12 ก.ค. 2022 เวลา 01:08 • หุ้น & เศรษฐกิจ
Perfect Storm ของ ตลาดเกิดใหม่
ผลพวงของสงครามรัสเซีย ยูเครน ได้นำไปสู่ การขาดแคลนพลังงาน วิกฤติอาหาร ปัญหาเงินเฟ้อ และ ฉุดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจไปทั่วโลก
เงินเฟ้อสูงขึ้น กดดันให้ธนาคารกลาง ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และ การที่เหล่าประเทศพัฒนาแล้วมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ก็กำลังเป็นฝันร้ายของกลุ่มประเทศในตลาดเกิดใหม่
📌 ค่าเงินในตลาดเกิดใหม่ถูกเทขายอย่างรุนแรง
หลายๆ สกุลเงินในตลาดเกิดใหม่ กำลังอ่อนค่าลง เป็นผลมาจาก การที่สหรัฐอเมริกา ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และ ความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกจะถดถอย ปัจจัยเหล่านี้ ทำให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์และหันไปพึ่งตลาดที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า เช่น สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
จากข้อมูลของ Bloomberg พบว่า ดัชนี MSCI Emerging Markets Currency Index สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2015 ในฝั่งของเอเชีย เงินเปโซของฟิลิปปินส์ลดลงซึ่งลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปี ในขณะที่ ค่าเงินวอนของเกาหลีใต้ก็อ่อนค่าที่สุดในรอบ 13 ปีเช่นกัน
1
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นทำให้เงินรูเบิลของรัสเซียอ่อนค่าที่สุดในรอบ 4 เดือน และเงินเปโซของโคลอมเบียร่วงลงถึง 2% สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
ทั้งอัตราตลาดดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วและภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกจะทำให้ตลาดเกิดใหม่เจ็บปวด
โดย Bloomberg ได้ติดตามสกุลเงินในตลาดเกิดใหม่ และสกุลเงินหลักทั้งหมด 23 สกุลได้อ่อนค่าลงในช่วงเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงโดยรวมกัน 125 basis point
1
ในการประชุม 2 ครั้งล่าสุด นอกจากนี้ เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้กล่าวว่าธนาคารกลางสหรัฐมีแนวโน้มที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 basis point หรือ 75 basis point ในการประชุมเดือนกรกฎาคม
1
📌 การเมืองระหว่างประเทศ อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ตลาดเกิดใหม่ ตกอยู่ในความเสี่ยง
ความกังวลถึงปัญหาการเมืองระหว่างประเทศ ไม่ได้อยู่แค่สงครามรัสเซีย-ยูเครนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความเป็นไปได้ที่จีนจะบุกไต้หวันด้วย ความตึงเครียดทางการเมืองนี้ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ปัญหาการชะลอตัวทางเศรษฐกิจแย่ลง
ในขณะเดียวกัน สงครามในยูเครนได้ผลักดันต้นทุนของการนำเข้า และ อัตราเงินเฟ้อในตลาดเกิดใหม่สูงขึ้น
📌 ดอกเบี้ยสูง ต้นทุนกู้ยืมเพิ่ม
อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้สำหรับตลาดเกิดใหม่ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะทำให้ประเทศเกิดใหม่มีต้นทุนมากมากขึ้น เมื่อประเทศเหล่านั้นยืมเงินในสกุลเงินที่แข็งค่าเช่น เงินดอลลาร์
ในอดีต การกู้ยืมในสกุลเงินแข็งมักเรียกว่า "บาปดั้งเดิม" ของตลาดเกิดใหม่
โดยวิกฤติการกู้ยืมครั้งแรกเกิดขึ้นในช่วงปลายทศวรรษ 1970 และ 1980 ไม่นานมานี้ วิกฤตหนี้ในช่วงปลายทศวรรษ 1990 ดำเนินไปในรูปแบบที่ใกล้เคียงกัน
ในปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในสหรัฐฯ และการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ ทำให้ต้นทุนการกู้ยืมในตลาดเกิดใหม่สูงขึ้นอีกครั้ง
กลุ่มประเทศเปราะบาง เช่น ศรีลังกาและเลบานอนกำลังเผชิญกับวิกฤตดุลการชำระเงิน ประเทศต่างๆ ในทวีปแอฟริกาต่างก็กังวลเกี่ยวกับสัญญาณเศรษฐกิจเช่นกัน
1
แซมเบียซึ่งได้รับการช่วยเหลือจาก IMF มูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปีที่แล้ว ยังคงอยู่ในการเจรจากับเจ้าหนี้และกำลังดิ้นรนเพื่อรีไฟแนนซ์หนี้
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าตลาดเกิดใหม่ทั้งหมดจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่ากังวล เช่น แอฟริกาใต้อยู่เป็นประเทศที่สถานการณ์ค่อนข้างดีกว่าหลายแห่ง หนี้ของแอฟริกาใต้อยู่ในสกุลเงินที่แข็งค่าขึ้น เช่น ดอลลาร์สหรัฐเพียงประมาณ 10% และหนี้ของแอฟริกาใต้ส่วนใหญ่อยู่ในสกุลแรนด์ ด้วยเหตุนี้ แอฟริกาใต้จึงค่อนข้างต้านทานต่อค่าเงินที่ลดลงได้ อย่างน้อยก็ในแง่ของความสามารถในการชำระหนี้
ด้วยปัจจัยทั้งหมดนี้ รัฐบาลควรเตรียมพร้อมสำหรับพายุที่สมบูรณ์แบบนี้ก่อนที่จะทำลายเศรษฐกิจ
Bangkok Bank Post ฉบับวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2565
ผู้เขียน : ณิศรา วาดี Economist, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
▶️ ติดตามช่องทางของ Bnomics ได้ที่
Line OA : @Bnomics https://bit.ly/3eYkTJC
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
References :

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา