Blockdit Logo (Mobile)
happy diet
•
11 มิ.ย. 2022 เวลา 05:45 • อาหาร
ตอนนี้กระแสการควบคุมอาหารแบบ Intermittent Fasting หรือที่เรียกกันว่า IF คือการอดอาหารเป็นช่วงๆ ซึ่งกำลังมาแรงมากๆ ใครที่อยากหุ่นสวยต้องการลดน้ำหนัก ควบคุมอาหาร IFช่วยคุณได้
ย้อนเวลากลับไปเมื่อปีที่แล้ว เราน้ำหนักขึ้นไวมากๆเพราะเกิดจากการทานอาหารปริมาณมากนี่แหละค่ะ โดยไม่สนใจหุ่นตัวเองเลย เราจึงหาวิธีการควบคุมอาหาร แบบที่เราสามารถทานได้ทุกอย่าง แบบมีความสุข แต่ต้องบอกก่อนตรงนี้เลยนะคะว่า การลดน้ำหนักไม่ว่าทฤษฎีไหนก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน จึงแนะนำให้ทุกคนสืบค้นข้อมูลอย่างมีสติ ทุกคนคงจะสงสัยกันใช่ไหมคะ ว่าในเมื่อเราทานทุกอย่าง แต่จะสามารถลดน้ำหนักได้อย่างไร
การลดน้ำหนักแบบ IF เป็นการอดอาหารเป็นช่วงเวลา และปล่อยให้ร่างกายหยุดรับอาหารเป็นช่วงเวลา เพียงตัดเวลาในมื้อหารลง ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอาหารที่กิน แต่เราสามารถเปลี่ยนเวลาในการทานนั่นเอง เรียกว่าเราสามารถทานอาหารได้ทุกอย่างแบบมีความสุขเลยค่ะเพียงแต่เราต้องคำนึงถึงสารอาหารและปริมาณโดยรวมที่ร่างกายต้องการต่อวันค่ะ แต่ทั้งนี้การลดน้ำหนักแบบ IF มีเงื่อนไขอยู่3ข้อคือ
  • 1.
    ต้องงดอาหาร1มื้อในแต่ละวัน
  • 2.
    หลีกเลี่ยงอาหารมื้อดึก
  • 3.
    กินอาหารตามปกติในช่วงเวลาFeeding 8 ชั่วโมง
อย่าลืมนะคะว่าการทำ IF ก็มีทั้งข้อดีข้อเสีย อย่าลืมศึกษาให้ดีและนำไปปรับใช้กับร่างกายด้วยนะคะ วิธีทำ IF มี6วิธี เรามาเริ่มกันเลยค่ะ
แบบที่ 1
วิธีลดน้ำหนัก Intermitent Fasting แบบ Lean gains
คือการทานอาหารในช่วง 8 ชั่วโมง และอดอาหารในช่วง 16 ชั่วโมง 8/16
แบบที่ 2
วิธีลดน้ำหนัก Intermittent Fasting แบบ Fast 5
การลดหนักแบบ Fast 5 เป็นการอดอาหารที่ค่อนข้างหักดิบ เพราะเป็นการกินอาหารเพียง 5 ชั่วโมงและอดอาหาร 19 ชั่วโมงอย่างต่อเนื่อง
แบบที่ 3
วิธีลดน้ำหนัก Intermittent Fasting แบบ Eat stop Eat
จะต้องอดอาหาร 24 ชั่วโมง 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ ส่วนวันที่ไม่อดก็สามารถกินได้ตามปกติ แต่ก็ต้องกินอย่างเหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย แต่วิธีนี้ไม่แนะนำสำหรับคนที่เริ่มลดน้ำหนัก เพราะจะทำให้รู้สึกอยากอาหารมากขึ้นในวันต่อไปและส่งผลต่ออารมณ์อีกด้วย
แบบที่4
วิธีลดน้ำหนัก Intermittent Fasting แบบ 5:2
คือการกินอาหารตามปกติ 5 วัน และกินอาหารแบบ Fasting 2 วัน ซึ่งจะเลือกทำติดกัน 2 วันหรือห่างกันก็ได้ วิธีนี้จะไม่ใช่การอดอาหารทั้งวัน แต่จะเป็นการลดปริมาณอาหารให้น้อยลง
แบบที่ 5
วิธีลดน้ำหนัก Intermittent Fasting แบบ The Warrior Diet เป็นการอดอาหารในช่วงกลางวันดื่มได้แค่น้ำเปล่า และมารับประทานอาหารหนักในมื้อค่ำเพียงมื้อเดียวเท่านั้น
แบบที่ 6
Intermittent Fasting ADF (Alternate Day Fasting)
เป็นอดอาหารแบบวันเว้นวัน ซึ่งจัดว่าเป็นวิธีค่อนข้างหักโหมเพราะต้องอด อาหาร 1 วัน กินอาหาร 1 วัน แล้วกลับมาอดอีก 1 วัน แต่ทั้งนี้ก็เหมือนกับ IF สูตร 5:2 เพราะในวันที่ Fast เราสามารถกินอาหารแคลอรีต่ำได้ แต่ต้องกินให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
การลดน้ำหนักแบบ IF เป็นการปรับพฤติกรรมการกินอย่างให้สอดคล้องกับหลักความต้องการของร่างกายเรา ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำ IF คือ สุขภาพต้องมาก่อนเสมอ ไม่ควรฝืนร่างกาย หากไม่ไหวก็ควรหยุด ขอให้ทุกคนสนุกกับการลดน้ำหนักนะคะ และเราเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่อยากจะหุ่นดี เราจะหุ่นสวยไปด้วยกันนะคะ แล้วมาพบกันใหม่บทความหน้านะคะ สวัสดีค่ะทุกคน🙇🏻‍♀️
1
22ศรัณย์พร_กิจกรรมที่1.1บล็อกเกอร์มือใหม่
โฆษณา