ตำนานสาวสวยผู้คลั่งแค้น Kill Bill เดือดดี...มิมีพัก....
คอลัมน์ ดูตาแตก รีวิวสิวๆโดยดู๊ตตี้
เรื่อง Kill Bill vol.1 (นางฟ้าซามูไร) (2003)
เขียนบทและกำกับโดย เควนติน ทารันติโน (Quentin Tarantino)
นักแสดง อูมา เธอร์แมน (Uma Thurman), ลูซี่ หลุย (Lucy Liu),
เดวิด คาร์ราดีน (David carradine), วิวิก้า เอ ฟ็อกส์
(Vivica A. Fox), ดาริล ฮันนาห์ (Daryl Hannah.)
cr.IMDb
“Revenge is a dish best served cold”
-old Klingon Proverb-
“การแก้แค้นเปรียบเสมือนอาหารรสเลิศ....เมื่อเสิร์ฟตอนที่เย็นแล้ว”
-ภาษิตคิงกอนโบราณ-
ในตอนแรกดู๊ตตี้ดูซีรี่ย์เรื่อง My name ที่ว่าด้วยเรื่องของการล้างแค้นของหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งก็โหดสาด (555)
ผิดรูปผิดรอยซีรี่ย์เกาหลีที่มัก Feel good พอดูจบก็รู้สึกว่าทำได้ดีทีเดียว พี่เกาเค้าไม่แพ้ชาติใดในโลก
ทำให้นึกถึงหนังดังสุดคลาสสิค เรื่อง Kill Bill ต้นตำรับหนังล้างแค้นของสาวสวย เดอะไบรด์ นักฆ่าที่พยายามเปลี่ยนชีวิตเพื่อมีชีวิตแบบคนปกติ
แต่โชคชะตาไม่เข้าข้าง เรื่องราวการล้างแค้นแบบเลือดกระฉูด ก็เริ่มต้นขึ้น
หนังเรื่อง Kill Bill ออกฉายในปี 2003 เป็นหนึ่งในผลงานอันโดดเด่นของผู้กำกับชื่อดัง เควนติน ทารันติโน เจ้าของผลงานดีๆหลายเรื่องที่ได้รับรางวัลมากมาย ทั้งออสการ์ รางวัลลูกโลกทองคำ ปาล์มทองคำ ฯลฯ ควรค่าแก่การไปหาผลงานเรื่องอื่นๆมาชมกันนะคะ
แต่ละชิ้นงานของเขาล้วนแล้วแต่มีเอกลักษณ์ เต็มไปด้วยความสดใหม่ และมีสไตล์
Kill Bill เป็นหนังที่ยำรวมความหลงใหลของ เควนติน ไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นศิลปะการต่อสู้แบบตะวันออก ทั้งซามูไร กังฟู ดารานักบู๊อย่าง บรูซ ลี นักแสดงสาวสวยอย่างอูม่า เธอร์แมน และการ์ตูนมังงะฯลฯ
โดยเขาได้ดัดแปลงเรื่องราวมาจากหนังญี่ปุ่นเรื่อง Lady Snowblood ที่ว่าด้วยเรื่องการแก้แค้นแสนระห่ำของสาวสวย ยูกิ ที่ไล่ล่าคนที่ข่มขืนและฆ่าแม่ รวมทั้งฆ่าพ่อ พี่ชายของเธอ
cr.pinterest
Kill Bill ไม่ใช่หนังที่ดีที่สุดของเควนติน แต่ฉูดฉาดด้วยความแปลกใหม่ และมีสไตล์ที่จัดจ้าน เต็มไปด้วยฉากการต่อสู้และความรุนแรง ที่สั่นคลอนความรู้สึกของคนดู ให้ตื่นเต้นตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบเรื่อง
เปิดซีนด้วยภาพขาว-ดำ เดอะไบรด์ (รับบทโดยอูม่า)หน้าตายับเยิน สะบักสะบอม ดวงตาปูดโปน เปรอะไปด้วยเลือด ได้ยินเสียงฝีเท้า และเห็นภาพย่างเท้าของผู้ชาย ตามด้วยน้ำเสียงพูดจาเนิบนาบ ที่พูดถึงความเจ็บปวดจากความวิปริตสุดๆ เสียงคลิกของลูกโม่ปืน เสียงเดอะไบรด์บอกเขาว่า “บิล ลูกของคุณนะ”ตามมาด้วยเสียงปืน และภาพเลือดกระจายบริเวณศรีษะ
cr.DVDbeaver
เริ่มซีนแรกก็ทำให้ดู๊ตตี้หายใจไม่ทั่วท้อง ภาพความสะบักสะบอมของเดอะไบรด์ทำให้อยากเบือนหน้าหนี นึกในใจว่าโชคดีที่เป็นภาพขาว-ดำ แต่กระนั้นเลยระหว่างพยายามฟังเสียงผู้ชายพูดด้วยเสียงต่ำๆเนิบนาบอยู่นั้น เสียงปืนดังปังก็เล่นเอาสะดุ้งกันเลยทีเดียวเชียวค่ะ
ตามมาด้วย Title หนังพร้อมเพลงประกอบสุดเก๋ เนื้อหาก็ชัดเจนว่าเธอรังแกฉันมาตั้งแต่เด็ก ท้ายสุดเธอก็ฆ่าฉันเข้าให้
RZA เป็น producer ให้กับ ost.ของภาพยนตร์เรื่องนี้ เพลงชื่อ "Bang Bang (My Baby Shot Me Down)" ร้องโดย Nancy Sinatra และยังมีอีกหลายๆเพลง
คั่นด้วยลูกเล่น ตัวอักษรบอกตอน Chapter One แต่เขียนตัวเลข 2 ดู๊ตตี้ถึงกับบ่นอย่างเป็นธรรมชาติว่า เอ้ายังไงบอก 1 แต่ตัวเลขที่เห็นเป็น 2 นึกว่าพิมพ์ผิดนะนั่น (555) เป็นลูกเล่นที่เควนตินตั้งใจหยิบมาใส่ เป็นเอกลักษณ์อีกอย่างของเขาที่มักสลับการเล่าเรื่องราว โดยไม่เรียงตามลำดับ ซึ่งในเนื้อเรื่องก็ไม่เรียงตามลำดับเวลาเช่นกัน
ฉากต่อมาภาพหนังย้อมสีเหลืองดูอบอุ่น เดอะไบรด์ขับรถกระบะสีเหลืองสดใสมาจอดหน้าบ้านหลังหนึ่ง บ้านสวยน่ารักสีพาสเทล สนามหญ้าหน้าบ้านมีของเล่นเกลื่อนกลาด เดอะไบรด์กดกริ่งหน้าบ้าน พอประตูเปิดออก แม่บ้านที่อยู่ในบ้านตกใจมากเมื่อเห็นเดอะไบรด์
ภาพในอดีตย้อนกลับมา การต่อสู้แสนเดือดก็เริ่มต้นขึ้น เป็นภาพการต่อสู้ของผู้หญิง 2 คนที่โหดไม่แพ้ฉากต่อสู้ของผู้ชายกันเลยทีเดียว ข้าวของเกลื่อนกลาด กระจกโต๊ะแตกกระจาย
กล้องแพลนให้เห็นการต่อสู้ของ 2 สาว เห็นภาพหน้าต่างและวิวทิวทัศน์ด้านนอก รถโรงเรียนสีเหลืองจอดหน้าบ้าน ลูกสาวตัวน้อยของหญิงแม่บ้าน ซึ่งก็ คือ เวอร์นิต้า (รับบทโดย วิวิก้า เอ ฟ็อกส์) นักฆ่าก๊วนเดียวกันกับเดอะไบรด์ในอดีต เด็กน้อยเดินเข้ามาเห็นสภาพภายในบ้าน ลูกสาวมองหน้าแม่อย่างสงสัย
2 สาวซ่อนมีดไว้ข้างหลังและแสร้งยิ้มหวาน เวอร์นิต้าบอกลูกสาวว่าเดอะไบรด์เป็นเพื่อน เดอะไบรด์แนะนำชื่อ แต่ถูกดูดเสียง (เป็นลูกเล่น เหมือนโดนเซ็นเซอร์) เวอร์นิต้าบอกให้ลูกสาวขึ้นไปรอชั้นบน และบอกลูกสาวว่าอย่าออกจากห้องจนกว่าแม่จะเรียก
จากนั้นทั้งสองก็สงบศึกชั่วครู่ เวอร์นิต้าไม่อยากให้ลูกเห็นการต่อสู้ เห็นการฆ่ากัน เลยนัดให้ไปสู้กันทีอื่น แบบเต็มที่ ระหว่างนี้ก็ชงกาแฟให้เดอะไบรด์ดื่ม ซึ่งทั้งสองคนเคยสนิทกันมาก ขนาดรู้ว่ากินกาแฟใส่ครีมเหมือนเดิมใช่ไม๊ แล้วพูดคุยกันเหมือนเพื่อนสาว
เวอร์นิต้าบอกว่าต้องทำคอนเฟล็กซ์ให้ลูก เธอหยิบกล่องคอนเฟล็กซ์จากตู้ แล้วยังพูดคุยกันปกติ ฉับพลันก็หันกล่องคอนเฟล็กซ์ที่ซ่อนปืนไว้มาทางเดอะไบรด์ เสียงปืนดังขึ้น เดอะไบรด์หลบแล้วเตะแก้วกาแฟใส่เวอร์นิต้า และขว้างมีดเสียบอกเวอร์นิต้าตาย
cr.siamzone
ระหว่างกำลังดูศพเพื่อนที่นอนจมกองเลือดอยู่ และดึงมีดที่ปักอกออก ลูกสาวของเวอร์นิต้ายืนอยู่ด้านหลังด้วยหน้าตาเรียบเฉย เดอะไบรด์หันมามองแล้วบอกเธอว่า เมื่อโตขึ้นถ้าอยากแก้แค้นก็ให้มานะ ฉันจะรอ เดอะไบรด์ขึ้นรถกระบะสีเหลืองที่ติดสติ๊กเกอร์ว่า “Pussy Wagon” แล้วขับจากไป
ความรุนแรงในซีนนี้สะเทือนความรู้สึก เป็นการต่อสู้กันของ 2 สาวต่อหน้าเด็กน้อย ทำร้ายความรู้สึกคนดูแบบไม่ปราณี ปราศรัย ขยี้ไม่ยั้งกันเลยทีเดียว
บทที่ 2 เจ้าสาวอาบเลือด
ภาพที่เกิดเหตุในวันแต่งงานของเดอะไบรด์ ในสภาพเกลื่อกลาดอาบเลือด เจ้าหน้าที่รัฐเดินสำรวจที่เกิดเหตุ นายอำเภอขับรถมาที่โบสถ์ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่รายงานว่าเป็นการสังหารหมู่ ตายทั้งหมด 9 ศพ
นายอำเภอสันนิษฐานว่ามีคนต้องการยับยั้งการแต่งงานจนยั้งมือไม่อยู่ และวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเกิดจากนักฆ่ามืออาชีพ นายอำเภอสำรวจศพของเดอะไบรด์ และพูดชมเธอว่าหมาตัวไหนนะช่างกล้าฆ่าผู้หญิงสวยๆอย่างเธอ พอพูดจบ เดอะไบรด์ก็พ่นเลือดใส่หน้านายอำเภอ ทุกคนจึงได้รู้ว่าเดะไบรด์ยังมีชีวิตอยู่
ตัดภาพไปที่โรงพยาบาล เดอะไบรด์นอนเป็นผักไม่รู้สึกตัว มีเสียงผิวปากเพลงที่คุ้นเคย ผู้หญิงผมบลอนด์สุดเซ็กซี่ (รับบทโดย ดาริล ฮันนาห์) สวมชุดสีขาวเดินเข้ามาที่โรงพยาบาล เธอปลอมตัวเป็นนางพยาบาลเพื่อมาฆ่าเดอะไบรด์และเธอคือหนึ่งในทีมนักฆ่าที่มายำเดอะไบรด์ที่งานแต่งงาน ระหว่างที่เธอกำลังจะฆ่าเดอะไบรด์ บิลก็โทรมาห้ามเธอซะก่อน และเธอบอกเดอะไบรด์ที่นอนสลบไม่รู้เรื่องว่า อย่าฟื้นขึ้นเด็ดขาด
cr.movieking
4 ปีต่อมาเดอะไบรด์ตื่น ฟื้นขึ้นมาจากการหลับใหล และพบว่าลูกสาวไม่อยู่กับเธออีกแล้ว เธอร้องไห้เสียใจอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นได้ยินเสียงคนผิวปากและกำลังเข้ามาที่ห้องของเธอ เดอะไบรด์นอนลงบนเตียง เหมือนยังป่วยเป็นผักอยู่
ผู้ชาย 2 คนเดินมาที่เตียง พูดคุยกัน บุรุษพยาบาลใช้เธอขายบริการทางเพศให้ชายอีกคนหนึ่ง โชคดีที่เดอะไบรด์รู้สึกตัวเสียแล้ว เป็นเหตุให้โชคร้ายบังเกิดแก่ผู้ชายหื่นกาม...วิตถารที่อยากมีเพศสัมพันธ์กับคนป่วยอัมพาต เดอะไบรด์ทำร้ายคนซื้อบริการจนตาย นางกัดลิ้นจ้า...ฮูย...อธิบายไม่ถูก
และนางก็เรียกสติ ลากสังขารตัวเองเตรียมหนี ก็พอดีกับที่บุรุษพยาบาลกลับมาที่ห้องคนป่วย เพื่อมาดูความเรียบร้อย เดอะไบรด์ใช้มีดพกที่เอามาจากศพคนซื้อบริการฯ ตัดเส้นเลือดที่หลังเท้า จากนั้นนางก็ลากไปที่ประตู ใช้ประตูตีหัว ถามหาบิล แต่บุรุษพยาบาลบอกไม่รู้จัก นางก็เกิดจำภาพได้เลือนลางว่าเขาเคยข่มขืนนาง นางก็จัดการต่อซะ....อย่างโหด
เดอะไบรด์พยายามหนี โดยได้กุญแจรถของบุรุษพยาบาล นางนั่งวีลแชร์ไปตามหารถที่ลานจอดรถ ลากสังขารอัมพาตครึ่งล่าง ขึ้นไปบนรถ แล้วใช้พลังจิตสั่งให้นิ้วโป้งเท้ากระดิก ในขณะที่นางสั่งหัวนิ้วโป้งเท้านั้น นางก็นึกถึงช่วงเวลาที่ถูกยำ มันก็เหมือนมีพลังงานบางอย่างที่นางต้องไปให้สุด...
cr.filmaffinity
เริ่มการแก้แค้นครั้งแรกกับรายชื่อแรก โอเร็น อิชิอิ สมาชิกหน่วยอสรพิษเพชฌฆาต
บทที่ 3 กำเนิดโอเร็น
โอเร็น (รับบทโดย ลูซี่ หลุย ) หนึ่งในสมาชิกหน่วยอสรพิษเพชรฆาตที่มาร่วมสังฆกรรมยำเดอะไบรด์ เกิดในฐานทัพสหรัฐ เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น-จีน-อเมริกัน โอเร็นต้องพบเจอความโหดร้ายตอนอายุ 9 ขวบเมื่อหัวหน้ายากูซ่าฆ่าพ่อแม่ของเธอ ภายหลังโอเร็นกลับมาแก้แค้นหัวหน้ายากูซ่าได้ เพราะเขาชอบมีเพศสัมพันธ์กับเด็ก โอเร็นแฝงตัวเข้ามาและฆ่าหัวหน้ายากูซ่าตายอย่างโหดเหี้ยม
หนังเล่าพัฒนาการชีวิตของโอเร็น ที่ฝีมือการฆ่าเป็นเลิศ อายุ 20 ก็กลายเป็นนักฆ่ายอดฝีมือของโลก อายุ 25 โอเร็นมีส่วนในการฆ่าผู้บริสุทธิ์ ในโบสถ์ ณ งานแต่งงานของเดอะไบรด์
cr.Spectrum On Demand
หลังจากเดอะไบรด์กระดิกหัวแม่เท้าได้ นางก็เดินได้ และขับรถได้ในเวลาอันรวดเร็ว (แม่เจ้า)
บทที่ 4 บุรุษแห่งโอกินาวา
เมื่อเดอะไบรด์มีความพร้อมสำหรับการล้างแค้น สิ่งที่ต้องทำลำดับต่อมา คือ การหาอาวุธที่ดี ที่เหมาะแก่การฆ่าโอเร็น เธอมาตามหาช่างฝีมือทำดาบซามูไรชื่อดัง ฮัตโตริ ฮันโซ ที่โอกินาวา
และรู้มาว่าเขามาเปิดร้านขายซูชิ จึงแวะมาพูดคุยเพื่อขอดาบซามูไรจากเขา ซึ่งฮันโซก็ให้เดอะไบรด์ค้างที่บ้าน และฝึกฝีมือการใช้ดาบ ในระหว่างที่เขาตีดาบใหม่ให้
cr.siamzone
ฮันโซเคยสาบานไว้ว่าจะไม่ตีดาบสำหรับใช้ฆ่าคนอีก แต่จำยอมตีดาบให้เดอะไบรด์ ด้วยเห็นแก่การล้างแค้นของเดอะไบรด์ตามวิถีของนักรบ ที่เมื่อลงสู่สมรภูมิแล้วจะไม่มีวันหยุด ไม่ลังเล และไม่ปราณีต่อสิ่งต่างๆที่เข้ามารบกวนจิตใจ
บทที่ 5 ดวลเดือด ณ เคหาสน์ใบไม้น้ำเงิน
1 ปีหลังการสังหารหมู่ที่เอลพาโซ (งานแต่งงานเดอะไบรด์) บิลทุ่มเงินสนับสนุนโอเร็นให้กุมอำนาจขึ้นเป็นหัวหน้ายากูซ่า และโอเร็นมีผู้ติตามที่มีฝีมือหลายคน รวมทั้งแก๊ง 88 คนคลั่ง
วันหนึ่งโอเร็นและพวกมาดื่มกินกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เดอะไบรด์ตามมาที่ร้านและเริ่มการต่อสู้เพื่อล้างแค้น โอเร็นส่งสมุนมาตัดกำลังเดอะไบรด์
cr.IMDb
และปิดท้ายที่การดวลดาบในสวนแบบญี่ปุ่นที่ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว โอเร็นเสียชีวิตจากคมดาบของเดอะไบรด์ ปิดฉากการล้างแค้นในภาค 1 และตามด้วย ภาค 2 ตามเก็บเหล่านักฆ่าที่เหลือ รวมทั้งบิลผู้บงการการฆ่าเดอะไบรด์
cr.timeout
หนังเรื่องนี้มีแกนเรื่อง คือ การล้างแค้น นำเสนอความแปลกใหม่ด้วยตัวเอกที่เป็นผู้หญิง เนื้อหาสาระของเรื่องไม่มีได้มีความซับซ้อน หรือมีสาระลึกซึ้งอะไร แต่เน้นการนำเสนอภาพที่สวยงาม มีศิลปะ
ภาพในแต่ละซีนเหมือนภาพศิลปะ แม้จะโหดเหี้ยม เลือดสาดขนาดไหน แต่ก็เป็นภาพจำที่แปลกตา และหาดูไม่ได้จากหนังเรื่องอื่นๆ นอกจากเป็นผลงาน
ของเควนติน ทาเรนติโน เท่านั้น
ความหลงใหลที่เควนตินนำเสนออีกอย่างหนึ่ง คือ การที่ตอนท้ายของเรื่อง เดอะไบรด์สวมชุดวอร์มสีเหลืองเหมือนชุดของบรูซ ลี และสวมรองเท้าผ้าใบ onitsuga Tiger สีเหลืองสุดจี๊ด
cr.main stand
วาดลวดลายการต่อสู้เป็นหนังกังฟูกันเลยทีเดียว แถมมีฉากตะลุมบอลของบรรดาชาวแกงค์ 88 คนคลั่งที่เป็นซีนหนังแอคชั่นฝั่งฮ่องกงที่ยกกันมาเป็น
ขโยงแต่ก็ตายเรียบ
cr.casecoach
ความสวยงามของภาพ และความดิบเถื่อนขยี้อารมณ์ของหนัง
• การใช้ภาพเล่าเรื่องเป็นภาพที่มีศิลปะ เช่น ภาพยุงกัดผิวหนังของเดอะไบรด์ แล้วโฟกัสเข้ามาใกล้จนเห็นความละเอียดของผิวหนัง
• ภาพกระสุนปืนที่ทะยานออกจากลูกโม่จนไฟลุกของบิลที่ติดอยู่ในหัวของเดอะไบรด์
• ความบ้าคลั่งของซีนความรุนแรง ซีนทางเพศที่ต่ำตมที่เป็นสไตล์ของเควนติน ดิบเถื่อน ซีนคนซื้อบริการทางเพศทำให้ดู๊ตตี้รู้สึกว่า..ชีวิตน้อ...จะวรนุชอะไรขนาดน้าน..ก็สบายใจอยู่บ้างที่เดอะไบรด์ได้มีโอกาสเอาคืนอย่างสาสม
• การเล่าเรื่องในบทที่ 3 ใช้มังงะเล่าเรื่อง แม้จะเป็นลายเส้นการ์ตูน แต่ความดิบเถื่อนโหดร้ายก็ยังคงเส้นคงวา มังงะเป็นอีกหนึ่งความหลงใหลของเควนติน การนำเสนอแนวนี้ถือว่าแปลกใหม่มากในสมัยนั้น
cr.david-gomez-kill-bill-ver1
• ตั้งแต่บทที่ 3 เป็นต้นไป จะมีซีน signature ของหนัง คือ เลือดสาด กระฉูดกระจายเป็นก็อกน้ำ เป็นภาพจำที่หลายคนจำได้มากกว่าเนื้อหาของหนังซะด้วยซ้ำ
• ความชั่วร้ายของเรื่องที่ฆ่าพ่อแม่ต่อหน้าเด็กยังเป็นแค่ความชั่วร้ายแบเบาะ เพราะยังมีการนำเสนอความชั่วร้ายทางเพศที่คนแก่ชอบเสพสังวาสกับเด็ก ตอกย้ำความต่ำตม รวมความวรนุชไว้ที่นี่ที่เดียว หาความดี feel good ไม่ได้ซักตอน
ในฐานะเป็นหนังล้างแค้นในตำนาน ดู๊ตตี้ให้คะแนน 5 ดาว กับการนำเสนออย่างมีศิลปะและเป็นตัวของตัวเอง เป็นหนังที่มีความแตกต่าง ให้ทั้งความระทึกขวัญ หดหู่ และร้องว้าวในเวลาเดียวกัน :)
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
