20 ก.ค. 2022 เวลา 06:05 • ไลฟ์สไตล์
Nook Nook Project
ค่ำวันหนึ่งหลังเตรียมปิดร้าน พี่เอกำลังลำเลียงลังเปล่าสำหรับบรรจุเมล็ดกาแฟเก็บกลับโรงคั่ว ทุกอย่างดำเนินไปเป็นปกติเหมือนทุกๆสัปดาห์ กระทั่งน้องในร้านคนหนึ่ง เดินมาบอกกับพี่เอว่า “พี่เอ... นุกอยากลงแข่งชงกาแฟ” จุดเริ่มต้นของ “NookNookProject” หรือ “โปรเจ็กต์หนุกหนุก” ในปีนี้ ก็เริ่มต้นจากคำบอกเล่าง่ายๆในวันนั้นเอง
เรื่องราวการแข่งขันชงกาแฟ โดยที่มี “กาแฟไทย” เป็นโจทย์หลักของกลุ่มพวกเรา (ในนามทีมสหายฯ) ย้อนกลับไปจริงๆแล้วเริ่มตั้งแต่กำเนิดเวทีแข่งขันการชง Brewer Cup Champianship ในเมืองไทย เริ่มขึ้นเป็นครั้งแรก ปี 2016
ปี 2016 : “พี่ปิ” ใช้กาแฟบ้านแม่ตอนหลวง จากไร่ 9-1 Organic Coffee Farm และได้ลำดับที่ 5
ปี 2017 : “น้องหมิว” ใช้กาแฟป่าเมี่ยง จากไร่ 9-1 Organic Coffee Farm และได้ลำดับที่ 4
ปี 2018 : “พี่เอ” ใช้กาแฟเกอิชาไทย มณีพฤกษ์ จ.น่าน ของรองกล้วย และได้ลำดับที่ 2
ปี 2019 : “พี่เอ” ใช้กาแฟลูกเหลืองป่าเมี่ยงและกาแฟบ้านแม่ตอนหลวง จากไร่ 9-1 Organic Coffee Farm และได้ลำดับที่ 6
ไล่สายตาตามลำดับปีควบคู่กับลำดับตำแหน่ง กาแฟไทยมีลุ้นทุกปีและผ่านเข้ารอบไฟนอล 6 คนสุดท้ายมาทุกปี กาแฟไทยมาไกลมากแล้วจริงๆ โดยเฉพาะปี2019 แม้ผลลัพธ์สุดท้าย ทุกคนรู้ว่ากาแฟไทยอยู่บนเวทีเป็นลำดับที่ 6 แต่เรื่องที่ทุกคนไม่รู้และอาจไม่ได้สังเกตก็คือ สายพันธุ์กาแฟที่ผู้เข้าแข่งขันรอบสุดท้ายใช้ในการประกวดปีนั้น
อันดับ 1 Gesha Panama
อันดับ 2 Gesha Columbia
อันดับ 3 Gesha Panama
อันดับ 4 Gesha Columbia
อันดับ 5 Gesha Costa Rica
*อันดับ 6 Catuai Thailand
อันดับ 7 Gesha Panama
เห็นอะไรไหม : กาแฟไทยสายพันธุ์ธรรมดาเพียงหนึ่งเดียวในดงเกอิชานานาชาติ บนเวทีการแข่งขันชงรอบสุดท้าย ผลลัพธ์จากประสบการณ์การชงก็ส่วนหนึ่ง แต่อย่าลืมว่า “คนถือกา” เป็นเพียงผู้เปิดเผยรสชาติ แต่ไม่อาจสร้างสิ่งที่ “ไม่มี” ในกาแฟให้กลายเป็น “มี” ได้
คุณภาพกาแฟที่เลือกมาใช้แข่งในรอบสุดท้ายจึงมีความสำคัญมาก
“ทำไมต้องใช้กาแฟไทยแข่งด้วยล่ะพี่” ใครสักคน ถามพี่เอในคลาสเรียนวิชากาแฟดริป
ตอบพร้อมยิ้มแบบไม่มีลังเลในความคิด “ก็เพราะมันสนุกกว่า... “
ถ้าเป้าหมายแค่ชนะบนเวทีแข่งชงก็คงเลือกกาแฟอะไรก็ได้ที่ดีที่สุดที่หาได้ แต่แล้วยังไงต่อ มันจะเกิดอะไรกับใครอีกบ้างมั๊ย
การที่ทีมแข่งเลือกใช้กาแฟไทย มันส่งผลมากมายกับอีกหลายๆคน เหมือนไม่เกี่ยวแต่มันก็เกี่ยวอยู่ดี เพราะคนชงกาแฟก็คือคนชงกาแฟ ไม่ได้รู้ดีหรือเก่งกาจเรื่องการปลูกหรือการโปรเสสเท่ากับเกษตรกร คนที่รักในสิ่งที่ตัวเองทำย่อมรู้ว่าทำอะไรไปเพื่ออะไร พวกเราคนปลายทาง อยากทำให้เกษตรกรได้รู้ว่าคุณภาพทางรสชาติของกาแฟไทยสามารถไปถึงจุดที่ดีที่สุดได้ขนาดไหน
1
เราต่างทำหน้าที่ของตัวเอง
เผื่อใครไม่รู้ กาแฟที่กลุ่มเราใช้แข่งทุกๆปี คือ ผลงานจากเกษตรกรที่เราทำงานด้วย กาแฟพี่วัล กาแฟรองกล้วย มันคือกาแฟที่มีอยู่จริง กาแฟที่ร้านของเราใช้คั่วขาย ใช้ชงเสิร์ฟในร้าน เป็นกาแฟที่มีให้คนทั่วไปสั่งกินได้จริง ไม่ได้เกิดมาเพียงเพื่ออยู่แต่บนเวทีแข่ง
ให้คนทั่วไปได้รับรู้ “ความดี”จากรสชาติที่ได้สัมผัส ไม่ใช่ให้ฟังรสชาติจากคำบอกเล่า
กาแฟที่ถูกใช้ไม่เพียงเปิดเผยรสชาติอันเป็นความงามที่ถูกส่งต่อ แต่ยังเปิดเผยถึงเส้นทางการทำงานของ “ทุกๆคน” ที่รักในสิ่งที่ตัวเองทำ
ความภูมิใจและชัยชนะ (หรือไม่) จึงไม่ใช่แค่ของ “คนชง” แต่เป็น “ทุกๆคน” บนเส้นทางเดียวกัน
หลายปีที่ผ่านมา ขณะที่พี่เอพี่ปิยุ่งงานพัฒนาคุณภาพรสชาติ ที่หน้าร้านหอศิลป์ฯ “น้องนุก” คือ ผู้ที่ได้รับมอบหมายและได้รับความไว้วางใจชงกาแฟให้ลูกค้ามาตลอด 2 ปี
หากไม่นับรวมพี่ๆแล้ว สำหรับร้านของเรา “น้องนุก” คือ ผู้ที่ชงกาแฟดำให้ลูกค้ามากที่สุด
Thailand Brewer Cup Champianship 2023 กับกาแฟไทยที่ดีที่สุดที่เรามี ถ่ายทอดผ่าน “นักชง” มือดีที่สุดที่เรามี
การแข่งขันชงและการพัฒนากาแฟไทย ฟังดูคนละเรื่องกัน แต่เป้าหมายเดียวกัน
เพราะกาแฟไทยยังไงก็ต้องไปต่อ.
#ไปต่อแบบหนุกหนุก#NookNookProject
ปี2020 ทีมสหายฯลงสมัครไม่ทัน
ปี2021 งดจัดการแข่งเนื่องจากสถานการณ์โควิด
ปี2022 น้องนุกสมัครลงแข่ง ผู้ชนะจะได้เป็นตัวแทนไปแข่งต่อระดับเวิล์ดในปี 2023
โฆษณา