[Bnomics] "Heartstopper" เปิดรับความหลากหลายทางเพศ ปลดปล่อยเศรษฐกิจให้เติบโต เนื่องจากเดือนมิถุนายน ถือเป็น Pride Month หรือเดือนแห่งความภาคภูมิใจของกลุ่มความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) เราจึงจะได้เห็นกิจกรรมโปรโมทค

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

Bnomics

•

3 มิ.ย. 2022 เวลา 12:19 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

"Heartstopper" เปิดรับความหลากหลายทางเพศ ปลดปล่อยเศรษฐกิจให้เติบโต

นายเคยรู้สึกเหมือนต้องทำตามนั้นเพราะใครๆ ก็ทำมั้ย

แล้วนายก็กลัวที่จะแตกต่าง

เนื่องจากเดือนมิถุนายน ถือเป็น Pride Month หรือเดือนแห่งความภาคภูมิใจของกลุ่มความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) เราจึงจะได้เห็นกิจกรรมโปรโมทความหลากหลายทางเพศจากแบรนด์ต่างๆ หรือเห็นการประดับประดาด้วยสีรุ้ง

Bnomics จึงขอเลือกซีรีส์เรื่อง Heartstopper มาเขียนเป็นเรื่องแรกของเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นซีรีส์แนวน่ารักใสๆ วัยมัธยม แต่แฝงไปด้วยประเด็นความหลากหลายทางเพศ การก้าวผ่านช่วงวัย และการยอมรับจากครอบครัว ซึ่งหลายๆ คนก็ยกให้เรื่องนี้เป็นซีรีส์เกี่ยวกับ LGBTQ ที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้

อันที่จริง ประเด็นเรื่อง LGBTQ ไม่ใช่เกี่ยวข้องแค่ในระดับปัจเจกบุคคลเท่านั้น แต่ยังเชื่อมโยงไปถึงเรื่องของการเติบโตทางเศรษฐกิจอีกด้วย ในบทความนี้ Bnomics จะมาเล่าให้ฟังว่าทั้งสองเรื่องนี้มันเกี่ยวโยงกันอย่างไร

📌 การกีดกันผู้มีความหลากหลายทางเพศ…กำแพงล่องหนที่ไม่ให้คนแสดงศักยภาพเต็มกำลัง

ปฏิเสธไม่ได้ว่า เลสเบี้ยน, เกย์, ไบเซ็กชวล, ทรานส์เจนเดอร์ และเพศหลากหลายอื่นๆ (LGBTQ) มีจำนวนมากและต่างก็ใช้ชีวิตอยู่ทั่วทุกมุมโลก

ประกอบไปด้วยคนทุกช่วงวัย ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา แต่ก็เป็นเรื่องน่าเศร้าที่หลายต่อหลายครั้ง คนที่มีความหลากหลายทางเพศกลับต้องเผชิญกับการเลือกปฏิบัติเพียงเพราะเพศสภาพของพวกเขาไม่ตรงตามบรรทัดฐานของสังคม

การกีดกันผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศไม่ให้มีโอกาสใช้ชีวิตในสังคมอย่างเต็มที่และมีเกียรติ ถือเป็นหนึ่งในปัญหาสิทธิมนุษยชนที่สำคัญ และเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจจากหน่วยงานระหว่างประเทศและภาครัฐทั่วโลกเป็นอย่างมาก

การปิดกั้นโอกาสในระดับบุคคล ไม่เพียงแค่ปิดกั้นโอกาสของคนเหล่านั้นเพียงอย่างเดียว แต่เสมือนเป็นการปิดกั้นโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจ จากการกีดกันกลุ่มคนที่มีศักยภาพแต่เพียงเพราะเพศสภาพของเขาไม่ตรงตามที่สังคมคาดหวัง ไม่ให้มีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจอย่างเต็มกำลัง โดยเรื่องเหล่านี้อาจจะก่อตัวตั้งแต่ในรั้วโรงเรียน ไปจนถึงวัยทำงาน

●
นักเรียนที่เป็น LGBTQ มีโอกาสที่จะโดนแบ่งแยกทั้งจากครูและเพื่อนนักเรียนด้วยกันเอง เหมือนที่ในซีรีส์ ตัวละครที่เป็น LGBTQ ก็ถูกเพื่อนในโรงเรียนบูลลี่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจส่งผลต่อการเรียน และในบางครั้งก็เป็นปัจจัยที่ทำให้เด็กหลายคนอยากลาออกกลางคัน หรือในกรณีที่เลวร้ายสุดอาจนำไปสู่การฆ่าตัวตาย ซึ่งทำให้ทักษะและความรู้ของคนเหล่านี้ต้องสูญเสียไปอย่างน่าเสียดาย

●
การแบ่งแยกในที่ทำงาน อาจทำให้กลุ่ม LGBTQ ต้องกลายเป็นคนว่างงาน หรือไม่ก็ต้องทำงานต่ำกว่าระดับความรู้ที่มี ซึ่งนั่นหมายถึงว่าศักยภาพของคนเหล่านี้ไม่ถูกใช้อย่างเต็มที่ นั่นจึงทำให้หลายๆ คนที่กลัวว่าจะถูกเลือกปฏิบัติในที่ทำงาน ตัดสินใจที่จะไม่เปิดเผยรสนิยมทางเพศในที่ทำงาน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาต่างๆ ที่จะตามมา

●
คนกลุ่ม LGBTQ มีแนวโน้มที่จะเผชิญความเครียด และอาการเจ็บป่วยทางร่างกายบางอย่างมากกว่าคนทั่วไป ซึ่งอาจส่งผลต่อความสามารถและประสิทธิภาพในการทำงานได้ อีกทั้งในบางครั้งคนกลุ่มนี้ไม่ถูกยอมรับจากคนในครอบครัว จึงขาดการดูแลเอาใจใส่จากคนในครอบครัวยามเจ็บป่วย

●
ในบางครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม ก็อาจใช้อำนาจกักขัง จับกุม หรือข่มขู่กลุ่ม LGBTQ อย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งอาจเป็นผลให้กลุ่มคนเหล่านี้ต้องสูญเสียโอกาสในการทำงานไป

จะเห็นได้ว่า การกีดกันและเลือกปฏิบัติทางเพศ ก่อให้เกิดต้นทุนต่อเศรษฐกิจไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเวลาในการทำงาน, ประสิทธิภาพในการทำงานที่สูญเสียไป, การลงทุนในทุนมนุษย์ต่ำกว่าที่ควร, และการกระจายทรัพยากรมนุษย์ที่ขาดประสิทธิภาพ เนื่องจากการกีดกันตั้งแต่ในระบบการศึกษาไปจนถึงกระบวนการคัดเลือกบุคคลเข้าทำงาน

📌 เปิดรับความหลากหลาย…ปลดปล่อยเศรษฐกิจให้เติบโต

มีงานวิจัยที่ใช้ข้อมูลของประเทศเกิดใหม่กว่า 39 ประเทศ ในช่วงปี 1990 - 2011 ซึ่งเป็นช่วงที่สิทธิของคนกลุ่ม LGBTQ เริ่มเบ่งบานในหลายๆ ประเทศ

พบว่าค่าเฉลี่ย GDP ต่อหัวประชากร มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับสิทธิของคนกลุ่ม LGBTQ โดยพบว่าประเทศไหนที่ทางกฎหมายมีการยอมรับกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ จะมี GDP ต่อหัวประชากรสูงกว่าประเทศทั่วไปราวๆ 1,400 ดอลลาร์สหรัฐฯ และมีดัชนีการพัฒนามนุษย์ (HDI) ที่สูงกว่า

หรือถ้าพูดง่ายๆ เลย คือ ประเทศที่กลุ่ม LGBTQ มีสิทธิเสรีภาพอย่างเท่าเทียม มักจะมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวที่สูง และมีความเป็นอยู่ที่ดีกว่า เพราะการให้สิทธิเสรีภาพนั้นก่อให้เกิดประโยชน์ได้ นอกเหนือจากเรื่องของเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว แต่ยังก่อให้เกิดผลประโยชน์ทางด้านความอยู่ดีมีสุข เมื่อวัดจากอัตราการเข้าเรียนหนังสือและอายุคาดเฉลี่ย

ดังนั้น เพียงแค่เปิดรับความหลากหลายทางเพศ ก็จะช่วยให้คนกลุ่ม LGBTQ ได้ใช้ศักยภาพที่มีอย่างเต็มที่โดยไม่ถูกกีดกัน ศักยภาพที่แตกต่างหลากหลายนั้นจะช่วยเติมเต็มเศรษฐกิจให้สมบูรณ์ เพราะประเทศไม่สามารถขับเคลื่อนได้โดยการมีคนที่เหมือนกันหมด มีความสามารถเดียวกันหมด แต่ต้องการความสามารถที่หลากหลาย เข้ามาเติมเต็มในส่วนที่แตกต่างกันออกไป

และความหลากหลายทางเพศเป็นเรื่องปกติ มนุษย์ไม่ใช่ระบบคอมพิวเตอร์ที่มีแค่ 0 กับ 1 หรือเป็นสีขาวกับสีดำ แต่เป็นเฉดสีที่แตกต่างหลากหลายนับล้านเฉด ซึ่งความหลากหลายนี้เองที่เป็นส่วนช่วยแต่งเติมประเทศให้งดงาม

ถ้าคุณอยากเป็นส่วนหนึ่งในการเฉลิมฉลอง Pride month ก็ช่วยแชร์บทความนี้ให้กระจายออกไปเป็นวงกว้าง Bnomics จะยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมเฉลิมฉลองความหลากหลายทางเพศนี้

เครดิตภาพ : Netflix

ผู้เขียน : ชนาภา มานะเพ็ญศิริ Economist, Bnomics

ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics

▶︎ ติดตามช่องทางของ Bnomics ได้ที่

Website : https://www.bnomics.co/

Facebook : https://www.facebook.com/Bnomics.co

Blockdit : https://www.blockdit.com/bnomics

Line OA : @Bnomics https://bit.ly/3eYkTJC

Youtube : https://www.youtube.com/bnomics

Twitter : https://twitter.com/bnomics_co

Bnomics - Bangkok Bank Economics

'Be an Economist for Everyone'