ของขวัญที่ต้องขอบคุณ.... เพราะ...
1. ขอบคุณ ทำกับข้าวไม่อร่อย
เพราะ เพิ่งหัดทำกับข้าวตอนที่โควิดมา ก็คือเมื่อสองปีก่อนได้ เลยแอบจะท้อนิดหน่อย เพราะลูกบอก แม่ทำกับข้าวไม่อร่อยเลย ไม่เหมือนยาย และตลอดมายายก็ทำให้กินมาตลอดเลย
รู้สึก ขณะเกิดเหตุการณ์ น้อยใจ ไม่มีความถนัดในเรื่องการทำอาหาร แต่การกินนั้นถนัดมากมาย
รู้สึก ขณะขอบคุณ ท้อบ้างไรบ้าง แต่ก็ไม่ยอมแพ้ เลิกทำนะ ต้องพยามต่อไป ไม่ใช่เรื่องคอคาดบาดตายเสียหน่อย
รู้สึก หลังขอบคุณ กำลังใจ ที่จะพยามปรับปรุงรสชาติอาหารของตนเอง เวลาที่ทำออกมาแล้วไม่ดีก็แค่ยิ้มให้กับมันเท่านั้นเอง แล้วครั้งหน้าเอาใหม่ ใครจะมาเก่งแต่เกิด ถนัดในทุกเรื่อง จริงไหม ดังนั้น ยิ้มเข้าไว้ ยิ้มจากหัวใจอย่างน้อยก็ตั้งใจทำให้ลูกน้อยของแม่ทาน
2. ขอบคุณ ไม่เก่งคำนวณ
เพราะ ไม่ถนัดเลยเรื่องคณิตศาสตร์ แต่ไหนแต่ไรมา เลยรู้สึกว่าเป็นอุปสรรคในชีวิตเหมือนกัน เวลาที่อยากเรียน หรือสมัครเรียนอะไรแล้ว ต้องมีวิชานี้มาเกี่ยวข้อง เหมือนมันมาเพื่อขัดขวางทางชีวิต และความสำเร็จของตนเองอย่างมากมายจริงๆ และเอาชนะความไม่ถนัดนี้ไม่ได้ด้วย
รู้สึก ขณะเกิดเหตุการณ์ น้อยใจ เพราะอะไรต้องไม่เก่งเลขด้วย วิชาอื่นก็ได้นิ เช่น สังคม สุขศึกษาอะไรแบบนี้นะ แต่นี่คณิตศาสตร์
รู้สึก ขณะขอบคุณ ยอมรับ ก็คงต้องพยามต่อไปหากจะไปสมัครเรียนที่ไหน และต้องมีวิชาคณิตฯเข้ามาเกี่ยวข้อง หรือไม่ก็เลือกเรียนที่มีวิชานี้เป็นหน่วยกิตที่ไม่ต้องมาก
รู้สึก หลังขอบคุณ สบายใจ ก็แค่พยามให้มากกว่าคนอื่น เลิกคิดมากเลิกน้อยใจ ด้วยว่าคนอื่นอาจจะไม่ถนัดทั้งวิชาหลักเลย อย่างเช่น คนที่เก่งทางด้านกีฬา เป็นต้น ก็แค่ยิ้มเมื่อเจอโจทย์ยาก และเป็นการยิ้มจากใจด้วย และจริงใจด้วย เพราะมันต้องตามนั้นนะ ยิ้มได้ยิ้มดี และพยามต่อไป
ภาพ pinterest
3. ขอบคุณ เบื่อความเป็นเป็ด
เพราะ ทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น แต่ไม่ค่อยชำนาญอะไรเท่าไรเลย แล้วมันก็รู้สึกเหมือนครึ่ง ๆ กลาง ๆ อย่างไรไม่รู้
รู้สึก ขณะเกิดเหตุการณ์ เหนื่อยล้า กับความรู้สึกว่าความสามารถของตัวเองนั้นเป็นเหมือน เป็ด เลย บินได้ ว่ายน้ำได้ ออกไขได้ ทำได้ทุกเรื่อง แต่ไม่เก่งสักเรื่องเลย
รู้สึก ขณะขอบคุณ ใจชื่น อย่างน้อยก็ทำได้ ดีกว่าทำอะไรไม่ได้เลย ไม่ถนัดอะไรเลย แสดงว่าเป็นคนเรียนรู้ได้ในทุกเรื่อง ก็เก่งไปอีกแบบนะ เรียกว่า ทำได้ตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ
รู้สึก หลังขอบคุณ ปล่อยวาง ทำไรได้นอกจากจะทำในสิ่งที่เราคิดว่าเราถนัดมากที่สุด นอกนั้นที่ทำอะไรก็ได้ถือว่าเป็นกำไร ไม่แน่ว่าบางคนอาจจะทำได้อย่างเดียวแต่อย่างอื่นทำอะไรไม่ได้เลย ไม่เป็นเลย ก็นะ ใช้ชีวิตยากไปอีกแบบ ถือว่าเรามีการปรับตัวที่ดี และการประยุกต์ใช้ที่ดี คราวหน้าก็แค่ยิ้มให้กับความสามารถที่แสนประเสริฐนี้เท่านั้น เป็นการยอมรับตัวเองไปในตัวด้วย ยิ้มให้แล้วกับความรู้สึกแบบนี้ รู้สึกดีจริง ๆ
4. ขอบคุณ เบื่อการหาข้อดีของตัวเอง
เพราะ เนื่องด้วยความสามารถที่เป็นเป็ดของตัวเองนั่นเอง การหาข้อดีของตัวเองนั้นอาจจะยากไปสักหน่อย เวลาที่ต้องการกำลังใจ เพื่อการก้าวต่อไปในอนาคต
รู้สึก ขณะเกิดเหตุการณ์ เบื่อ ตัวเองอย่างมาก ควรที่จะมีข้อดีที่มากกว่านี้ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับตนเอง เวลาที่มีคนถามว่า เธอมีข้อดีอะไร นอกจาก ร่าเริง
รู้สึก ขณะขอบคุณ ขอบคุณตัวเอง ที่ไม่เคยท้อในการหาข้อดีของตัวเองเลยสักครั้งเดียว
รู้สึก หลังขอบคุณ ประหลาดใจ อาจเพราะการพยามหาข้อดีของตนเองนั้นทำให้เรารู้จักตัวเอง ในมุมที่ตัวเองก็ไม่เคยรู้จักตัวเองมาก่อน เราทำแบบนี้ได้ด้วยหรือ เรามีข้อดีแบบนี้ด้วยหรือ อย่างน้อยก็ความอดทนที่จะทำในสิ่งใหม่ ไม่ยอมแพ้ในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ไม่กลัวที่จะก้าวออกมา และสามารถยิ้มให้กับตัวเอง
และข้อดีของตัวเองได้แบบงง ๆ อีกด้วย ทุกอย่างไม่ได้เลวร้ายเหมือนที่คิดเลย นี่งัยเป็นข้อดีของตัวเองอีกอย่างหนึ่ง คือ แค่ยิ้ม กับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า และการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี คือ ข้อดีอีกข้อที่ค้นพบ หลังจาก ยิ้มได้จากหัวใจ
ภาพ pinterest
5. ขอบคุณ เบื่อการบ้านที่ต้องหาเหตุขอบคุณทุกวัน
เพราะ มันต้องใช้การสังเกตอย่างมากมาย ในชีวิตประจำวันที่แสนจะวุ่นวาย และความรู้สึกที่จับยากแบบที่ต้องเอามาบรรยายเป็นตัวหนังสือแบบนี้ ในเมื่อทุกครั้งก็แค่อยู่ในหัวว่าเรารู้สึกแบบนี้นั้นโน้น แต่นี่ต้องมาเขียนเป็นบรรยายเป็นตัวหนังสือ ในแบบที่คนอ่านเข้าใจได้ง่ายด้วย เพราะความรู้สึก อารมณ์บางอย่างก็ยากต่อการพรรณนามากมายจริง ๆ
รู้สึก ขณะเกิดเหตุการณ์ สับสน ในภาษาที่ต้องนำมาใช้ และต้องสรรหา และต้องจดจ่อต่ออารมณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น รวมถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ อย่างละเอียด เพื่อที่จะนำมาบรรยายด้วยตัวอักษรได้
รู้สึก ขณะขอบคุณ สมาธิ ที่มาขึ้น เพราะเราใช้ใจทั้งหมดของเราเพ่งไปที่เรื่อง เหตุการณ์ ความรู้สึก อารมณ์ที่เราต้องการเขียนลงไป
รู้สึก หลังขอบคุณ ปลื้มใจ เราก็ทำได้ดีนะ แค่ต้องฝึกฝน คราวหน้าจะยิ้มให้กว้างกว่านี้ ใจที่เบาก็เบาขึ้นไปอีก เหมือนการนั่งสมาธิในแบบของการเรียนหนังสือ แทนที่จะใช้ตัวรู้เป็นผู้รู้อย่างเดียวในขณะที่นั่งสมาธิ มันทำให้อะไร ๆ หลายอย่างชัดเจนขึ้นมา เมื่อเอามาเขียนเป็นตัวอักษร มันเหมือนมันจับต้องได้ ทำนามธรรมให้เป็นรูปธรรม ดังนั้น การยิ้มจากหัวใจ นี่เป็นเรื่องที่เยียวยาได้ถูกจุดมากกว่าที่เคย ด้วยความที่มันชัดเจนขึ้น
ภาพ pinterest
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
