ที่เหลือแค่บัณฑิตคิมเท่านั้นที่เป็นความหวังเดียว และความหวังสุดท้ายในการกำจัดควี เพราะทุกคนที่เกี่ยวข้องได้ล้มหายตายจากไปจนหมดสิ้น
เมื่อบัณฑิตคิมดื่มเลือดของมยองฮีแล้ว ก็สับสนในชีวิต เดินกระเซอะกระเซิงหนีออกมาจากถ้ำของควี
วันเวลาผ่านไป....อีก 120 ปีต่อมา โจยางซอนหนุ่มน้อย หน้าตาน่ารัก(รับบทโดยอียูบี)เดินเล่นในตลาด เขามีอาชีพเป็นคนขายหนังสือ ทั้งหนังสือต้องห้าม หนังสือหายาก หนังสือลามก เรียกว่าขายหนังสือทุกรูปแบบ
cr.google
เขาได้รับออเดอร์จากบัณฑิตคิมซองยอล ซึ่งเพิ่งมาถึงฮันยาง และกว้านซื้อหนังสือจำนวนมาก บัณฑิตคิมซองยอลมีห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุดในฮันยาง ซึ่งโจยางซอนชื่นชอบบัณฑิตคิมมาก เพราะชอบอ่านหนังสือเลยชอบบัณฑิตคิมผู้มีความรู้ และมีหนังสือมากมายในห้องสมุด
หนุ่มน้อยหน้าหวานรู้สึกตื่นเต้นที่ได้รับออเดอร์จำนวนมากและจะได้พบกับบัณฑิตคิมตัวเป็นๆเพื่อรับรายชื่อหนังสือที่ต้องตามหา
cr.google
โจยางซอนมาหาบัณฑิตคิมที่หอนางโลม ที่ๆบัณฑิตคิมพักอยู่ โดยมีซูฮยางมือขวาของบัณฑิตคิมเป็นเจ้าของหอนางโลมฮวายางกักนี้
การพบกันครั้งแรกของโจยางซอนและบัณฑิตคิมได้เกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้น เมื่อโจยางซอนนำกระรอกใส่แขนเสื้อมาด้วย เนื่องจากกระรอกบาดเจ็บ ชาวบ้านได้ให้โจยางซอนนำมารักษา เพราะเขาอ่านหนังสือมากและรอบรู้ทุกเรื่อง
cr.google
ระหว่างที่พูดคุยถึงรายชื่อหนังสือที่บัณฑิตคิมอยากได้ พลันกระรอกก็วิ่งปรู๊ด...จากแขนเสื้อโจยางซอนผ่านเข้าไปหลังม่านที่กั้นอยู่ ขึ้นไปไต่บนตัวบัณฑิตคิม
อารามตกใจโจยางซอนตามกระรอกเข้าไปหลังม่าน และตะปบไล่ตามเจ้ากระรอกน้อยไปบนร่างกายของบัณฑิตคิม จนจับกระรอกน้อยได้ จากนั้นโจยางซอนก็เลยเงยหน้ามองบัณฑิตคิม
cr.google
ตามคาด....ความเฉิดฉายของบัณฑิตคิมนั้นยากเกินต้านทาน ...ทั้งสายตาเฉี่ยวๆ มีเสน่ห์แบบร้ายๆ ปากบางๆแดงฉาน ทำให้โจยางซอนนิ่งงันเหมือนโดนสะกด โจยางซอนบอกบัณฑิตคิมว่า คงมีคนหลายคนเคยบอกท่านแล้วว่า “ท่านงดงามมาก”
จู่ๆบัณฑิตคิมก็ยกมือปิดจมูก เหมือนได้กลิ่นอะไรบางอย่าง โจยางซอนเห็นก็นึกว่าตัวเองตัวเหม็น เจ้ากระรอกน้อยตัวยุ่ง ก็ดั๊นกัดนิ้วมือโจยางซอนเข้าให้อีก จนเลือดไหลซิบๆ พอบัณฑิตคิมได้กลิ่นเลือด ก็เสียอาการตาแดง เขี้ยวงอกขึ้นมาทีเดียว ซูฮยางรีบเข้าไปกั้นโจยางซอนจากบัณฑิตคิม แล้วพาออกจากห้อง
