Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Trick of the Trade
•
ติดตาม
6 มิ.ย. 2022 เวลา 06:00 • ธุรกิจ
7 ระดับของอิสรภาพทางการเงิน
ความฝันของเราทุกคนคือการมีรายได้และเงินเก็บที่มากพอ เพื่อให้ตัวเองไปถึงจุดที่เรียกว่ามีอิสรภาพทางการเงิน ซึ่งความหมายกว้างๆ คือ ไม่ต้องกังวลเรื่องการหาเงินอีกแล้ว ซึ่งมาจากหลายสาเหตุรวมกัน เช่น มีเงินเก็บมากพอใช้จนไม่ต้องหาเพิ่ม หรือมีเครื่องมือบางอย่างที่ทำให้เงินไหลเข้าโดยที่เราไม่ต้องลงแรงทำเองทุกครั้งเพื่อให้ได้มา หรือที่เรียกว่า passive income
ถ้ามองกันที่ปลายทางจริงๆ หลายคนอาจจะท้อไปก่อนเพราะมองแล้วไกลเกินเอื้อมเหลือเกิน แต่ผมอยากให้มองว่า อิสรภาพทางการเงินก็เหมือนกับความสำเร็จอื่น หรือทุกเรื่องที่เราทำ คือมันจะมีระดับขั้นตอนความสำเร็จย่อยซ่อนเป็นขั้นๆ เหมือนบันไดพาเราขึ้นสูงไปเรื่อยจนถึงจุดที่เราต้องการ
อิสรภาพทางการเงินก็เหมือนกันครับ
กว่าจะถึงจุดที่ต้องการนั้น มันมีขั้นตอนให้เราประเมินเป็นระยะว่า เราเข้าใกล้ไปแค่ไหนแล้ว
Grant Sabatier นักเขียนและเจ้าของหลักสูตรออนไลน์เรื่อง Financial Freedom ให้คำนิยามของอิรภาพทางการเงินไว้น่าสนใจว่า การมีอิสรภาพทางการเงิน ไม่ได้หมายความว่าเรามีเงินมากมายจนซื้ออะไรก็ได้ แต่เป็นการมีเงินมากพอที่ทำให้เราสามารถเลือกใช้ชีวิตได้
ถ้ามองที่จำนวนเงินของ 2 ความหมายนี้ ก็ต่างกันเยอะแล้วะครับ
อย่างแรกคือการมีเงินเยอะจนนับไม่ไหว แบบอยากซื้ออะไรก็ซื้อได้ แต่ซื้อมาแล้วได้ใช้ให้เกิดประโยชน์ไหมก็อีกเรื่องนึง เช่น บ้าน รถ เครื่องประดับ หรือแม้กระทั่งเรือดำน้ำ (แฮร่!)
อย่างหลังคือ มีเงินในระดับที่ชีวิตเรามีทางเลือกในการใช้ แต่อะไรไม่จำเป็นก็ไม่ต้องสนใจ จะได้เอาเวลาไปทำอย่างอื่น ไม่ใช่หาเงินอย่างเดียว (แต่ถ้าเครื่องมือหาเงินที่เราสร้างไว้ มันนำเงินเข้ามาจนถึงระดับเดียวกับอย่างแรก ก็ไม่เป็นไร มันช่วยไม่ได้จริงๆ)
Gabriel ได้แบ่งขั้นตอนสู่การมีอิสรภาพทางการเงินไว้เป็น 7 ขั้นครับ
1. เข้าใจสถานะการเงินของตัวเองอย่างชัดเจนก่อน
หลักการคือ วันนี้เรารู้หรือยังว่าแต่ละเดือนหรือแต่ละปี เราจะมีรายได้และค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง เราเคยทำสรุปล่วงหน้าไว้ไหมว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับสถานะการเงินของเรา มีเดือนไหนที่เงินจะตึงมือ เช่นเดือนเปิดเทอม เดือนไหนพอหายใจได้บ้าง หรือมีค่าใช้จ่ายอะไรที่เรามีแต่สามารถลดตัดได้เพราะมันไม่จำเป็นเท่าไหร่
ถ้าเราไม่ชัดเจนตรงนี้ เราจะวางแผนอะไรไม่ได้เลย เพราะเรายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้เราอยู่ตรงจุดไหน
ใครกำลังคิดถึงอิสรภาพทางการเงิน ให้เริ่มจากข้อนี้ก่อนเสมอ
2. อยู่ได้ด้วยตนเอง
ถ้าตอนนี้ เรามีรายได้ที่พอค่าใช้จ่ายทุกอย่างโดยที่ไม่ต้องใช้เงินจากแหล่งอื่นเลยแม้แต่บาทเดียว เช่นเงินกู้นอกระบบเพื่อมาจ่ายหนี้อื่น ยืมเพื่อน มีพ่อแม่ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายบางส่วนเช่นค่าเทอมหลาน ค่าเช่าบ้าน
ใครมาถึงขั้นนี้ได้อย่างน้อยติดต่อกัน 6 เดือนถือว่าอยู่ในจุดเริ่มต้นที่ดีแล้ว รักษาระดับไว้ให้ได้ครับ
3. เริ่มมีเงินเก็บ
คือระดับที่เราเริ่มมีเงินเหลือเก็บ และสามารถจัดเงินเหลือนี้ไปเพื่อเป้าหมายต่างๆ ต่อไป เช่น เงินสำรองเมื่อฉุกเฉิน วางแผนส่งลูกไปเรียนต่อ แบ่งไปลงทุน หรือเป็นเงินเก็บเกษียณ
ช่วงเริ่มต้น เงินเก็บจะดูไม่มาก ขอให้เก็บไปเรื่อยๆ อย่าท้อใจ ให้สนใจกับการเก็บเงินไปเรื่อยๆ เท่านั้น
จุดวัดใจที่ส่วนตัวผมคิดว่าเราต้องเอาชนะให้ได้ในขั้นนี้คือ เมื่อมีเงินเก็บแล้ว มันจะมีความอยากตามมาครับ
พอมีเงินในมือ ความอยากได้นั่น อยากมีนี่ จะตามมาเป็นเงาตามตัว เหมือนกับคำพูดที่ว่า เราจะมีความสามารถในการใช้เงินตามรายได้ที่เพิ่มขึ้นเสมอ
เมื่อเราใช้เงินมาก โดยเฉพาะใช้ไปกับเรื่องไม่จำเป็น ใช้แบบไม่เก็บเงิน มันจะพาเราถอยกลับไปขั้นแรก
ข้อนี้สำคัญมากและหลายคนเข้าใจผิด คิดว่าหาเงินได้มากแล้วจะแปลว่ามีเงินเก็บ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วการมีรายได้กับการมีเงินเก็บเป็นคนละเรื่องกันเลย
หาได้น้อย ใช้น้อยกว่าที่หาได้ ก็เก็บเงินได้
หาได้มาก ใช้เก่งมากแบบได้เท่าไหร่ใช้เท่านั้น แถมต้องจ่ายดอกเบี้ยบัตรเครดิตทุกเดือน ใครเป็นแบบนี้ หาได้เท่าไหร่ก็ไม่เหลือเก็บ
ต้องแยก 2 อย่างนี้ให้ออกนะครับ
4. การเงินมั่นคง
ขั้นตอนนี้หมายถึงเรามีเงินสำรองไว้ใช้อย่างน้อย 6 เดือน โดยที่เรายังต้องมีรายได้เข้าอยู่ตามปกติ แต่ส่วนตัวผมคิดว่า 9-12 เดือนน่าจะปลอดภัยกว่า สำหรับยุคนี้ อันนี้แล้วแต่ใครจะตั้งเกณฑ์เลยนะครับ
หลายคนบอก มีบัตรเครดิตไว้รูดตอนฉุกเฉินอยู่แล้วจะกลัวอะไร
ใครคิดแบบนี้ อันตรายมาก เพราะบัตรเครดิตมันเป็นแค่วงเงินให้ใช้ที่มีอายุสั้นมาก คือไม่เกิน 45 วัน แถมมาด้วยดอกเบี้ยสุดโหด
ถ้าพลาดเรื่องดอกเบี้ยบัตรเครดิตรอบเดียว คุณจะกลายเป็นงูตกบันไดถอยกลับไปที่จุดเริ่มต้นได้เลย ใครกำลังคิดแบบนีอยู่ ต้องเปลี่ยนความคิดใหม่นะครับ
5. หยุดพักชั่วคราวได้
ขั้นนี้คือส่วนขยายของขั้นก่อนหน้า คือเรามีเงินเก็บมากพอสำหรับค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมดอกเบี้ยหรือการผ่อนทรัพย์สินเพื่อการลงทุนทุกอย่างได้อย่างน้อย 1-2 ปี โดยไม่ต้องทำงานหรือมีรายได้แล้ว
แปลว่าเราสามารถหยุดพักเพื่อรักษาตัว หรือเพื่อตั้งหลักค้นหาตัวเอง ทดลองทำอะไรใหม่ๆ สักพักได้เลย เมื่อพร้อมแล้วก็กลับมาทำงานใหม่อีกครั้ง
6. มีรายได้โดยไม่ต้องทำงานแล้ว
ผู้ที่มาถึงขั้นนี้ คือผู้ที่มีรายได้มากพอจากการลงทุนที่ได้สะสมไว้มาเป็นเวลานานผ่านเครื่องมือต่างๆ และสามารถใช้ดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนรายวัน/เดือน มาเป็นค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตโดยไม่ต้องทำงานเพิ่ม
จะสังเกตว่ากว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ทุกคนต้องผ่านขั้นที่ 3 มาก่อน
คือมีเงินเก็บมากพอจนเริ่มจัดสรรสำหรับการลงทุนได้ เมื่อสะสมการลงทุนไว้มากพอ ผลตอบแทนมันจะมาออกดอกผลตอนนี้ ใครที่ยอมลำบากในตอนแรก คือเก็บเยอะใช้น้อย ก็จะมาสบายตอนหลัง มีเงินให้ใช้แบบไม่ต้องทำงานก็ได้
คงไม่สามารถบอกได้ว่าแบบไหนดีที่สุด เพราะทั้งหมดขึ้นอยู่กับความเชื่อในการใช้ชีวิตของแต่ละคน แต่สามารถรับประกันได้ว่า ทำแบบไหนแล้วจะได้ผลลัพธ์แบบไหนแท่านั้น
7. สถานะมั่งคั่ง
จุดสูงสุดของการมีเงินคือความมั่งคั่ง มีเงินมากพอที่เราจะเอาผลตอบแทนออกมาใช้ได้เรื่อยๆ โดยไม่ต้องกังวลอะไรอีก โดยผลตอบแทนที่ได้ควรจะมากกว่าอัตราเงินเฟ้อทุกปี Gabriel ตั้งไว้ที่ 4%
แปลว่า เราต้องมีฐานการลงทุนหรือที่มาของรายได้ที่มากพอที่จะสร้างรายได้เป็นตัวเงินให้เราพอค่าใช้จ่ายตลอดปี เช่น เรามีค่าใช้จ่ายรวมทุกอย่างตลอดปี 1,000,000 บาท แปลว่า เราต้องมีเงินต้นในการลงทุนทุกประเภทรวมที่ 25,000,000 บาท (ไม่รวมรายได้อื่นที่จะเข้ามาระหว่างปี) แต่ถ้าค่าใช้จ่ายเราน้อย เราก็ไม่จำเป็นต้องมีเงินต้นมากขนาดนั้นเหมือนกัน
บทสรุปสู่ความเป็นผู้มีอิสรภาพทางการเงิน
1. เริ่มลงทุนให้ไว้ เรื่องนี้ทุกคนจะพูดเหมือนกันหมด ทำตามได้เลยไม่ต้องสงสัยอะไรอีกแล้ว
2. ปรับพฤติกรรมและนิสัยการใช้เงิน ใช้ให้พอตัว พอหาความสุข อย่างกจนชีวิตแห้งแล้งและอย่าแรงจนเป็นหนี้เป็นสิน เราจึงเห็นคนแก่ส่วนมากเลือกไปใช้ชีวิตช่วง 20-30 ปีสุดท้ายอยู่ที่ต่างจังหวัด เพราะค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตถูกกว่ากรุงเทพมาก
3. การสร้างอิสรภาพทางการเงินเป็นการมองภาพใหญ่ที่อาศัยการกระทำในทุกจุดเล็กเป็นส่วนประกอบ เหมือนต่อ lego ขึ้นเป็นตึกสูง รากฐานต้องแข็งแรงก่อนแล้วจึงหวังสู่การขึ้นที่สูง
ลองสำรวจตัวเองว่าตอนนี้อยู่ขั้นไหน แล้วรีบปรับการใช้ชีวิตเพื่อพาตัวเองยกระดับขึ้นไปเรื่อยๆ
ทุกอย่างในโลกต้องใช้เวลา การสร้างอิสรภาพทางการเงินก็เช่นกัน
แต่ก็ไม่ยากจนเกินไปที่จะเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้
#trickofthetrade #business #howto
พัฒนาตัวเอง
การเงิน
trickofthetrade
1 บันทึก
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
How-To
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย