19 ก.ค. 2022 เวลา 06:30 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
The Black Phone (2021) – ต่อสายนิล วิญญาณอุปถัมภ์
เคยจำได้ว่าช่วงชีวิตวัยเด็ก เรามักถูกปลูกฝังให้กลับบ้านก่อนตะวันตกดิน และให้เชื่อว่านอกบ้านช่วงเวลากลางคืนเต็มไปด้วยอันตราย หรือในบางครั้งเราก็มักจะได้ยิน “พวกลักเด็ก” เป็นคำกล่าวอ้างของผู้ใหญ่ที่จะทำให้เรากลัวและไม่กล้าออกจากบ้านยามดึก ประจวบเหมาะกับหนังเรื่องใหม่ของผู้กำกับ ฯ สก็อตต์ เดอริคสัน อย่าง The Black Phone ที่มันว่าด้วยเรื่องราวของเด็กที่ถูกลักพาตัวพอดี
The Black Phone เล่าเรื่องในช่วงปี 1978 ในเมืองเดนเวอร์ ที่ย่านที่พักอาศัยตกอยู่ภายใต้ความหวาดหวั่นของรถตู้ลักเด็ก ด้วยฝีมือของโจรสมญา “นักฉุด” สองพี่น้อง ฟินนีย์ และ เกวนโดลีน เบล็ค อาศัยอยู่ร่วมกับพ่อผู้ติดเหล้าและชอบใช้ความรุนแรง วันนึง ฟินนีย์ ถูกนักฉุดลักพาตัวไป เกวน ซึ่งมีญานสัมผัสขณะฝันจึงพยายามหาทางช่วยพี่ชายของเธอ ขณะเดียวกันที่ ฟินนีย์ ที่พยายามเอาตัวรอด กลับพานพบสายปริศนาที่ดังขึ้นจากโทรทัศน์ทมิฬที่ติดไว้ในห้อง ทั้งที่มันไม่ได้ต่อสายไว้ด้วยซ้ำ..
ตัวหนังเล่าเรื่องอย่างค่อยเป็นค่อยไป เปิดฉากด้วยการทำให้เราได้เห็นสภาพแวดล้อมของเมืองเดนเวอร์ในยุคนั้น ซึ่งรั้วบ้านอยู่ติดกัน ก่อนจะใส่ฉากรถตู้ลักเด็กเข้ามา แม้ไม่โฉ่งฉ่างแต่ก็น่าพรั่งพรึง หนังเล่าเป็นเส้นตรง ภายใต้กลิ่นอายส่วนผสมความระทึกขวัญและเหนือธรรมชาติหน่อย ๆ ก่อนที่ช่วงองค์สองที่ฟินนีย์ถูกลักพาตัว หนังจึงนำพาเอากลิ่นสยองขวัญใส่เข้ามาแทรกเป็นระยะ ๆ พร้อมด้วยจังหวะการปรากฎตัวของอีธาน ฮอว์ค ได้บทนักฉุดที่น่าพรึงกลัวไม่น้อย
ส่วนที่ดีของหนังอย่างแรกที่ต้องชมก็คือ จังหวะการกำกับของสก็อตต์ เดอริคสัน ที่คุมได้อยู่ ดุลทั้งช่วงเวลาชวนลุ้นในการเอาชีวิตรอดจากเงื้อมมือของนักฉุดและสืบหาสถานที่ ๆ ที่ซ่อนตัวฟินนีย์ รวมถึงช่วงเวลาชวนหลอนจากการต่อสายคุยกับวิญญาณ ก็ทำได้ถึงและพรั่นพรึงอยู่ไม่น้อย แถมเรื่องราวมวลรวม ก็เป็นการผสมกลิ่นอายและแนวทางของหนังสยองขวัญและระทึกขวัญที่เข้าท่ามาก ๆ
นอกเหนือจากนี้ การแสดงของเมสัน เธมส์ ซึ่งรับบทนำและต้องรับมือกับตัวละครนักฉุดที่แสดงโดย อีธาน ฮอว์คส์ ซึ่งแสดงได้อย่างน่าหวาดหวั่นนั้น ก็สามารถทำได้อยู่หมัด ทั้งในช่วงเวลาที่ต้องยืนหยัดกัดฟันสู้หรือแสดงซึ่งภาวะที่แตกร้าว แถมด้วยเรื่องราวที่พูดถึงความน่ากลัวของรถตู้ลักเด็กในยุคนั้นและการพูดถึงความรุนแรงในครอบครัวโดยอ้อม อีกทั้งยังตั้งคำถามถึงการมีของพระเจ้า ก็ทำได้น่าสนใจและชวนขบคิดพอทำเนา
กระนั้นเอง ส่วนตัวเราคิดว่า ตัวไอเดียหลักมีศักยภาพที่น่าสนใจมาก ๆ และมีศักยภาพมากพอที่จะก่อร่างสร้างเป็นเรื่องราวยาว ๆ ได้อีก รวมถึงปมตัวละครที่ถูกเล่าทิ้งไว้ (ซึ่งอาจจะถูกเว้นไว้ให้ตีความเพิ่มเติม) ซึ่งถึงแม้ตัวหนังจะเล่าในสเกลเรื่องราวเท่านี้ แต่ก็ถือว่ามันทำได้อย่างเปี่ยมประสิทธิภาพแล้ว
สรุปแล้ว The Black Phone คือหนังที่มาพร้อมไอเดียเหนือธรรมชาติเปี่ยมศักยภาพ จังหวะกำกับที่แม่นยำ ผสมผสานกลิ่นอายความระทึกขวัญและสยองขวัญได้เข้าท่า ผนวกกับเรื่องราวที่สื่อถึงความน่าสะพรึงกลัวของแก๊งรถตู้ลักเด็กในยุคนั้นและความรุนแรงในครอบครัวได้ชาญฉลาด และการแสดงที่น่าประทับใจของเมสัน เทมส์ และ อีธาน ฮอว์คส ถึงแม้เรื่องราวจะมีศักยภาพน่าสนใจและไปต่อได้ก็ตาม
4 / 5
The Black Phone (2021)
Directed by Scott Derrickson
Screenplay by Scott Derrickson & C. Robert Cargill
Based on "The Black Phone" by Joe Hill

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา