14 ก.ค. 2022 เวลา 07:00 • กีฬา
การปรับกฎกติกาตั้งแต่ฤดูกาล 2022-23 เป็นต้นไป
สวัสดีคุณผู้อ่านทุกท่านครับ
ในขณะนี้ก็อยู่ในระหว่างการแข่งขัน Summer League ครั้งใหญ่ที่สุดที่ Las Vegas อยู่นะครับ ซึ่งครั้งนี้จะพิเศษหน่อยที่ทางลีกจะมีการทำแหวนแชมป์เอาไว้ให้ด้วย นับเป็นครั้งแรกเลยที่ทางลีกตัดสินใจจะทำแหวนให้กับ Summer League แบบนี้
แหวนแชมป์ NBA Summer League
นอกจากนั้น ปกติแล้วการที่ทางลีกต้องการจะทดลองการปรับใช้กฎกติกาใหม่ๆ ทางลีกก็จะเริ่มจากการที่นำมาทดลองใช้ใน Summer League ก่อนอีกด้วย (บางครั้งก็จะทดลองใช้ใน G-League ร่วมด้วย) หลังจากที่ทราบและเห็นผลกันไปแล้ว จึงนำข้อสรุปดังกล่าวไปพูดคุยกับสมาชิกทั้งหมด 30 ทีมในลีก เพื่อพิจารณาและนำไปปรับใช้ในฤดูกาลปกติกันต่อไป
ซึ่งในฤดูกาล 2022-23 ที่จะถึงนี้ ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงกฎกติกาด้วยเช่นกัน โดยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญจะมีอยู่ทั้งสิ้น 2 ข้อ ดังนี้
1. ระบบ Play-in จะถูกนำมาใช้อย่างต่อเนื่องทุกฤดูกาลนับจากนี้
ระบบ Play-in Tournament นั้น ได้ถูกเริ่มขึ้นเมื่อฤดูกาล 2019-20 ในช่วงที่ฤดูกาลต้องหยุดชะงักกลางคันเนื่องจากวิกฤต Covid-19 และทำให้แต่ละทีมไม่สามารถทำการลงแข่งขันครบ 82 นัดได้ ทางลีกจึงใช้วิธีนี้ขึ้นมาเพื่อให้การจัดอันดับมีความยุติธรรมมากขึ้น
ระบบนี้เริ่มเป็นที่นิยมและถูกนำมาใช้ต่อนับตั้งแต่นั้น โดยมีการเปลี่ยนกติกาและจำนวนนัดให้เหมาะสมมากขึ้น แต่ก็ยังต้องให้ทีมสมาชิกทำการ Vote แบบปีต่อปีว่าต้องการที่จะนำระบบนี้มาใช้ในฤดูกาลนั้นๆ หรือไม่
ซึ่งเสียงตอบรับทั้งจากทางลีก ทางสมาชิก และทางคนดู ต่างก็มีผลออกมาในทางที่ดี ดังนั้น ทางลีกจึงทำการนำเสนอว่าจะใช้ระบบนี้อย่างถาวรตั้งแต่ฤดูกาล 2022-23 เป็นต้นไป และผ่านการ Vote ลงคะแนนอนุมัติเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั่นเอง ทำให้ไม่ต้องมาพิจารณาใหม่อีกครั้งเป็นรายฤดูกาลเหมือนเดิมอีกต่อไป
2. การเพิ่มบทลงโทษการ Transition "Take Foul" โดยเฉพาะกรณีสวนกลับเร็วหรือ Fast-Break
ในกรณีนี้คงต้องเกริ่นก่อนว่า Fast-Break คืออะไร
หากได้ทำการติดตามการแข่งขัน ในบางจังหวะจะเกิดเหตุการณ์ที่มีการสลับฝ่ายในการบุกอย่างรวดเร็ว เช่น ทีม A ทำการบุกแล้วไม่สามารถจบการบุกได้จนต้องเสียการครอบครองบอลให้ทีม B และทีม B ทำการสวนกลับอย่างรวดเร็วโดยที่ทีม A วิ่งกลับลงมาตั้งรับไม่ทัน กรณีนี้จะถูกเรียกว่า Fast-Break
หากยังไม่เห็นภาพชัด ลองดูทางด้านล่างนี้ น่าจะเห็นภาพได้ชัดขึ้นครับ
ปกติแล้ว ทีมที่ต้องเป็นฝ่ายตั้งรับเวลาโดน Fast Break จะสามารถทำการ Foul เพื่อหยุดเวลาและการบุกของฝ่ายตรงข้ามได้ โดยอาจจะเสียแค่การส่งบอลจากข้างสนาม (กรณี Foul ทีมยังไม่ครบ) หรือยิงลูกโทษ (กรณี Foul ทีมครบหรือเกิดการ Shooting Foul) เหมือนการ Foul ทั่วไป ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่เกือบทุกทีมจะใช้กันเพื่อหยุดคู่แข่งในการทำแต้ม
แต่หลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงกติกา การทำ Foul ในลักษณะนี้จะโดนลงโทษเพิ่มแล้ว นั่นคือ นอกจากฝ่ายบุกที่ทำการ Fast Break จะได้ยิงลูกโทษฟรี 1 ครั้งแล้ว ก็จะยังได้ส่งบอลจากข้างสนามเป็นฝ่ายบุกต่อได้อีกด้วย
กลายเป็นว่าทีมที่ขัดขวางการ Fast Break อาจต้องเสียแต้มมากที่สุดถึง 4 คะแนน จากของเดิมที่จะเสียแค่ 2 หรือ 3 คะแนนเท่านั้น ถือว่าเสียหายมากกว่าเดิมพอสมควร ทางลีกจึงได้นำกติกานี้มาปรับใช้เพื่อลดจังหวะการ Foul แบบนี้ลงให้ได้นั่นเอง (ส่วนหนึ่งก็ถือเป็นจังหวะสวยๆ ที่สื่อมักชอบใช้ในการทำ Highlight ด้วย จึงไม่อยากให้มีอะไรมาขัด)
ซึ่งทั้ง 2 ข้อที่กล่าวไปนั้นจะเริ่มนำมาใช้ตั้งแต่ฤดูกาล 2022-23 ที่จะถึงนี้เลยล่ะครับ หลังจากที่ทำการทดสอบแล้วผลออกมาเป็นที่น่าพอใจ และผ่านการอนุมัติจากทีมสมาชิกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จริงๆ ยังมีการพูดคุยในกรณีอื่นๆ ด้วย แต่เนื่องจากจะยังไม่ได้นำมาใช้ในฤดูกาลใหม่ที่จะถึงนี้ จึงขอไม่นำมาพูดถึงครับ
หวังว่ากติกาที่เปลี่ยนแปลงไปนี้จะสามารถทำให้รับชมการแข่งขัน NBA กันได้อย่างสนุกมากขึ้นไม่มากก็น้อยนะครับ
แล้วพบกันใหม่ในโอกาสหน้าครับ
ถ้าชอบก็ฝาก Share และกดติดตามด้วยนะครับ
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก
โฆษณา