นางบอกโจยางซอนว่าเดี๋ยวจะส่งรายชื่อหนังสือให้ เมื่อโจยางซอนออกไปแล้วบัณฑิตคิมบอกกับซูฮยางว่า เขาได้กลิ่นที่ยากเกินจะต้านทานจากโจยางซอน ซูฮยางรู้สึกสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
cr.google
จากนั้นเรื่องราวการตามหาบันทึกขององค์ชายจองพยอนก็เริ่มต้นขึ้น โดยบัณฑิตคิมตามหาจากเบาะแสต่างๆ และให้โจยางซอนช่วยหาในกลุ่มคนขายหนังสือ บัณฑิตคิมได้รับหนังสือ “สิ่งยั่วยวนใจพ่อลูก” เป็นนิยายประโลมโลก มีภาพและบทวาบหวิว แต่เนื้อหาสอดแทรกเรื่องราวการตายขององค์ชายซาดง ที่ถูกควีฆ่าเมื่อ 10 ปีก่อน
ในการตามหาบันทึกฯ บัณฑิตคิมพบว่ามีอีกคนที่รู้เรื่องราวของควี และพยายามตามหาบันทึกฯเหมือนกัน ซึ่งเขาสงสัยศิษย์กลัดมันผู้เขียนนิยายประโลมโลก “สิ่งยั่วยวนใจพ่อลูก” ได้คิดแผนซ้อนแผนเพื่อเปิดเผยตัวตนของศิษย์กลัดมัน
ซึ่งก็คือ องค์ชายอียุน องค์รัชทายาทที่เป็นลูกชายขององค์ชายซาดงนั่นเอง องค์ชายอียุนมีความมุ่งมั่นที่จะกำจัดควี และวางแผนต่อต้าน อีกทั้งพยายามเปิดเผยให้ประชาชนได้ทราบว่ามีผีดูดเลือดจอมวายร้ายบงการพระราชาอยู่ในวัง หวังพลังมวลชนช่วยกันโค่นล้มอำนาจชั่วร้ายของควี
cr.google
ท้ายที่สุดบัณฑิตคิมก็ร่วมมือกับองค์ชายอียุน และเมื่อพบบันทึกฯก็ยังต้องมาตีความแผนลับในการฆ่าควี ซึ่งทั้งหมดก็ลองผิด ลองถูก จนพบว่าความลับในการฆ่าควี คือ พระราชา ทหารคนสนิท บัณฑิตคิมผีดูดเลือด และลูกหลานของควี
โจยางซอนที่แท้จริงแล้วเป็นผู้หญิง และบัณฑิตคิมทราบดีมาตั้งแต่ต้น เพราะเห็นนางเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นผู้หญิงตอนชุลมุนหนีการจับกุมของทหารที่หอนางโลม และบัณฑิตคิมได้ช่วยไว้ให้รอดพ้นจากเงื้อมือทหาร โจยางซอนมีคดีติดตัวเพราะมีอาชีพเป็นคนขายหนังสือต้องห้าม แล้วยังปลอมตัวเป็นผู้ชาย
cr.google
ซึ่งถือว่าผิดกฎหมายในสมัยนั้น นอกจากเรื่องนางเป็นผู้หญิงแล้ว ความจริงที่น่าตื่นตะลึงไปกว่านั้น ก็คือ โจยางซอนเป็นทายาทสายเลือดของควี
เมื่อในอดีต ควีเคยรักกับมนุษย์ แต่เมื่อเธอทราบความจริงว่าควีเป็นผีดูดเลือด นางก็หนีไป ทิ้งให้ควีจ่อมจมอยู่กับความเสียใจ และเมื่อควีรู้ว่าทายาทสืบสายเลือดของเขาจะกลับมาฆ่าเขา จึงได้ตามเข่นฆ่า หวังให้หมดสิ้นสูญหายไปทั้งตระกูล แต่กลับกลายเป็นว่ายังคงมีชีวิตสืบสายเลือดกันมาอย่างลับๆ
วิธีกำจัดควี คือ การที่บัณฑิตคิมดื่มเลือดของโจยางซอน จะทำให้มีพลังพิเศษเหนือกว่าควีหลายเท่า และเกิดการต่อสู้กันระหว่างควีและบัณฑิตคิม จนควีเพลี่ยงพล้ำ และบัณฑิตคิมหลอกล่อควีให้โดนแสงแดดจนตาย
วิธีการดำเนินเรื่องน่าตื่นเต้นดี ถ้าเทียบกับหนังแวมไพร์ฝรั่งก็ไม่น่ากลัวเท่า แต่ก็จัดว่าดีและเป็นสไตล์ของซีรี่ย์เกาหลีที่มีรายละเอียดอื่นๆผสมผสานอย่างลงตัว ครบรสชาติ บางช่วงเวลายืดเยื้อไปบ้าง และกว่าจะพบแผนลับก็นานไปหน่อย
วิธีการที่ตัวละครใช้ชิงเหลี่ยมกันในการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยประชาชนและพระราชาให้พ้นจากอำนาจของควีผู้ชั่วร้าย คือ การใช้หนังสือ และใบปลิวสร้างกระแสในสังคม เป็นวิธีการที่ทันสมัยไม่ต่างอะไรกับปัจจุบันที่มักสร้างข่าว IO เพื่อทำลายฝ่ายตรงข้าม
อีกทั้งยังมีการสร้างภาพของควี ว่าเป็นผีดูดเลือดที่ดีที่ช่วยเหลือประชาชนในการปราบผีดูดเลือดที่ออกอาละวาดสร้างความเดือดร้อนไปทั่ว เพื่อเรียกคะแนนเสียงจากประชาชน ทั้งๆที่คนสร้างผีดูดเลือดเหล่านั้นก็คือตัวควีเอง
ทั้งเรื่องเป็นสงครามข่าวสาร ในการสร้างข่าวลวงต่างๆเพื่อหลอกล่อฝ่ายตรงข้ามให้ติดกับดัก ในระหว่างการตามล่าหาความจริงก็สอดแทรกเรื่องราวความรักของบัณฑิตคิมและโจยางซอน ที่มีความรักมั่นคงต่อกัน
โดยเริ่มแรกโจยางซอนหลงรักบัณฑิตคิมก่อน จากความที่ชอบอ่านหนังสือก็ปลาบปลื้มบัณฑิตคิมที่มีความรู้และมีห้องสมุดใหญ่โตที่รวบรวมหนังสือดีๆไว้มากมาย แล้วจึงมาตกหลุมรักจริงจังเมื่อได้พบหน้า และหลงใหลความความงดงามของบัณฑิตคิม
cr.google
ความที่โจยางซอนเป็นเด็กสาว และบัณฑิตคิมเป็นรักแรก จึงทำให้นางรักลึก ไม่สามารถตัดใจได้ แม้จะพบว่าบัณฑิตคิมเป็นผีดูดเลือดที่พร้อมฆ่าคนตาย แถมตอนหลังมาพบอีกว่าบัณฑิตคิมฆ่าพ่อของนาง แต่ทำด้วยความจำเป็น เพราะพ่อของโจยางซอนกำลังจะกลายเป็นผีดูดเลือด
ตามประสาพี่เกาที่มักเน้นให้พระเอก นางเอกมีความรักต่อกันอย่างลึกซึ้ง จนก้าวข้ามข้อจำกัดต่างๆไปได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ ท้ายที่สุดโจยางซอนก็พร้อมสละชีวิตตัวเองด้วยการให้บัณฑิตคิมดื่มเลือด เพื่อไปต่อสู้กับควี โชคดีที่นางเป็นทายาทผีดูดเลือด (ครึ่งมนุษย์ครึ่งผีดูดเลือด)เมื่อโดนดูดเลือดก็จะไม่กลายเป็นผีดูดเลือด และไม่ตายอีกด้วย รอดตัวสวยๆประสานางเอก
cr.google
ส่วนบัณฑิตคิมนั้นมีความรักมั่นคงต่อมยองฮี หญิงคนรักในอดีต และไม่เคยปรายตามองใครอีกเลยนับตั้งแต่นางตายจากไป และฝังใจที่ตัวเองดื่มเลือดนางจนทำให้นางตาย จึงไม่กล้ารักใครอีก แม้ผู้ช่วยคนสนิทอย่างซูฮยางจะพลีกายถวายชีวิตขนาดไหน บัณฑิตคิมก็ไม่เคยสนใจ
แต่เมื่อมาพบโจยางซอน ในครั้งแรกที่โจยางซอนแสดงออกว่าตกหลุมรักบัณฑิตคิม เขาก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไร คือ ไม่รู้สึก แต่กลับเป็นร่างกายของเขาที่แสดงออกอย่างโจ่งแจ้งว่า “เฮ้ย...คนนี้แหละใช่”
cr.google
อีกทั้งยังคิดว่าโจยางซอนเป็นผู้ชาย ผีดูดเลือดเวลาที่เจอคนที่ใช่หรือหญิงอันเป็นที่รัก ร่างกายไม่อาจต้านทานกลิ่นที่ยั่วยวนใจ ที่ทำให้เกิดความกระหายที่จะดื่มเลือดหญิงอันเป็นที่รัก
ร่างกายของบัณฑิตคิมฟ้องเช่นนั้น แต่ใจนั้นยังไม่รู้สึกอะไร แต่ยังไงซะความรักที่บัณฑิตคิมมีต่อโจยางซอน ก็สามารถลบล้างความรู้สึกรักที่เคยมีต่อมยองฮี
ซีรี่ย์ทำให้คนดูรู้สึกระแวงว่าควีจะใช้คนหน้าเหมือนมยองฮีมาหลอกล่อบัณฑิตคิม แต่เพียงแค่พบกันครั้งแรกกับลูกสาวท่านอัครเสนาบดี (คนหน้าเหมือนมยองฮี)
cr.google
แม้จะสติหลุดไปบ้าง แต่เขาก็รู้ได้ว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่มยองฮีที่เขารัก แม้ว่าในตอนท้ายจะโดนหลอกเอาเสื้อคลุมไปอีก แต่ก็โดนหลอกเพราะอยากบอกกับ
มยองฮีว่าเขาก้าวข้ามผ่านความรู้สึกต่างๆได้แล้ว และพร้อมจะเริ่มความรักครั้งใหม่กับโจยางซอน
พระเอกซีรี่ย์เกาหลีทุกเรื่องฉลาดมาก...รู้หน้าที่ ไม่ค่อยมีหรอกที่โดยตัวอิจฉาหรือตัวร้ายหลอกซ้ำๆให้ช้ำหรือให้นางเอกโดนรังแกเหมือนละครน้ำเน่าบ้านเรา ดูแล้วสบายใจว่าพระเอกไม่โง่ แล้วคนดูอย่างเราต้องคอยคลี่คลายเงื่อนงำ แถมยังตะโกนอยู่นอกจอเหมือนคนบ้า “ว่าไม่ใช่”...แกโดนหลอกอะไรเงี้ย
cr.google
รายละเอียดที่สะท้อนความรักของบัณฑิตคิมและโจยางซอน คือการที่มักออกไปตามหากัน ถ้าอีกฝ่ายหายไป โดยไม่เกรงกลัวอันตรายใดๆใครห้ามก็ไม่ฟัง ซีรี่ย์เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า คนรักกันต้องผลัดกันตามหาเมื่ออีกฝ่ายหายไป คนรักใครปล่อยให้อีกฝ่ายตามอยู่ฝ่ายเดียว แปลว่านั่นไม่ใช่รักแท้…… :)
