28 มิ.ย. 2022 เวลา 00:00 • ธุรกิจ
จากคนที่พลังเหลือล้น อยากทำโน้นทำนี่ มีไอเดียเต็มไปหมด แต่จู่ๆ ก็ไร้เรี่ยวแรงไม่มีกะจิต กะใจจะทำอะไรสักอย่าง
นี่อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า “คุณกำลังหมดไฟ”
มีทฤษฎีที่น่าสนใจอธิบายว่าอาการหมดไฟนี้ว่า มีต้นเหตุเชื่อมโยงมาจาก “ความเครียด” นั่นเอง
โดยทฤษฎีที่ว่านี้ ถูกนำเสนอโดย Dr. Stevan E. Hobfoll ในปี 1989 มีใจความสำคัญที่ว่า
มนุษย์จะทุ่มเทเรียวแรงเพื่อให้ได้มา หรือพยายามรักษาระดับทรัพยากรที่ตัวเองมีอยู่ ไม่ว่าจะเป็น ของที่จับต้องได้อย่าง ข้าวของเครื่องใช้ อาหาร หรือแม้กระทั่งสถานะ ความภาคภูมิใจในตัวเอง ชื่อเสียง การเงิน หรือว่าเงินทอง ซึ่งสิ่งนี้แหละที่เป็นต้นตอให้เกิด ‘ความเครียด’
เมื่อเราโหมทำงานหนัก ไม่พักผ่อนเป็นเวลานานๆ ติดต่อกัน สะสมความเครียดเอาไว้ ก็จะตามมาด้วยการ “หมดไฟ ไม่ไหวจะทำงาน” นั่นเอง
วันนี้ผมมี 7 วิธี ชาร์ตแบตให้ตัวเองมาฝากกันครับ
1. เปลี่ยนไปทำเรื่องที่ตัวเองชอบ
เวลาที่สมองล้าต่อให้พยายามเค้นให้ตาย ไอเดียดีก็ไม่ออกมาหรอกครับ
ถึงเวลาพัก ก็จะต้องพักจริงๆ ลองวางจะงานตรงหน้า สลับไปทำสิ่งที่ตัวเองชอบ ไม่ว่าจะเป็น ดูหนัง ฟังเพลง ช้อปปิ้ง ใช้เวลาไปกับกิจกรรมที่ทำให้เรารู้สึกดี จะทำให้มีพลัง มีใจกลับมาฮึดสู้งานอีกครั้ง
2. ลองทำอะไรใหม่ๆ
หลายครั้งที่เวลาอยู่กับอะไรเดิมๆ นานๆ มันทำให้เกิดความรู้สึกเบื่อหน่าย และไม่เกิดการเรียนรู้ใหม่ๆ ให้มองหากิจกรรมที่เปิดโอกาสให้เราได้พัฒนาสกิลใหม่ ความท้าทายนี่แหละ ที่อาจที่ทำให้คุณได้ค้นพบสิ่งที่ชอบแบบคาดไม่ถึง
3. หลบไปพักใจ
การท่องเที่ยวเป็นการบำบัดที่ดีมากวิธีนึง การใช้เวลากับธรรมชาติ หันไปมองนอกหน้าต่างมาก คุณจะค้นพบว่า โลกนี้มันมีเรื่องน่าตื่นเต้น มันกว้างใหญ่มากกว่าปัญหาที่คุณพบเจอ
สูดหายใจเข้าลึกๆ ปล่อยวาง และปล่อยให้ตัวเองถูกโอบกอดด้วยธรรมชาติ แค่นี้ก็เป็นการเติมพลังใจที่ให้ผลลัพธ์ดีมากๆ วิธีหนึ่ง
4. หาต้นแบบที่คุณชอบ
การมีต้นแบบ ก็เหมือนกับการที่คุณได้เจอเข็มทิศ
การมี Role Model นอกจากทำให้เกิดแรงบันดาลใจ ยังทำให้คุณรู้ทิศทางที่จะต้องเดินไปอีกด้วย
ไม่จำเป็นจะต้องเป็นคนสำเร็จระดับโลก อาจเป็นคนใกล้ตัวอย่าง คุณพ่อ คุณแม่ หรือหัวหน้าในที่ทำงาน เป็นใครก็ได้ที่จะช่วยให้คุณภาพชัดเจน ถึงคนที่คุณอยากจะเป็นจริงๆ
5. เติมความรู้ใหม่ๆ
หลายครั้งความหงุดหงิดของคนเราก็จากเรื่องที่เราไม่รู้ และทางออกที่ง่ายที่สุด ก็คือ ก็ไปหาความรู้ใหม่ๆ ซะ อาจจะเริ่มต้นด้วยการหนังสือที่คุณชอบสักเล่ม บทความที่คนสนใจสักบท หรือแม้แต่ลงเรียนเสริมทักษะที่คุณสนใจ
การหมั่นเติมความรู้อยู่เสมอ จะทำให้คุณค้นพบแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการลงมือทำได้อีกด้วย
6. เขียน To do list
แน่นอนว่า ช่วงหมดไฟ คนเราจะไม่มีกะจิตกะใจจะทำงานอะไรหรอก สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ งานจะสุมกองเป็นภูเขา และถ้าคุณไม่มีวิธีการจัดการงานเหล่านั้น ยิ่งจะทำให้ทุกอย่างแย่ไปหมด
การทำ To do list ใช้เวลาน้อยมาก ไม่ถึง 10 นาทีด้วยซ้ำ แต่มันเป็นเครื่องมือช่วยให้คุณมีหมุดหมาย รู้ว่าเราอยู่ตรงไหนแล้ว และเหลือเป้าหมายอะไรอีกบ้าง
7. นอนหลับ พักผ่อน
เมื่อลองทำมาหลายวิธีแต่ก็ยังไม่ได้ผล วิธีที่ง่ายที่สุดอย่างการนอนหลับสักงีบอาจช่วยคุณได้
การนอนอย่างมีคุณภาพ คือ หยุดคิดถึงเรื่องงาน ไม่ไถมือถือ ให้ใจได้พักจากโลกที่หมุนเร็วๆ นี้บ้าง
เมื่อได้นอนหลับอย่างเต็มอิ่ม คุณก็จะตื่นมาด้วยความสดใส มีกำลังใจแบบเต็มแม็กซ์ และพร้อมสำหรับวันใหม่
ถึงเราจะเชื่อว่าตัวเองแข็งแกร่งแค่ไหน แต่อาการหมดไฟก็เป็นสัญญาณที่บอกให้คุณต้องพักบ้าง
สุดท้ายอย่าเอาแต่โหมทำงานจนร่างพัง
1
ลองเอาวิธีทั้ง 7 ข้อนี้ไปปรับใช้กันดูครับ
#trickofthetrade #selfdevelopment

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา