1 มิ.ย. 2022 เวลา 06:15 • อาหาร
ในที่สุดผมก็มีโอกาสมาลองรสปลาดุกของร้านดังย่านเอกมัย ร้านนี้ไม่ได้มาง่าย ๆ เพราะต้องจองกันข้ามเดือน เปิดจองเดือนละครั้ง และรับลูกค้าวันละสองโต๊ะ มือไวเท่านั้นถึงจะได้กิน
ไปถึงทั้งทีอย่าให้เสียเที่ยว ผมจัดอาหารมาเต็มโต๊ะให้สมกับที่รอคอย ประกอบด้วย ปลาดุกและพุงย่าง ปลาดุกปิ้งรสต่าง ๆ ปลาดุกทอดน้ำปลา ปลาดุกทอดยำมะม่วง เรื่องข้าวสวยไม่ต้องพูดถึง จัดไปสองถ้วยครึ่ง
ปลาดุกทอดน้ำปลาและปลาดุกทอดยำมะม่วง
ก่อนอื่นขอบอกว่า ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบกินปลาเป็นทุนเดิม และปลาดุกเป็นปลาอีกชนิดที่โปรดปรานมาก ไม่ว่าจะเป็น ยำปลาดุกฟู ปลาดุกย่าง ลาบปลาดุก และปลาดุกผัดเผ็ด เรียกได้ว่าไปนั่งร้านส้มตำหรือร้านข้าวต้มเป็นอันต้องมีเมนูปลาดุกติดโต๊ะมานิดหน่อย
ส่วนตัวผมคิดว่าปลาดุกน่าสงสารเพราะถูก underrated ไปหน่อย อาจจะด้วยความที่เป็นปลาหนัง มีไลฟ์สไตล์แบบคลุกขี้โคลน เราจึงพบเมนูปลาดุกน้อยกว่าปลาชนิดอื่น เช่น ปลาช่อน ที่สามารถมาทำเมนูต้ม ผัด แกง ทอด ได้สารพัดมากกว่าปลาดุก และเหล่าหมอก็มักเตือนว่าปลาหนังน้ำจืดอย่างปลาดุก หากกินบ่อยเก๊าท์จะกำเริบได้ คนจึงนิยมกินน้อย ตรงนี้น่าตั้งข้อสังเกตเหมือนกัน
1
อย่างที่บอกว่าสั่งไปหลายเมนู แต่จานที่ชอบมากสุดออกที่พุงปลาดุกย่าง รสสัมผัสและกลิ่นทำให้มันเข้าเส้นชัยเป็นอันดับหนึ่ง กล่าวคือ แห้ง กรอบ และหอมเตาถ่าน กอปรกับเครื่องปรุงที่ไม่มีไรมากแค่เกลือกับพริกไทย กินเปล่า ๆ แล้วตามด้วยข้าวสวย เป็นอันว่าหอมกรุ่นละมุนในปาก ถ้าหากเลี่ยนจะบีบเลมอนลงไปกินแบบอิซากายะก็ได้ไม่ว่ากัน
พุงปลาดุกย่าง
ในส่วนเมนูปลาดุกย่าง ผมว่าร้านนี้ดีตรงที่เขาสามารถยกระดับปลาน้ำจืดบ้านเราให้อร่อยในระดับทัดเทียมกับปลาไหลญี่ปุ่น พูดอีกอย่างคือ วัตถุดิบบ้านเราสามารถนำไปประยุกต์กับขั้นตอนหรือวิธีการทำอาหารแบบประเทศอื่นได้ ขอแค่เราเข้าใจวัตถุดิบอย่างถ่องแท้เป็นพอ
2
ระหว่างเคี้ยวเรื่องราวในอดีตที่ข้องเกี่ยวกับปลาดุกผุดขึ้นในหัว ปลาดุกย่างฉายภาพอดีตของผมอยู่ฉากหนึ่ง เป็นฉากที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกวันอาทิตย์สมัยเรียนชั้นประถมศึกษา ตอนนั้นหลังจากกินข้าวเช้าแล้ว ช่วงสายผมมักไปบ้านพี่ชายลูกพี่ลูกน้อง โดยตั้งใจไปเล่นเกมวินนิ่งหรือเกมบอล ในเครื่องเล่นเพลย์สเตชั่น 2 เราเล่นแบบพนันกันตาละ 20 บาทบ้างสลับกับการเล่นแบบสนุก ๆ ไม่วางเงินบ้าง
ปลาดุกย่าง
เรานั่งหลังขดหลังแข็งเล่นกันตั้งแต่สายถึงเย็น พูดแบบไม่โม้ ผมชนะบ่อยกว่าพี่มาก ร้อยละ 80 ของจำนวนแมตช์ที่เล่นเลยแหละ แต่คนแพ้นั้นก็ไม่ได้หัวร้อนนะ เราสองสนุกตามเกมกันไปในวันว่าง แต่พี่เขาคงงงน่าดูว่าทำไมไอ้น้องชายที่เด็กกว่ามากถึงชนะกูบ่อยจัง
เวลาคล้อยบ่าย ความหิวมาเยือนเราทั้งคู่โดยมิได้นัดหมาย เมนูประจำสำหรับเราสองหนีไม่พ้นปลาดุกย่างร้านส้มตำใกล้บ้าน เพราะด้วยความที่วันอาทิตย์ของขายน้อยและไม่อยากฝ่าแดดร้อนไปซื้ออะไรไกล ๆ คำตอบเลยตกอยู่ร้านนี้ทุกที แต่ทำไมถึงเป็นปลาดุก ไม่เป็นไก่ย่างคู่กับส้มตำ ผมยังไขคำตอบไม่ได้จนถึงบัดนี้
ที่งงไปกว่านั้นคือ เราสองคนกินปลาดุกย่างกับข้าวสวย ไม่ใช่ข้าวเหนียว โดยผมมีหน้าที่เดินไปซื้อปลาดุกย่าง พี่ชายจัดแจงหุงข้าวสวย สมัยนั้นปลาดุกตัวละ 20-25 บาทมีขนาดใหญ่พอกินสองคนแล้ว (มั้ง?) ถ้าสมองไม่ลืมเลือนเกินไปส่วนใหญ่ผมกำเงินไปซื้อแค่ตัวเดียว
ข้าวสวยในหม้อสุก ปลาดุกย่างร้อน ๆ ถูกจัดแจงใส่จาน ตอนนั้นเราสองคนมีรูปแบบการกินแปลกอยู่พอสมควร พี่แกชอบราดน้ำจิ้มแจ่วลงไปในจานปลาดุกเลย ไม่ต้องแยกถ้วยและจ้วงจิ้มให้เสียเวลา เราต่างแย่งกันกินปลาดุกอย่างคนหิวโซ นำมาคลุกกับข้าวสวยหุงใหม่ ยัดเข้าปาก บอกได้เลยว่าเมนูนี้มันช่วยเติมเต็มท้องยามพักนิ้วจากการบังคับนักเตะบนสนามหญ้าเขียวชอุ่มในจอได้ดีเหลือเกิน
ผมเข้าใจว่าใช้เวลาไม่นานปลาดุกของเราก็เหลือแต่ซาก เนื้อสักกระเบียดนี่แทบไม่มีให้เห็น มิหนำซ้ำน้ำจิ้มแจ่วยังเหือดแห้งอย่างกับตกอยู่กลางแดดมาหนึ่งชั่วโมง ที่หายลงท้องไปมากกว่าอะไรย่อมเป็นข้าวสวย ครึ่งหม้อนั้นเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้ที่ข้าวเติบ เอาจริงมันคงทั้งหิวและอร่อย อย่าลืมว่าทีเด็ดของปลาดุกย่างอยู่ตรงครีบที่มีความแห้ง หอม และกรอบ
หลังจานอิ่มท้องเสร็จสรรพ เวลาบริหารนิ้วและสมองท่ามกลางฟลอร์หญ้าได้หวนกลับมาอีกครั้ง อาจจะพูดว่าเราทั้งคู่เดินลงสนามเพื่อแข่งขันในครึ่งหลังกันต่อก็ได้ เราซัดกันต่อในเกมอย่างดุเดือดและผมเป็นฝ่ายกุมชัยชนะข้างเดียวอยู่ร่ำไป
เราบรรเลงเพลงลูกหนังจนถึงโพล้เพล้ ผมกลับบ้านพร้อมกับอาการปวดนิ้วและมึนหัวเบา ๆ ซึ่งเป็นผลมาจากการกดปุ่มจอยและการจ้องจอโทรทัศน์นาน พอนึกขึ้นได้ว่าเช้าวันรุ่งขึ้นต้องไปโรงเรียน วันอาทิตย์ของผมจากที่เคยชื่นมื่นอยู่เมื่อครู่ได้กลายเป็นความเศร้าสร้อยหดหู่อีกครั้ง ตอนนั้นเด็กชายอย่างผมไม่ชอบไปโรงเรียนเลย (ฮ่า ๆ)
ทุกครั้งได้แต่ภาวนาอยู่อย่างเดียวว่า อยากให้ความรู้สึกช่วงเมื่อกี้เดินทางมาถึงเร็ว ๆ ผมจะได้นั่งเล่นเกมทั้งวันและมีเวลาเบรกด้วยปลาดุกย่างราดน้ำจิ้มแจ่วที่มาพร้อมกับข้าวสวยร้อน ๆ อันเป็นช่วงที่จิตใจไม่ต้องวอกแวกคิดถึงสิ่งอื่นใดให้ปวดหัว
ปลาดุกย่างร้านที่จั่วหัวข้างต้นช่างเก่งเหลือเกิน เก่งที่มันเดินทางไปขุดค้นความทรงจำของผมให้แจ่มชัดขึ้นอีกครั้ง กลิ่นและรสของมันได้พาผมแวะเยี่ยมเยือนอดีตที่มีแต่ความสุขล้น ถือว่ายังโชคดีที่ปลาดุกย่างในอดีตไม่ได้ชวนเศร้าและปวดใจ ไม่งั้นคงต้องนั่งซึมหรือไม่ก็ปาดน้ำตาเมื่อเห็นมันวางอยู่ตรงหน้า
1
โฆษณา