cr.google
ความกุ๊กกิ๊กของบัณฑิตคิมและโจยางซอนมีให้ดูอยู่หลายฉาก รับประกันความฟินจิกหมอนกระจุยกันไป อียูบีที่รับบทเป็นโจยางซอนนั้น เหมาะกับบทนี้มาก ความน่ารักของนาง ทำให้รู้สึกเอ็นดู และหัวเราะไปด้วย นางเอกเป็นคนตลก ถือเป็นความดีงามที่โดดเด่นของซีรี่ย์เรื่องนี้เลยนะ
ส่วนอีจุนกิน้าน ดีงามเหมาะเจาะทั้งรูปร่างหน้าตา เหมาะมากกับการเป็นผีดูดเลือด แต่ที่ดีงามกว่าก็เป็นความเจ้าบทบาทที่ทำให้ทีมงานทำเอฟเฟ็ก หรือ CG เบาแรงไปอย่างมาก ทั้งตอนที่กลายร่างก็ใช้ความสามารถล้วนๆ ถ้าได้ดูเบื้องหลังการถ่ายทำจะพบว่าอีจุนกิใส่คอนแทคเลนส์ตาแดง อมเลือดไว้ในปาก และมาต่อเล็บให้ยาว นอกนั้นก็บีบเค้นอารมณ์ความรู้สึกออกมา ชนะเลิศเรื่องความเจ้าบทบาทจริงๆนะคนนี้
cr.google
นอกจากฉากกลายร่างแล้ว ยังมีฉากที่ต้องต่อสู้กับอาการปีศาจร้ายเข้าครอบงำ ซึ่งอีจุนกิก็เล่นได้สมบทบาท งานดีไม่มีผิดหวัง เท่าที่ติดตามผลงานมา มีแต่งานยาก งานดี งานง่ายๆพี่เค้าไม่ค่อยเล่นหรอก
แกนหลักของเรื่องเป็นการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยประชาชน โดยที่ตัวละครแต่ละตัวมีแผนการในการทำลายควีที่แตกต่างกันไป พระราชาเองที่ต้องสูญเสียลูกชาย คือ องค์ชายซาดง เหลือไว้แต่หลานชาย องค์ชายอียุนซึ่งเป็นองค์รัชทายาท แม้ว่าภายนอกจะจอมจำนนต่อควี
แต่ก็ทำไปด้วยความเป็นห่วงสวัสดิภาพของทุกคนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประชาชน ไม่อยากให้เกิดการสูญเสีย มีความ Compromise สูง...
แต่ในขณะเดียวกันก็พร้อมโค่นล้มควีอย่างมีชั้นเชิงและคอยช่วยเหลืออียุน ที่คอยแต่จะเปิดหน้าชกกับควีตลอดเวลา ทั้งๆที่ตัวเองมีกำลังอ่อนด้อยกว่า
บทพูดของตัวละครในหลายช่วง แสดงให้เห็นถึงลักษณะอันดีงามของชนชั้นปกครอง ความคาดหวังของผู้คนที่มีต่อสังคม
ทิ้งท้ายให้คิดแบบเอ๊ะอ๊ะ...
เมื่อควีเองก็ตกเป็นเหยื่อความบ้าอำนาจของมนุษย์อย่างพระเจ้าแทโจ จนกลายเป็นเครื่องมือเข่นฆ่าคนเห็นต่าง และสูญเสียตัวตนของความเป็นผีดูดเลือด และควียังบอกอีกว่า มนุษย์น้าน...น่ากลัวกว่าผีดูดเลือดอย่างเราๆซะอิ๊ก....
ส่วนบทพูดดีๆของตัวละครที่สะดุดใจดู๊ตตี้จนต้องหยิบยกมาเล่าให้ฟังกันก็มีดังนี้ค่ะ
EP.7 ตอนที่อียุนมาเจอโจยางซอน และได้พูดคุยกัน ณ ช่วงเวลานั้นเริ่มการต่อสู้กับควีอย่างดุเดือด และโจยางซอนต้องหนีไปต่างเมืองกับครอบครัว สถานการณ์ ณ ตอนนั้นทางการจับบัณฑิตทุกคนไปขังคุก
ก่อนหน้านั้นก็จับคนขายหนังสือไปขังคุก โจยางซอนบ่นๆว่าโลกนี้มันกลับตาลปัตรไปหมดแล้ว คนดีๆก็โดนจับ ทั้งๆที่ไม่ได้มีความผิดอะไร
โจยางซอนบอกว่าถ้าเป็นองค์ชายซาดงหรือศิษย์กลัดมันเป็นผู้ปกครองในเวลานี้ ชาวบ้านคงไม่ต้องลำบากขนาดนี้
อียุนถามว่าไม่เกลียดศิษย์กลัดมันเหรอ ที่ทำให้ชาวบ้านต้องเดือดร้อน จากสงครามการต่อสู่ระหว่างศิษย์กลัดมันและควี
โจยางซอนบอกว่า ตอนยังไม่มีศิษย์กลัดมัน ชาวบ้านก็เดือดร้อนมานานมากแล้ว
“อย่างน้อยๆเขาก็ทำให้พวกเรามีความหวัง พวกเราหวังอยากได้โลกที่ดีกว่านี้ โลกที่ทุกคนมีความหวัง”
คำคมโจยางซอน “ถ้าทำไม่สำเร็จให้ทำอีกครั้งและอีกครั้ง ถ้าท่านไม่ยอมแพ้ ท่านจะไม่มีวันแพ้ จงเชื่อมั่นไว้นะท่านพี่”
ในชีวิตจริงมีผู้คนมากมายที่ต้องเสียสละ สูญเสียอิสรภาพ หรือสังเวยชีวิตเพื่อยืนยันแนวคิดทางการเมืองตามความเชื่อของตัวเองหรือต่อสู้เพื่ออนาคตที่ดีกว่าของมวลชน
ในเรื่องนี้แผนลับกำจัดควี คือ โจยางซอนซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการฆ่าควี หลายคนลงความเห็นว่าจำเป็นต้องเสียสละชีวิตของโจยางซอนเพื่อช่วยเหลือคนหมู่มาก
แม้แต่ตัวโจยางซอนเองก็ยอมสละชีวิตเพื่อช่วยเหลือคนอื่น โดยลืมนึกถึงความรู้สึกของบัณฑิตคิม ชายคนรัก ที่จะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายหรือเอาชีวิตโจยางซอนเป็นเด็ดขาด และจะหาวิธีอื่นในการกำจัดควี
แนวคิดการสังเวย 1 ชีวิตเพื่อส่วนรวม ดู๊ตตี้เห็นว่าเป็นการแสดงออกถึงการไม่เคารพการมีชีวิตของผู้อื่น การเสียสละ 1 ชีวิตที่คิดว่าเล็กน้อย ส่งผลกระทบต่อผู้คนแวดล้อมอีกมากมายหลายชีวิต ท้ายที่สุดองค์ชายอียุนก็เลือกที่จะต่อสู้โดยไม่ต้องสังเวยชีวิตของโจยางซอน
และนับเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เกือบสังเวยชีวิตคนบริสุทธิ์ไปโดยเปล่าประโยชน์ เพราะทุกคนเข้าใจผิดคิดว่าแผนลับ คือ การให้ควีดูดเลือดโจยางซอนซึ่งสืบสายเลือดผีดูดเลือด จะทำให้ควีตาย
ในความจริงแผนลับคือให้บัณฑิตคิมดื่มเลือดของโจยางซอน จะทำให้มีพลังเหนือควี และถ้าควบคุมพลังไม่ได้ ก็อาจทำให้กลายเป็นควี 2 ที่ร้ายกาจกว่าเดิม
เป็นซีรี่ย์ที่สนุกสนาน น่าติดตาม มีสาระเบาๆให้ชวนขบคิด ดู๊ตตี้ให้คะแนน 4 ดาว ½ ค่ะ ลองหามาชมกันนะคะ :)
ไลฟ์สไตล์
เรื่องเล่า
บันทึก
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ดูตาแตก
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย