7 มิ.ย. 2022 เวลา 14:15 • ประวัติศาสตร์
สก๊อตแลนด์วันที่ 1(ตอนที่ 2) พระราชวังโฮลี่รู้ด และพระนางแมรี่ ราชินีตัวร้ายผู้น่าสงสาร
พระราชวังโฮลีรูด (Palace of Holyroodhouse) เป็นวังที่สร้างด้วยหิน เมื่อเทียบกับวังของอังกฤษแล้วก็ไม่ได้ใหญ่โตนัก มีจุดเด่นคือส่วนเป็นหอคอยทรงกระบอกมีหลังคายอดแหลมแบบหมวกแม่มดที่สร้างไว้ในยุคสมัยต่างกัน ภายในแต่ละหอก็เป็นห้องสำคัญหลายห้อง โดยเฉพาะหอหนึ่งตรงมุมตึกเป็นห้องของราชินีแม่รี่คนดังนั่นเอง
ถ้ายังไม่รู้จัก หรือไม่ทราบว่าดังขนาดไหน แนะนำไปที่ตอนลอนดอนวันที่ 4 (ตอน 5) ศึกแย่งชิงบัลลังก์ของเหล่าราชินีทิวดอร์ 4 พระองค์ ของอังกฤษ นะครับ ตามลิงก์ด้านล่าง
ก่อนจะเข้าประตูเราจะได้เห็นปูนปั้นด้านบน เป็นตราสัญลักษณ์สัตว์ประจำสก๊อตแลนด์นั่นคือก็ยูนิคอร์น(ของอังกฤษจะเป็นสิงโต) สองตนอยู่ขนาบถือโล่ใบหนึ่งอยู่ รอคอยให้เราได้เข้าไปชมข้างใน
ขณะที่เข้าไปในวังมีความขลุกขลักเล็กน้อยตรงที่คุณลุงกางเกงเขียวไม่รู้จักตั๋วควบ (Combo) ที่เราโหลดมาจากเน็ต สามารถเข้าได้ทั้งวังฮอลลีรูดและปราสาทเอดินบะระในราคาประหยัด คุณลุงเห็นตั๋วนี้แล้วงงว่าคือไร สักพักเราเข้าไปหาน้องๆกระโปรงสั้นลายสก๊อตแถวนั้น เธอก็เลยเข้าไปคุยกับคุณลุงที่ทำท่าเอ๋อๆอยู่แล้วก็เข้าใจกันและกัน สามารถผ่านพอเข้าไปได้โดยดี
ตอนที่ไปชมพระราชวังที่อังกฤษจะคุ้นเคยกับพนักงานที่แต่งโค้ชชุดแดงหรือเสื้อคลุมแดงมาคอยต้อนรับเราอยู่หลายครั้ง เมื่อมาที่สก๊อตแลนด์ก็คาดหวังว่าจะได้เห็นชุดทำนองนี้อีก แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆเจ้าพนักงานที่นี่แต่งชุดฟอร์มสะดุดตาเหมือนกันแต่ดูมีเอกลักษณ์มากกว่า
ในขณะที่ชุดของอังกฤษเป็นสีแดงที่นี่ก็เป็นสีเขียว แถมยังเป็นลายสก๊อตอีกด้วย ผู้หญิงสวมใส่กระโปรงผ้าสก๊อต แต่ผู้ชายไม่ได้ใส่กระโปรงหรอกนะ เขาใส่กางเกงโดยใช้ผ้าแบบเดียวกัน มีเสื้อตัวนอกคลุมไหล่
สำหรับประวัติของวัง ก่อนที่จะมาเป็นพระราชวังโฮลีรูดที่นี่เคยเป็นโบสถ์มาก่อนในประมาณปี 1128 หรือเกือบ 900 ปีมาแล้ว แต่ต่อมาเมื่อมีการขยายอาคารก็ได้ถูกใช้เป็นพระราชวังแห่งสก๊อตแลนด์และเป็นที่สถานที่สำคัญของราชวงศ์สก๊อตแลนด์ เช่นสถานที่ประสูติ สมรส และที่ฝังพระศพ ในเวลาที่ผ่านมาพระราชวังโฮลีรูดก็มีการก่อสร้างอยู่เสมอ เช่นการสร้างหอคอยเพิ่มเติมในเวลาต่างกัน แต่ก็มีความกลมกลืนกันอย่างดี
ความรุ่งเรืองหรือตกต่ำของโฮลีรูดนั้นเกิดขึ้นโดยผูกพันกับการเมืองและสถาบันพระมหากษัตริย์มาโดยตลอด และยังเชื่อมโยงไปยังราชวงศ์ต่างๆของอังกฤษอีกด้วย
เป็นต้นว่าในช่วงของพระเจ้าเจมส์ที่ 6 พระโอรสของควีนแมรี่ ผู้ซึ่งครอบครองทั้งสก๊อตแลนด์และอังกฤษทำให้แผ่นดินทั้งสองได้รวมเป็นทองแผ่นเดียวกัน โดยพระองค์เป็นเจมส์ที่ 6 ของสก๊อตแลนด์ และเป็นเจมส์ที่ 1 ของอังกฤษ (งงไหมฮะ ถ้างงก็แนะให้คุณกลับไปดูบทก่อนนั้น ตรงที่ผมบอกด้านบนนะแหละ นอกจากมีเรื่องพระราชนีแมรี่แล้ว ยังมีเรื่องพระเจ้าเจมส์ พระโอรสของพระองค์อีกด้วย)
หลังจากครองราชย์แล้วได้ย้ายไปประทับที่ลอนดอนเป็นหลัก แต่โฮลีรูดยังคงเป็นสถานที่สำคัญเนื่องจากเป็นสถานที่ประสูติพระองค์ จึงได้รับการบูรณะครั้งใหญ่
แต่เมื่อถึงคราวที่สถาบันพระมหากษัตริย์ตกต่ำลง พระราชวังโฮลีรูดก็ถึงจุดตกอับลงด้วยเช่นกัน หลังจากที่พระเจ้าชาร์ลที่ 1 ถูกประหารจากการปฏิวัติโดยครอมเวลล์ สก๊อตแลนด์ก็ถูกรุกรานและโฮลีรูดถูกนำมาใช้เป็นค่ายทหาร และบางส่วนก็ถูกปล่อยทิ้งร้างไว้ หลังจากนั้นยังมีเหตุการณ์ไฟไหม้เกิดขึ้นอีก เรียกได้ว่าเข้าสู่ยุคมืดหม่นสุดขีด
อย่างไรก็ตาม หลังจากสถาบันกษัตริย์ถูกสถาปนาขึ้นมาอีกครั้งในรัชกาลพระเจ้าชาร์ลที่ 2 โฮลีรูดก็ฟื้นฟูขึ้นมาเช่นกัน มีการออกแบบพระราชวังขึ้นมาใหม่โดยผสมผสานกับของเก่าได้อย่างดี ประสานหอคอยที่สร้างในสมัยต่างๆให้เข้ากลมกลืนในอาคารชุดเดียวกันได้
จุดเด่นของพระราชวังแห่งนี้คือลายปูนปั้นบนเพดาน และพรมประดับผนัง (Tapestry) ซึ่งคุ้มค่าต่อการเข้ามาชม แต่กระนั้นขอแนะนำว่าหากต้องการความซาบซึ้งตรึงใจไปกว่านั้นควรจะได้ทราบมิติทางประวัติศาสตร์ให้ชื่นชมและฝันถึงการเข้าชมก็จะมีรสชาติยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่องราวแสนสนุกของราชวงศ์ทิวดอร์ ภาพยนต์เกี่ยวกับยุคสมัยของควีนอลิซาเบธที่ 1 พระราชวังโฮลีรูดเป็นฉากสำคัญซึ่งถูกนำมาสร้างหนังมากมายหลายเวอร์ชั่น
ซึ่งห้องเหล่านี้ยังคงปรากฏให้เราได้เห็น โดยเฉพาะห้องของพระนางแมรี่ (Mary s Chambers) ซึ่งอยู่ที่หอคอยกลมด้านมุมหนึ่ง แม้จะเป็นห้องเล็กจิ๊ดเดียวแต่ก็เป็นมุมโปรดและยังคงได้รับการรักษาไว้อย่างดี ใครอยากจะมารำลึกถึงพระองค์ หรืออยากจินตนาการได้ว่าเคยเป็นตัวละครตัวใดในประวัติศาสตร์ ขอชวนมาฝันให้เพริดไกลได้ที่นี่
ภาพจาก Royal Collection Trust https://www.rct.uk/resources/activity-challenge-explore-mary-queen-of-scots-chambers
นอกจากตัวพระราชวังแล้วที่นี่นี้ยังมีโบสถ์อีกด้วย มีชื่อว่ามหาวิหารฮอลีรู้ดแอบบี้ (Holyrood Abbey) แต่ขณะนี้มีสภาพเป็นซากโบสถ์ไปแล้ว เชื่อไหมว่าก่อนหน้าที่ฮอลีรู้ดแอบบี้จะเป็นแบบที่เราเห็นอยู่ ที่นี่เคยโบสก์ที่รุ่งเรืองมาก่อน
ตามตำนานนั้นกล่าวว่าในปี 1127 ขณะที่กษัตริย์เดวิดที่ 1 กำลังล่าสัตว์อยู่ในป่า กวางป่าตัวหนึ่งได้วิ่งเข้ามาทำให้ม้าทรงของพระองค์ตกใจและพระองค์ก็พลัดตกลง พระเจ้าเดวิดพยายามเข้าต่อสู้กับกวางที่กำลังเข้ามาขวิดโดยเข้าไปจับเขากวางไว้ และแล้วสิ่งมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้นเมื่อมีการปรากฏของแสงสว่างเรืองรองเป็นรูปไม้กางเขนขึ้นมาระหว่างเขาทั้งสองก่อนที่กวางป่าจะพ่ายแพ้หนีไป
ด้วยความสำนึกในพระคุณของพระเจ้า พระองค์จึงได้สร้างโบสถ์นี้ขึ้นในเวลาอีกในเวลาต่อมา
แม้ว่าโบสถ์จะมียุคที่รุ่งเรืองแต่ก็เกิดภัยอันตรายเข้ามาทำลายหลายครั้ง ทั้งจากสงครามกับอังกฤษและภัยจากการปฏิรูปศาสจักรซึ่งเป็นช่วงที่ฝ่ายโปรเตสแตนท์ต่อสู้กับคาทอลิก มีการทำลายและปล้นสะดมทำให้ Holyrood Abbey พังทลายลงมาและถูกกัดกร่อนโดยกาลเวลาจนเป็นแบบที่เราเห็น
อย่างไรก็ดี ซากโบสถ์ร้างสวยงามและดูเศร้าแห่งนี้ก็เป็นสิ่งทดแทน อนุสรณ์ของใครหลายคนที่ฝังร่างไว้ที่นั่นยังคงปรากฏให้เห็น ผนังกร่อนของตัวโบสถ์ยังมีวงโค้งประตูยอดแหลมซ้อนกันเป็นชั้น ลวดลายประดับดูเป็นตาข่ายเหมือนลูกไม้บนชุดเจ้าสาว ดูแล้วอยากใช้เป็นสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งจังเลย ยิ่งตอนค่ำคืนพระจันทร์เต็มดวงน่าจะโรแมนติคมาก
นี่มิใช่เราผู้เดียวที่คิดเช่นนั้นดอกนะ คีตกวีเอกของโลกคือเมนเดลโซห์น (Felix Mendelssohn) เคยมาเยือนที่นี่มาแล้วและก็คงรับรู้ความรู้สึกแบบเดียวกับเรา เกิดแรงบันดาลใจมาแต่งซิมโฟนีหมายเลข 3 ที่มีชื่อว่า Scottish โดยได้มีบันทึกเอาไว้ว่า
“เบื้องต้นสำหรับงานชิ้นนี้ ในพลบค่ำที่มืดมิด เราได้ไปยังพระราชวังที่ซึ่งพระราชินีแมรี่ได้เคยอาศัยอยู่ ซากโบสถ์ไร้หลังคามีหญ้าและไม้เลื้อยเติบโตปกคลุมแท่นบูชาที่พังทลาย ทุกสิ่งทุกอย่างล่มสลาย ผุพัง ท่ามกลางท้องฟ้าใสกระจ่าง ฉันคิดว่าได้พบจุดเริ่มต้นของซิมโฟนีสก๊อตแลนด์ของฉันแล้ว”
ท่านใดที่อยากดูดซับบรรยากาศของฮอลีรู้ดแอบบี้ลองไปเยี่ยมชมแล้วหลับตาลง อาจได้จุดประกายฝันและสร้างซิมโฟนีของท่านเองขึ้นมาก็เป็นได้
โฆษณา