วิธีดึงดูดลูกค้าสไตล์ร้านลับ
เคยสงสัยไหมครับว่าทำไมร้านอาหารบางแห่งที่อยู่ไกลและไปลำบากมาก ถึงดึงดูดลูกค้าเก่าและใหม่เข้าร้านได้ตลอด ไม่แพ้ร้านที่ไปง่ายในทำเลดีๆ
เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ผมมีโอกาสได้ไปร้านอาหารกึ่งคาเฟ่แห่งหนึ่งมา ก่อนไปผมหาข้อมูลคร่าวๆ แล้วว่าร้านนี้ตั้งอยู่ตรงไหน ตอนเดินทางผมรู้สึกว่าร้านค่อนข้างไกล มีลัดเลาะเข้าไปในซอยลึกๆ แคบๆ และเมื่อลงรถแล้วยังต้องเดินต่อพอสมควร เรียกได้ว่าเล่นเอาเหงื่อตกเลยทีเดียว
พอพูดถึงภาพการเดินทางแบบนี้ หลายคนคงขี้เกียจไปใช่มั้ยครับ แต่ในวันนั้น ผมกลับเห็นว่ามีลูกค้าเข้ามาที่ร้านอย่างไม่ขาดสาย
สำหรับผม ร้านแบบนี้ ผมจะนิยามว่าเป็น ร้านลับ
ร้านที่มายาก แต่หลงรักง่าย ใครได้มาแล้วจะติดใจและกลับมาอีกเรื่อยๆ
ผมสงสัยว่าร้านนี้มีเคล็ดลับอะไร เลยนั่งสังเกตรายละเอียดต่างๆ อยู่พักใหญ่ จนสุดท้ายถอดบทเรียนออกมาได้ 6 ข้อครับว่า บรรดาร้านลับทั้งหลาย ทำอะไรเหมือนกันบ้าง
1.เรื่อง ‘การยิงแอด’
ผมเจอร้านนี้ในโซเชียลมีเดียครับ ตอนนั้นเป็นคืนวันศุกร์พอดี เวลาสักสี่ห้าทุ่ม ผมคิดอยู่ว่าวันเสาร์จะไปนั่งทำงานที่ไหน แล้ว ads ของร้านนี้ก็โผล่มาเหมือนรู้ใจผมเลย ผมคิดว่าการยิง ads ใส่ลูกค้าในคืนวันศุกร์ และเสาร์ หรือเช้าวันอาทิตย์เป็นวิธีที่ได้ผลดี เพราะคงมีหลายคนที่อยากพักผ่อน แต่นึกไม่ออกว่าจะไปไหนในวันหยุดสุดสัปดาห์
2.เรื่อง ‘การลงรูปในโซเชียลมีเดีย’
เหตุผลที่ทำให้ผมตัดสินใจมาร้านนี้มี 2 อย่าง อย่างแรกคือภาพบรรยากาศร้านที่ดูสบายจนผมรู้สึกว่าถ้าได้ไปคงรู้สึกผ่อนคลายแน่นอน อย่างที่สองคือภาพอาหารที่ลูกค้าแท็กมาแล้วบอกว่ารสชาติอร่อย
ที่สำคัญ ไม่ว่าจะลงภาพอะไร ทางร้านจะใส่ใจเขียนแคปชั่นเสมอ จนผมรู้สึกว่าอยากลองไปสัมผัสบรรยากาศและรสชาติที่ร้านบรรยายให้ได้เลย
3.เรื่อง ‘การบริการของพนักงาน’
ด้วยความที่วิธีมาร้านนี้ค่อนข้างซับซ้อน ตอนขาไปผมเลยโทรถามเส้นทางกับพนักงาน 2 ครั้ง ซึ่งพนักงานก็รับสายด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น และไม่แสดงอาการรำคาญใดๆ แม้ผมจะถามหลายอย่างก็ตาม
ตอนถึงร้าน พนักงานก็ออกมาบริการและยื่นเมนูให้ทันที ทำให้ผมที่มาครั้งแรกไม่งงว่าต้องสั่งอาหารยังไง หรือนั่งในจุดไหนได้บ้าง
4.เรื่อง ‘เมนูอาหาร’
ตอนผมเปิดดูเล่มเมนูของร้านนี้ ผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่แค่อาหาร แต่มันคืองานศิลปะ เพราะทางร้าน ‘วาด’ ทุกเมนูออกมาอย่างสวยงาม ต่างจากร้านทั่วไปที่ใช้รูปถ่ายธรรมดา ผมเลยรู้สึกประทับใจ ตั้งแต่ยังไม่ได้ลองทานอะไรเลย
ในเรื่องของรสชาติ อาหารที่นี่มีเอกลักษณ์ และผมสัมผัสได้ถึงความครีเอทีฟ อย่างบางเมนูคือถ้าไม่มาร้านนี้ก็ไม่รู้ว่าจะหาทานที่ไหนได้อีก
5.เรื่อง ‘บรรยากาศ’ ร้าน
ตอนอยู่ในร้าน ความเครียดเรื่องงานของผมค่อยๆ จางหายไป เพราะตั้งแต่ทางเข้ามีต้นไม้ซึ่งให้ความรู้สึกร่มรื่น และอีกเหตุผลคือทางร้านเปิดเพลงสบายๆ คลอตลอดเวลา ไม่ว่าใครเข้ามาก็คงรู้สึกผ่อนคลาย
นอกจากนี้ ทางร้านยังมีที่นั่งให้เลือกหลากหลายแบบ ขึ้นอยู่กับความชอบของลูกค้า และแต่ละโต๊ะจะถูกจัดวางแบบห่างกันกำลังดี ผมเลยรู้สึกมีพื้นที่ส่วนตัว พูดอะไรไม่ต้องกลัวโต๊ะข้างๆ ได้ยิน
6.เรื่อง ‘ห้องน้ำ’
เดี๋ยวนี้ไม่ว่าไปร้านอาหารที่ไหนอย่างน้อยต้องมีห้องน้ำสักหนึ่งห้องไว้ให้บริการ แต่ที่นี่มีห้องน้ำหลายห้อง แต่ละห้องมีถังขยะสองใบ และมีทิชชู่ให้สองม้วนใหญ่ นั่นหมายความว่า ปัญหาขยะล้นถังออกมา กับปัญหาทิชชู่หมดไวจะลดลง
การดูแลห้องน้ำแบบนี้ดียังไง
ในเมื่อลูกค้าเลือกมาสัมผัสประสบการณ์ดีๆ ที่ร้าน ทั้งก่อนและหลังทานอาหารพวกเขาก็ควรรู้สึกสบายใจตอนเข้ามาใช้ห้องน้ำเช่นเดียวกัน แต่ถ้าเราไม่ใส่ใจ ลูกค้าคงเซ็งและบ่นว่าห้องน้ำร้านเราไม่ได้เรื่องเลย
สรุปง่ายๆ ว่าร้านอาหารที่เดินทางไปยากขนาดนี้ควรทำยังไงก็ได้ให้ “ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่าที่อุตส่าห์สละเวลามา” และถ้าตอนนี้ร้านของใครตั้งอยู่ในทำเลไม่ดีเท่าไหร่ก็อย่าเพิ่งถอดใจไป ลองหา ‘จุดขาย’ ของธุรกิจตัวเองให้เจอนะครับ
ทั้ง 6 ข้อที่ผมเล่ามาเป็นเพียงเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ เพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า สำหรับใครที่อยากพัฒนาร้านอาหารที่ทำอยู่ ลองนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้ดูนะครับ
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
