รู้หรือไม่ ว่าในช็อกโกแลตก็มี “คาเฟอีน” ?
หากพูดถึง “คาเฟอีน” ในอาหารหรือเครื่องดื่ม หลายๆ คน คงนึกถึงกาแฟเป็นอันดับแรกใช่ไหม?
ซึ่งก็ไม่ผิด ...เพราะในกาแฟแก้วเข้มยามเช้าของชาวกาแฟนั้นมีคาเฟอีนอยู่มาก หลายๆ คน โดยเฉพาะพนักงานออฟฟิศเลือกดื่มกาแฟเพื่อให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า และทำให้สมองตื่นตัวก่อนเริ่มต้นทำงาน แต่หากดื่มกาแฟมากเกินไปก็อาจจะทำให้นอนไม่หลับได้
นอกจากในกาแฟแล้วคาเฟอีนยังมีอยู่ในอาหารและเครื่องดื่มอื่นๆ เช่น ชา โกโก้ น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง รวมทั้งช็อกโกแลต แม้จะไม่ได้มีปริมาณมากเหมือนการดื่มกาแฟ แต่การทานช็อกโกแลตในปริมาณที่มากจนเกินไปก็อาจจะทำให้นอนไม่หลับได้เช่นเดียวกัน
ประเภทของคาเฟอีนที่พบในช็อกโกแลตนั้นเป็นคาเฟอีนจากธรรมชาติ พบในเมล็ดคาเคาที่เป็นส่วนผสมสำคัญในการผลิตช็อกโกแลต ซึ่งในช็อกโกแลตแต่ละประเภทก็มีปริมาณคาเฟอีนที่แตกต่างกันตามปริมาณของเนื้อคาเคาที่ผสมอยู่
- ดาร์กช็อกโกแลต ที่มีเนื้อคาเคาอยู่ประมาณ 70 - 85 % ขนาด 100 กรัม จะมีปริมาณคาเฟอีนอยู่ประมาณ 80 มิลลิกรัม
- ดาร์กช็อกโกแลต ที่มีเนื้อคาเคาอยู่ประมาณ 50 - 69% ขนาด 100 กรัม จะมีปริมาณคาเฟอีนอยู่ประมาณ 70 มิลลิกรัม
- ช็อกโกแลตนม ที่มีเนื้อคาเคาอยู่ประมาณ 10 - 20% ขนาด 100 กรัม จะมีปริมาณคาเฟอีนอยู่ประมาณ 20 มิลลิกรัม
ในช็อกโกแลตแสนอร่อยที่เราทานกันนั้นมีคาเฟอีนอยู่ถึงแม้ว่าจะ “มีน้อย แต่ก็มีนะ” ดังนั้นควรทานในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ควรบริโภคเกิน 300 – 400 มิลลิกรัมต่อวัน เพื่อไม่ให้การทานช็อกโกแลตที่ชอบส่งผลเสียต่อร่างกายและสุขภาพของเรานั่นเอง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
- โทร. 081-979-9565 ต่อ 2 Bluekoff Showroom
- Line@ : https://page.line.me/bluekoff
- Inbox Facebook : http://m.me/bluekoff
#Bluekoff #ArtisanalChocolate #DarkChocolate #Chocolate #Cocoa #cocoaroaster #thaichocolate #chocolatemaker #beantobar #craftchocolate
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
